รัฐบาลเสียงข้างน้อย จะอยู่สั้น หรืออยู่ยาว ดูจะไม่ใช่เรื่องใหญ่ สำหรับ “ภูมิใจไทย” อีกแล้ว เมื่อ “เป้าหมาย” หลายๆเรื่องกำลังบรรลุผล โดยเฉพาะ การออกแรงบริหารจัดการในเรื่อง “การเมือง” !
คนนอกอาจกังวลว่า รัฐบาล “อนุทิน 1” จะอยู่ครบตาม MOAที่ทำเอาไว้กับพรรคสีส้ม “พรรคประชาชน” หรือไม่ เพราะห่วงว่า ยังมีอีกหลายปัญหาที่ยังแก้ไข และคลี่คลายไม่จบ ทั้งเรื่องปากท้อง การเดินหน้าโครงการคนละครึ่งพลัส การตั้งต้นแก้รัฐธรรมนูญ รวมถึงการทวงคืนพื้นที่ ที่ชาวบ้านกัมพูชา บุกรุกและยึดครองที่บ้านหนองหญ้าแก้ว และที่บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว จะจบลงในรัฐบาลชุดนี้ได้หรือไม่

แต่ดูเหมือนว่า ในระหว่างเส้นทาง การเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย ของพรรคภูมิใจไทย กำลังเคลื่อนไหวในโทนของ “การเมือง” เป็นด้านหลัก ทั้งการ “ดูด” สส.และอดีตสส. เข้าพรรคภูมิใจไทย อย่างต่อเนื่อง ไปจนถึงการเปิดปฏิบัติการแต่งตั้งโยกย้าย “บิ๊กข้าราชการ” ในการประชุมครม. อย่างต่อเนื่อง
โดยเฉพาะในส่วนของกระทรวงมหาดไทย เองล่าสุด ในการประชุมครม.วันพรุ่งนี้ (14 ต.ค.) “อนุทิน ชาญวีรกูล” นายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เตรียมนำเสนอบัญชีรายชื่อแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับสูงกระทรวงมหาดไทยในส่วนของ รองปลัดกระทรวง-อธิบดี-ผู้ว่าราชการจังหวัด-ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย
มีรายงานว่าการแต่งตั้งโยกย้ายรอบล่าสุดนี้ เพื่อ “คืนความเป็นธรรม” ให้กับบิ๊กมหาดไทย ที่เคย “โดนย้าย” ครั้งที่ “มท.1” ชื่อ “ภูมิธรรม เวชยชัย” คนของค่ายสีแดง พรรคเพื่อไทย มานั่งเป็นเจ้ากระทรวง
ในตอนนั้น ภูมิธรรม ได้ขยับ “นิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร” ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ขึ้นเป็นอธิบดีกรมการปกครอง แล้วเด้ง “ไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์” จากอธิบดีกรมการปกครอง ไปเป็นผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย ซึ่งไชยวัฒน์ ถูกมองว่า เป็นสายตรงพรรคสีน้ำเงิน
ดังนั้นในการแต่งตั้งโยกย้าย ที่จะมีขึ้นวันพรุ่งนี้ นิรัตน์ สายตรงค่ายสีแดง จึงมีข่าวว่าจะถูกส่งไปเป็น “ผู้ว่าฯ” จังหวัดใด จังหวัดหนึ่ง จากนั้นจะขยับ “พรพจน์ เพ็ญพาส” รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ออกมานั่งอธิบดีกรมการปกครองแทน
นอกจากนี้ จะมีการเปลี่ยนในส่วนของ “ร.ต.ท.ภพชนก ชลานุเคราะห์” จากผู้ว่าฯเพชรบุรี ในสมัยภูมิธรรม พาสชั้นขึ้น “อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น” แต่มารอบนี้อาจ ไปเป็นผู้ว่าฯ แล้วให้ “ปิยะ ปิจนำ” ผู้ว่าฯบุรีรัมย์ ขึ้นเป็นอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น คนใหม่แทน
แน่นอนว่าการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการ โดยรัฐบาล “อนุทิน1” ยังคงไม่จบลงเพียงเท่านี้ แม้ ที่ผ่านมา นายกฯอนุทิน จะเปิดใจกลางสภาฯ ถึงเบื้องหลังการเจรจากับ “แพทองธาร ชินวัตร” อดีตนายกฯ ที่บอกชัดเจนว่า พรรคเพื่อไทย ต้องการกระทรวงมหาดไทย เพราะใกล้เลือกตั้งแล้ว โดยอนุทินบอกในครั้งนั้นว่า แน่ใจได้อย่างไรว่า ถ้าได้กระทรวงมหาดไทยไปแล้ว จะชนะเลือกตั้ง !
ทว่าในความเป็นจริงแล้ว เมื่อพรรคภูมิใจไทย กลับมาเป็นรัฐบาล และ “คุมมหาดไทย” การแต่งตั้งโยกย้าย กำลังดำเนินไปในลักษณะควบคู่กัน คือ ย้ายล้างบาง ไปพร้อมๆกับการวางกำลังหลัก เพื่อเตรียมรับมือการเลือกตั้งที่จะมาถึง ซึ่งคาดว่า “เร็วกว่ากำหนด” ด้วยซ้ำ
และในขณะที่รัฐบาลภูมิใจไทย ดำเนินการจัดทัพ “ข้าราชการ” ในกระทรวงต่างๆ นั้นยังน่าสนใจว่า ย่อมไม่เฉพาะ พรรคภูมิใจไทยเท่านั้น แต่ยังมี “พรรคร่วมรัฐบาล” ต่างพากันใช้สูตรการบริหารจัดการที่ไม่ต่างกัน ผ่าน “รัฐมนตรี” ที่อยู่ในกระทรวงต่างๆ ตามโควตารัฐบาลผสม
ความคึกคักของ “รัฐบาลเสียงข้างน้อย” ที่นำโดย พรรคภูมิใจไทย กำลังสะสม “แต้มต่อ” ทางการเมือง ควบคู่ไปกับงานด้านการบริหาร โดยเฉพาะการปักธงเอาไว้ที่ “นโยบายคนละครึ่งพลัส” ที่จะเริ่มคิ๊กออฟ เปิดลงทะเบียนในปลายเดือนนี้
โดยครม.ได้อนุมัติมาตรการดังกล่าวแล้วเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 68 ใช้เม็ดเงิน 44,000 ล้านบาท ประชาชนที่ ได้รับสิทธิสามารถใช้สิทธิโครงการได้ ตั้งแต่วันที่ 29 ตุลาคม ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 68 โดยจะมีผู้ได้รับสิทธิ อยู่ที่ "20 ล้านคน"
นั่นหมายความว่า พรรคภูมิใจไทย มี “ผลงาน” ที่จะสามารถำไปใช้ “หาเสียง” ได้แล้ว เพราะเมื่อดูจากไทม์ไลน์ การได้รับสิทธิคนละครึ่งพลัส จะมีขึ้นก่อนการยุบสภาฯในปีหน้า 2569
จากความพร้อมสำหรับพรรคภูมิใจไทย ที่เดินเกมเร็ว ใช้ทุกวัน ทุกนาทีให้มีค่าอย่างที่เห็น ด้วยเหตุนี้ ไม่ว่าใครจะไปถามนายกฯอนุทิน ว่ากังวล เรื่องรัฐบาลอยู่ไม่ถึง 4 เดือนหรือไม่ ค่ายสีน้ำเงินจึงแทบไม่มีอะไรที่จะต้องหนักใจ !!