เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2568 ไฮแธม อัล ไกส์ (Haitham Al Ghais) เลขาธิการกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก – OPEC) เปิดเผยว่า โลกยังจำเป็นต้องพึ่งพาการลงทุนเพิ่มเติมในภาค น้ำมันและก๊าซธรรมชาติ เนื่องจากน้ำมันยังคงมีบทบาทสำคัญในระบบพลังงานโลก โดยคาดว่าจะครองสัดส่วนราว 30% ของพลังงานทั่วโลกจนถึงปี 2593 (ค.ศ.2050)
อัล ไกส์ กล่าวระหว่างการประชุม Russian Energy Week ที่กรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย ว่า การขยายตัวของเศรษฐกิจ การเพิ่มขึ้นของประชากร และการขยายตัวของเมืองทั่วโลก ล้วนเป็นปัจจัยที่ทำให้ความต้องการพลังงานในอนาคตสูงกว่าระดับปัจจุบัน พร้อมประเมินว่า ความต้องการพลังงานขั้นต้นทั่วโลกจะเพิ่มขึ้นถึง 23% ภายในปี 2593
เขาระบุด้วยว่า แม้สถานการณ์เศรษฐกิจโลกจะเต็มไปด้วยความผันผวน แต่โอเปกยังคงยึดมั่นในหลักการวิเคราะห์ข้อมูลอย่างรอบด้านและมีความเป็นมืออาชีพ เพื่อประเมินแนวโน้มตลาดน้ำมันได้อย่างแม่นยำและมีเสถียรภาพ
ทั้งนี้ การคาดการณ์ของโอเปกถือว่าสูงกว่าหลายสถาบัน เช่น สำนักงานพลังงานระหว่างประเทศ (IEA) ที่ประเมินว่า ความต้องการน้ำมันทั่วโลกจะถึงจุดสูงสุดในปี 2572 (ค.ศ.2029) และอาจเกิดภาวะ น้ำมันล้นตลาด มากถึง 4 ล้านบาร์เรลต่อวันภายในปี 2569 (ค.ศ.2026)
ขณะเดียวกัน กลุ่ม โอเปกพลัส (OPEC+) ซึ่งรวมถึงรัสเซียและประเทศพันธมิตร ได้เพิ่มปริมาณการผลิตน้ำมันในตลาด หลังจากสมาชิกบางประเทศตัดสินใจ ยกเลิกข้อจำกัดการผลิตเร็วกว่ากำหนด การเพิ่มอุปทานดังกล่าวสร้างความกังวลว่าอาจนำไปสู่ภาวะน้ำมันล้นตลาด และส่งผลกดดันต่อราคาน้ำมันในช่วงปลายปีนี้
#โอเปก #OPEC #ราคาน้ำมัน #พลังงานโลก #น้ำมันก๊าซ #ข่าวเศรษฐกิจ #RussianEnergyWeek #IEA #ข่าวต่างประเทศ #Siamrath