วันที่ 16 ต.ค.2568 เวลา 10.35 น.ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายไชยา พรหมา รองประธานสภาฯคนที่1 เป็นประธานการประชุม ได้พิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา ของน.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ สส.กทม.พรรคเพื่อไทย ถาม รมว.มหาดไทย เรื่อง เกี่ยวกับการโยกย้ายข้าราชการครั้งใหญ่ 45 ตำแหน่ง ว่า ทำไมรัฐบาลถึงกล้าทำ เพราะการโยกย้ายครั้งนี้ไม่ได้ตอบโจทย์ปัญหาของประชาชนที่มีอยู่ในขณะนี้ ทั้งปัญหาความมั่นคงภายในและภายนอกประเทศ พื้นที่เขตชายแดนยังเกิดความระส่ำระสายอยู่ ประชาชนส่วนมากต้องมานั่งรับโทรศัพท์จากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ สแกมเมอร์ เว็บพนันที่กลับมาอีกแล้ว
ก่อนหน้านี้ในรัฐบาลของน.ส.แพทองธาร ชินวัตร ได้ปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์อย่างจริงจัง จนประชาชนยังแปลกใจว่าทำไมที่ผ่านมาไม่ได้รับโทรศัพท์จาก แก๊งคอลเซ็นเตอร์อีกเลย ตอนนี้ประชาชนไม่รู้จะพึ่งใครนอกจากพึ่งตัวเอง ทำไมรัฐบาลไม่มุ่งแก้ไขปัญหาให้เกิดความต่อเนื่องจากชุดรัฐบาลที่แล้วได้ทำมา ซึ่งการโยกย้ายข้าราชการครั้งนี้นอกจากไม่ตอบโจทย์ปัญหาของประเทศชาติแล้ว ยังถูกมองได้ว่าการโยกย้ายนั้นเป็นไปเพื่อประโยชน์ในการเลือกตั้งของพรรคฝ่ายรัฐบาลขณะนี้ด้วย ดิฉันไม่สามารถตอบแทนได้ว่าจริงหรือไม่ แต่สิ่งที่ท่านทำเป็นภาพที่ปรากฏชัดว่า ท่านทำไปเพื่อความได้เปรียบในการเลือกตั้ง และเพื่อประโยชน์ของตัวท่านเองทั้งนั้น ไม่มีประชาชนอยู่ในสมการความคิดนี้เลย
น.ส.ธีรรัตน์ กล่าวต่อว่า ในขณะที่ทั่วโลกกำลังกดดันประเทศกัมพูชา หรือแม้กระทั่งพรรคเพื่อไทยก็ทำทุกวิถีทาง ในการที่จะทะลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เราทำจนกระทั่งผู้นำของเราถูกการตอบโต้กลับมาโดยที่ต้องลงจากตำแหน่งไปด้วย เป็นความน่าเสียดายอย่างยิ่งเพราะหากรัฐบาลของพรรคเพื่อไทยได้ทำงานต่อ แก๊งคอลเซ็นเตอร์จะไม่สามารถกลับมาลุกลามหรือหลอกลวงพี่น้องคนไทยได้อีกเลย แต่รัฐบาลปัจจุบันนอกจากจะไม่ใส่ใจแล้วยังเอาแต่โยกย้ายข้าราชการเพื่อความได้เปรียบในการเลือกตั้ง เป็นการสะท้อนทำให้ได้เห็นว่า มองแต่ประโยชน์ของตนเองและพวกพ้องเท่านั้น นอกจากนี้ขบวนการฟอกเงินที่บ่อนคาสิโนในกัมพูชา สมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา เพิ่งประกาศว่าจะเปิดโปงนักการเมืองไทยที่ไปเปิดบ่อนอยู่ที่กัมพูชา เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่จะจริงหรือไม่จริงไม่รู้ ฮุน เซน อาจจะพูดมาเอง
“ทำไมเราไม่เห็นท่าทีของรัฐบาลที่จะแก้ไขเรื่องนี้ ท่านควรจะต้องออกมารับรู้ รับทราบปัญหาและชี้แจงกับประชาชนได้ทราบว่าจะจัดการกับปัญหาเหล่านี้อย่างไร เพราะประเทศต่างๆ ได้อพยพพลเมืองของพวกเขากลับประเทศโดยด่วน จากประเทศกัมพูชา เช่น เกาหลีใต้ที่ได้ใช้ยาแรงในการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ แต่แปลกใจว่ารัฐบาลไทยเงียบมาก เงียบกริบ ไม่ได้พูด และไม่ได้กระดิกในเรื่องนี้เลย จึงทำให้ตนอดสงสัยไม่ได้ว่า รัฐบาลชุดนี้มีส่วนรู้เห็น หรือช่วยเปิดทางให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์หรือสแกมเมอร์ เข้ามาหลอกลวงพี่น้องประชาชนคนไทยหรือไม่” น.ส.ธีรรัตน์ กล่าว
น.ส.ธีรรัตน์ กล่าวต่อว่า ส่วนภารกิจแรกที่ท่านได้ทำ คือสั่งยุบชุดปฏิบัติการการปราบปรามเว็บพนันและคอลเซ็นเตอร์ ชี้ชัดได้ว่านอกจากท่านไม่ให้ความสำคัญแล้ว ท่านยังอาจไปเป็นส่วนร่วมรู้เห็นในการหลอกลวงประชาชนครั้งนี้ ซึ่งอาจจะแตกต่างจากข้อตกลงระหว่างพรรคประชาชน กับพรรคภูมิใจไทย อาจจะเป็นข้อตกลง ระหว่างประเทศที่เอารัฐบาลเข้าไปเกี่ยวข้องระหว่างรัฐบาลไทยและรัฐบาลกัมพูชา ในการที่ท่านได้ขึ้นมาสู่อำนาจเป็นผู้นำรัฐบาลในครั้งนี้ และการโยกย้ายข้าราชการในขณะนี้ ยิ่งทำให้กิจการภายในมีความอ่อนแอลง ข้าราชการขวัญหนีดีฝ่อ หรือแม้แต่การโยกย้ายข้าราชการที่มีความเกี่ยวข้องกับการช่วยเหลือให้รัฐมนตรีที่มีความเกี่ยวพันกับคดีความต่างๆ ให้พ้นจากความผิด
เรื่องนี้เป็นสิ่งที่เคลือบแคลงใจประชาชนว่า ทำไมท่านถึงกล้าทำให้ข้าราชการที่มีส่วนเกี่ยวข้องเหล่านั้นมาดำรงตำแหน่งสำคัญ และท่านต้องตอบว่าใช้หลักการใดในการที่โยกย้ายข้าราชการเหล่านี้ให้กลับมาทำหน้าที่ ที่เป็นข้อกังขาในสังคมขณะนี้ หากท่านตอบว่าทำไปเพื่อคืนความยุติธรรม ความถูกต้อง ที่ผ่านมาไม่ถูกต้อง ตนต้องบอกว่าข้าราชการระดับ 10 เป็นอำนาจของปลัดกระทรวงฯ ในการโยกย้ายครั้งที่แล้วปลัดกระทรวงฯที่เป็นคนเซ็นหนังสือและการโยกย้ายครั้งนี้ก็เป็นปลัดกระทรวง เช่นเดียวกัน ที่เป็นคนเซ็นหนังสือโยกย้ายครั้งนี้ ถ้าบอกว่าเป็นความไม่ยุติธรรม ที่เกิดขึ้น เราต้องย้อนกลับไปตั้งแต่อดีต
“คำพูดที่สวยหรูของท่าน หรือความยุติธรรมที่ท่านกล่าวถึงไม่มีจริง เป็นคำพูดที่ทำให้ดูดี และพูดที่ให้คนไร้เดียงสาทางการเมืองฟังเท่านั้น แต่ประชาชนที่ติดตามเข้าใจดีว่าเกิดอะไร โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ท่านบอกว่าท่านมาในช่วงเปลี่ยนผ่านเท่านั้น ไม่ทำอะไรมากไปกว่าการแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญ แต่ท่านไม่แสดงความจริงใจตรงนั้นให้เราเห็น” น.ส.ธีรรัตน์ กล่าว
นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ รมช.มหาดไทย ชี้แจงแทนรมว.มหาดไทย ว่า เรื่องการแต่งตั้งโย้กย้ายข้าราชการ ซึ่งเดือน ต.ค.เป็นเดือนสิ้นปีงบประมาณ คือ 30 ก.ย.มีข้าราชการในกระทรวงมหาดไทยเกษียณ 20 กว่าตำแหน่ง เพราะฉะนั้นเรื่องการแต่งตั้งเมื่อมีตำแหน่งว่างก็ต้องมีคนไปแทน ทั้งนี้ ตนได้มาสืบค้นข้อมูลช่วงที่รัฐบาลที่แล้วมีการโยกย้ายถือว่าเป็นนอกฤดู ส่วนที่ครม.มีมติโยกย้ายเมื่อวันที่ 14 ต.ค.ที่ผ่านมาถือว่าอยู่ในฤดูโยกย้าย แต่ก่อนหน้านั้นมีมติครม.3 ครั้ง ครั้งแรกวันที่ 8 ก.ค.มีการโยกย้าย 4 คน เป็นการโยกย้ายที่รุนแรง ตนไม่ทราบว่าคนระดับอธิบดีถูกย้ายไปเป็นผู้ตรวจ ตนเป็นข้าราชการเก่ามา ถือว่าถ้าเขาย้ายอธิบดีไปเป็นผู้ตรวจ หากเป็นทหารก็เหมือนเนรเทศออกไปอยู่ที่อื่น หรือเข้ากรุ ครั้งที่2 และครั้งที่3 ในเดือนส.ค.ก็มีการย้ายอีก อย่างนี้ไม่ใช่ย้ายแล้ว
“รัฐบาลนี้โยกย้ายในช่วงที่มีการเกษียณ ถือว่าเป็นเรื่องปกติ ทุกคนได้รับความเป็นะรรม และเชื่อว่าปลัดกระทรวงคงพิจารณาดีแล้ว ตนเชื่อว่าข้าราชการทุกคนทรายบว่าถ้าไม่ได้รับความเป็นธรรม หรือคำสั่งที่ผิด ก็สามารถไปร้องกับคณะกรรมการพิทักษ์คุณธรรมหรือไปฟ้องศาลปกครองได้ ตนไม่อยากให้เอาประเด็นอย่างนี้มาเป็นประเด็นทางการเมือง ทำให้ประชาชนสับสน”นายศักดิ์ดา กล่าว
นายศักดิ์ดา กล่าวว่า ส่วนเรื่องแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ ตั้งแต่การเลือกตั้งเรามีรัฐบาลมา 3 รัฐบาล แก๊งค์คอลเซ็นเตอร์น่าจะมีมาก่อนหน้านั้น ไม่ใช่เพิ่งมีรัฐบาลนายอนุทิน ชาญวีรกูล แต่ตนเห็นว่า2 รัฐบาลที่ผ่านมาปราบแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์จริงจังช่วงปลายรัฐบาลก่อนหน้านี้เอง มีรัฐมนตรีช่วยจากประเทศจีนมาให้เราไปปราบ แล้วเริ่มปราบเรื่อยมา และรัฐบาลนายอนุทินเพิ่งทำงานได้ 10 กว่าวันเรื่องการปราบแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ยังทำอยู่ไม่ใช่ไม่ทำ แต่ก่อนหน้านั้นก็เป็นรัฐบาลร่วมกันมา หากพูดว่าเราไม่ทำตนคิดว่าไม่ถูกเสียทีเดียว
น.ส.ธีรรัตน์ ถามต่อว่า สิ่งที่รัฐบาลชุดนี้ทำเห็นได้ชัดว่าเกิดขึ้นหลังจากการที่มีการเข้ารับตำแหน่งของข้าราชการเมื่อวันที่ 1 ต.ค. และตำแหน่งที่โยกย้าย ไม่ใช่ตำแหน่งที่เกษียณ ที่ท่านบอกว่าท่านจะอยู่ไม่นาน อยู่แค่ระยะเปลี่ยนผ่าน แต่หน้าที่หลักที่ท่านทำคือการโยกย้ายข้าราชการ ขอให้หยุด ให้ข้าราชการได้ทำงานของเขา ให้มีกำลังใจที่ดี งานเดินหน้าต่อได้ต่อเนื่อง เอาเวลาที่ท่านมีไปแก้ไขปัญหาให้ประชาชนดีกว่า และตำแหน่งที่ท่านโยกย้ายไป อธิบดีต่างๆ เขาทำอะไรผิดถึงไปย้ายเข้าออกจากตำแหน่ง และเรื่องคอลเซ็นเตอร์ที่สมเด็จฮุน เซน ระบุว่าจะประจานนักการเมืองไทย เปิดโปงว่าใครไปเปิดบ่อนที่กัมพูชาบ้าง ท่าทีของรัฐบาลเป็นอย่างไร จะปล่อยให้เขามาเหยียบย่ำบ้านเราแบบนี้หรือ เห็นหรือไม่ว่าเวลาไม่เยอะ แม้แต่เรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญเมื่อวันที่ 15 ต.ค.ก็เป็นบทที่แสดงให้เห็นแล้วว่าท่านไม่มีความจริงใจกับข้อตกลงที่ท่านบอกว่าจะแก้ไขรัฐธรรมนูญและยุบสภา เพราะเพียงแค่เลือกใช้ร่างของพรรคประชาชน หรือเลือกใช้ร่างของรัฐบาล สว. สมาชิกรัฐบาลก็กลับบ้าน ทำให้คะแนนไม่พอ แสดงถึงความไม่จริงใจในการแก้ไขปัญหาหลักของประเทศในขณะนี้
นายศักดิ์ดา ชี้แจงว่า ตนอยากขอเอกสารหรือการยืนยันว่ารัฐบาลที่แล้วมีการปราบปรามแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์หมดไปจริง เพราะไม่น่าเชื่อว่าหมด 100% ตนยังยืนยันว่ารัฐบาลนี้ก็ยังปราบปรามแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์เหมือนเดิมไม่มีลดละ เพราะการที่เราจะไปปราบแก๊งค์ขอเซ็นเตอร์ให้หมดสิ้น โดยบอกว่าเหลือเป็นศูนย์เลยจากรัฐบาลที่แล้ว ตนว่าถ้าท่านไปพูดให้ใครฟัง เขาอาจจะฟังแต่ความเชื่อเขาอาจจะไม่แสดงออก ตนคนหนึ่งที่ไม่เชื่อเมื่อวานนี้หรือวันก่อนก็มีคนบ่นว่าไหนบอกว่าเป็นศูนย์เพราะเดือนที่แล้วก็มี จึงอยากให้ท่านไปทบทวนใหม่เกี่ยวกับเรื่องนี้
นายศักดิ์ดา กล่าวต่อว่า ส่วนที่บอกว่าตำแหน่งที่ย้ายเขามีความผิดอะไร ซึ่งมติครม.3 ครั้งที่มีการโยกย้ายในรัฐบาลที่แล้ว น.ส.ธีรรัตน์ ก็เป็นรมช.มหาดไทย เหมือนตนตำแหน่งเดียวกันด้วย ก็มีคำสั่งย้ายเหมือนกัน เราไม่ได้ว่าใครย้ายใครผิดใครถูก ยืนยันว่าการโยกย้ายทางปลัดกระทรวงฯเสนอในช่วงนั้นมีเหตุผลกับสถานการณ์ทีาเกิดขึ้น ณ วันนั้นซึ่งก็เข้าใจได้ และเมื่อปลัดกระทรวงฯ มาเสนอต่อครม.วันที่ 14 ต.ค.ตนก็เชื่อว่ามีเหตุผล ส่วนใหญ่การโยกย้ายข้าราชการจะอ้างว่าเหมาะสมกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในแต่ละครั้ง
“เราอย่าไปรื้อฟื้นเลย อดีตอธิบดีกรมการปกครอง ท่านจะเกษียณอีก 2 เดือน เราย้ายเขาไปเป็นผู้ตรวจ ไม่ได้ทำร้ายจิตใจเขาเลยหรือ ถ้าพูดอย่างนี้มันก็ไม่จบ เรื่องโยกย้ายเป็นเรื่องปกติ เรามีกฎเกณฑ์ กติกาของระบบราชการอยู่ ถ้าข้าราชการถูกโยกย้ายไม่เป็นธรรม มันมีฎีกา มีการลงโทษ ผู้ที่กระทำผิดถึงขั้นจำคุก คดีอาญา และผมเชื่อว่าข้าราชการทุกท่านทมราบดี แต่เราจะเอามาเป็นประเด็นทางการเมืองโจมตีกันก็ไม่เกิดประโยชน์ ”นายศักดิ์ กล่าว
นายศักดิ์ดา กล่าวว่า ส่วนที่พูดถึงฮุน เซน ผมก็ไม่อยากอธิบายว่าใครสนิทกับฮุน เซน ใครรู้จักฮุน เซน ใครรู้จักเขมร ตนว่าพูดอย่างนี้ก็ไม่เกิดประโยชน์ ตนอยากให้ท่านพูดเรื่องที่ประชาชนลำบาก เรื่องปากท้องมากกว่า ถ้าพูดแต่ประเด็นทางการเมืองประชาชนไม่ได้อะไรเลย วันนี้ราคาสินค้าเกษตรทุกดีตัวขึ้น หลังจากปิดด่านชายแดนไทย กัมพูชา วันนี้ราคามันสำปะหลังตันละ 3,000 บาทถ้าคุณภาพดีตันละ 3,500 บาท เมื่อก่อนเหลือตันละ 1 พันกว่าบาท ทั้งนี้ตนเชื่อว่าเรื่องกัมพูชา รัฐบาลนี้ทำดีกว่ารัฐบาลที่แล้วแน่นอน ไม่มีลุง ไม่มีนายทุน มีแต่การต่อสู้เพื่อรักชาติ รักษาอธิปไตย
น.ส.ธีรรัตน์ กล่าวในช่วงท้ายว่า ทุกอย่างคือการเมือง แต่ที่สำคัญคือการเมืองที่เป็นประโยชน์กับประชาชน ไม่ใช่การเมืองที่วนอยู่กับประโยชน์ของตัวเองพวกพ้องเท่านั้น สิ่งที่ท่านบอกว่าปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ตนคิดว่าคือการปล่อยมากกว่า ปล่อยให้ คอลเซ็นเตอร์หลอกลวงคนไทย เพราะในช่วงที่ผ่านมาหมดไปจริงๆ อาจจะไม่หมดเหลือศูนย์ เพราะอาจจะโยกย้ายฐานไปที่อื่น แต่ที่ผ่านมาลดน้อยลง และที่ท่านบอกว่ามติครม. ในเรื่องการโยกย้ายที่ผ่านมา ท่านจำผู้ว่าฯอุบลราชธานีได้ใช่หรือไม่ ตอนที่ที่เกิดเหตุปะทะที่ชายแดน และมีการสั่งจ่ายงบประมาณออกไปตามจังหวัด และมีจังหวัดที่เกิดเหตุเป็นปัญหาอยู่จึงทำให้มีการปรับเปลี่ยนการทำงานนั้น มีเหตุและผล ท่านอาจจะมัวอยู่แต่เรื่องตัวเองจึงไม่รู้เรื่องของประเทศชาติ แต่อย่างไรก็ตามอยากให้ประชาชนมีกำลังใจที่ดีต่อไป และขอเป็นกำลังใจให้กับข้าราชการดีๆ ที่ยืนหยัดทำงานอยู่กับความถูกต้องในสิ่งที่ควรทำ ดูแลประชาชนด้วยความซื่อสัตย์สุจริต