ประเทศไทยกำลังเผชิญหน้ากับวิกฤตพฤติกรรมการใช้สื่อดิจิทัลในกลุ่มเด็กและเยาวชน เมื่อผลสำรวจล่าสุดเผยตัวเลขที่น่าตกใจ เด็กและเยาวชนไทยใช้งานอินเทอร์เน็ตพุ่งสูงถึง 98.2% (เพิ่มขึ้นจาก 86.3% ในปี 2562) ตัวเลขที่พุ่งทะยานนี้ไม่เพียงแต่สะท้อนถึงการเข้าถึงเทคโนโลยีเท่านั้น แต่ยังเป็นสัญญาณเตือนถึงภัยคุกคามและความเสี่ยงที่มาพร้อมกับโลกออนไลน์
สถานการณ์ดังกล่าวสอดคล้องกับรายงานที่ชี้ว่า เยาวชนไทยจำนวนมากกำลังเผชิญกับภัยร้ายออนไลน์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ 55.3% เคยถูกกลั่นแกล้งออนไลน์, 43.6% เคยเล่นพนันออนไลน์, และ 12% ถูกล่อลวงทางเพศ นอกจากนี้ ข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุขยังตอกย้ำถึงผลกระทบด้านสุขภาพ โดยพบว่าเด็กและเยาวชนมีกิจกรรมทางกายไม่เพียงพออย่างน่าเป็นห่วง และการติดจอยังสัมพันธ์กับความเสี่ยงด้านสุขภาพจิต เช่น ภาวะซึมเศร้า พฤติกรรมก้าวร้าว และความบกพร่องทางพัฒนาการ

เพื่อเร่งแก้ไขและสร้างภูมิคุ้มกันดิจิทัลให้แก่คนรุ่นใหม่ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จึงผนึกกำลังกับ สถาบันสื่อเด็กและเยาวชน (สสย.) สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส (Thai PBS) และ คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จัดงาน “สัปดาห์เยาวชนเท่าทันสื่อ (HOPE HOP FEST)” ขึ้นระหว่างวันที่ 13-15 ตุลาคม 2568 ณ ลิโด้ คอนเน็คท์ งานนี้ไม่ใช่แค่การให้ความรู้ด้านดิจิทัล แต่เป็นความพยายามที่จะ บรรเทาวิกฤตสุขภาพกายและสุขภาพจิต ของเยาวชนไทยที่กำลังถูกคุกคามอย่างหนักจากการใช้สื่อที่ไม่สมดุล
เพราะวิกฤตสุขภาพกายและจิตจากภาวะติดจอของเยาวชนไทยเป็นปัญหาเร่งด่วนที่ต้องแก้ไขอย่างจริงจัง ข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุขและสสส.ชี้ชัดว่า เยาวชนไทยเกือบ 100% เข้าถึงโลกดิจิทัล และใช้เวลาอยู่กับหน้าจอสูงถึง 12 ชั่วโมงต่อวัน ในปี 2567 ซึ่งเป็นเวลาที่มากเกินพอดีและส่งผลกระทบโดยตรงต่อสุขภาพกายและกิจกรรมทางกาย พบว่ามีเยาวชนเพียง 23.1% เท่านั้นที่มีกิจกรรมทางกายที่เพียงพอ เนื่องจากเวลาส่วนใหญ่ถูกใช้ไปกับการ "ติดเก้าอี้" และหน้าจอ ซึ่งนำไปสู่ความเสี่ยงต่อ ภาวะโรคอ้วน และปัญหาพัฒนาการ โดยเฉพาะ กรมอนามัย ได้เน้นย้ำถึงความเสี่ยงที่เด็กเล็กจะเกิด พัฒนาการช้า หากใช้จอมากเกินไป

การติดจอยังนำมาซึ่งวิกฤตสุขภาพจิตที่รุนแรง การใช้จอที่มากเกินไปมีความสัมพันธ์กับปัญหาสุขภาพจิต เช่น ภาวะซึมเศร้า วิตกกังวล รวมถึงพฤติกรรมก้าวร้าวรุนแรงและการ เสพติดเกม ตามผลวิจัยจาก กรมสุขภาพจิต โดยเฉพาะในเด็กเล็ก มีคำเตือนถึงความเสี่ยงที่จะเกิด "ออทิสติกเทียม" ซึ่งมีผลให้พัฒนาการช้าและควบคุมอารมณ์ไม่ได้
ติดอาวุธ 3 มิติ รู้เท่าทันตนเอง-สื่อ-สังคม
นายวิเชษฐ์ พิชัยรัตน์ กรรมการกองทุน สสส. กล่าวว่า วัตถุประสงค์หลักของงานคือการเปิดพื้นที่ให้เด็ก เยาวชน ครอบครัว และผู้ผลิตสื่อ ได้ร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เพื่อสร้างทักษะการใช้สื่อสารสนเทศและดิจิทัล (MIDL) อย่างปลอดภัย พร้อมทั้งสร้างทักษะ “รู้เท่าทันตนเอง เท่าทันสื่อ เท่าทันความรุนแรงในสังคม” และร่วมสร้างค่านิยมด้าน "สันติภาพ"

นางเข็มพร วิรุณราพันธ์ ผู้จัดการมูลนิธิ สสย. เน้นย้ำว่า ปีนี้งานมุ่งขับเคลื่อนประเด็นเรื่องสันติภาพที่เชื่อมโยงกับชีวิตประจำวัน โดยเปิดโอกาสให้เยาวชนจากทั่วประเทศได้แสดงความคิดผ่านสื่อสร้างสรรค์ที่ผลิตด้วยตนเอง เช่น คลิปวิดีโอ “ชิ้นส่วนแห่งสันติภาพ Piece of Peace” ที่สื่อสารการทำงานร่วมกันอย่างเข้าใจและเคารพซึ่งกันและกัน
ด้านรศ.ดร.ปรีดา อัครจันทโชติ คณบดีคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาฯ ย้ำว่า การแก้ปัญหาต้องเริ่มจากการ สร้าง "นิเวศ" สื่อสารเชิงบวก ในครอบครัวและผู้ใหญ่รอบตัวเด็กก่อน พร้อมเสนอให้มีการขยายความร่วมมือกับภาคีด้าน จิตวิทยาและพัฒนาการ เพื่อดูแลปัญหาสุขภาพจิตของเยาวชนที่เพิ่มมากขึ้น
...และเพื่อแก้ไขวิกฤตนี้ ทุกภาคส่วนจึงต้องร่วมมือกันอย่างเร่งด่วนในการสร้างภูมิคุ้มกันและความรู้เท่าทันสื่อ โดยมีหัวใจสำคัญคือการสร้าง "นิเวศสื่อสารเชิงบวก" ตั้งแต่ในครอบครัวและขยายไปสู่สังคม เพื่อให้คนรุ่นใหม่สามารถใช้เทคโนโลยีดิจิทัลได้อย่างปลอดภัย สร้างสรรค์ และเติบโตได้อย่างสมดุลทั้งร่างกายและจิตใจในโลกยุคดิจิทัล...