ภารกิจซ้อนแผนสกัดจับแรงงานต่างด้าวครั้งใหญ่กลางเมืองกาญจน์! ตำรวจทางหลวงร่วมฝ่ายปกครองจังหวัดกาญจนบุรี ซุ่มติดตามรถบรรทุก 6 ล้อ ตู้ทึบไร้ป้ายทะเบียน ก่อนเข้าขวางจับกลางเมือง ท่ามกลางเหตุการณ์สุดระทึก เมื่อเปิดประตูท้ายรถถึงกับตะลึง พบแรงงานเมียนมาทั้งชายหญิงอัดแน่นรวม 108 คน เหมือน “ปลากระป๋องมีชีวิต” หวังเดินทางไปทำงานในจังหวัดชายฝั่งและประเทศมาเลเซีย
เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 11 ต.ค.68 นายอธิสรรค์ อินทร์ตรา ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ได้รับการประสานจาก พ.ต.ท.โจ เสาร์ประโคน สว.ส.ทล.6 กก.2 บก.ทล. ให้สนับสนุนกำลังฝ่ายปกครองในการสกัดจับรถบรรทุก 6 ล้อ ตู้ทึบต้องสงสัยไม่ติดป้ายทะเบียน ซึ่งคาดว่าลักลอบขนแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมา

เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงใช้รถยนต์ส่วนตัวที่ไม่ติดโลโก้ราชการติดตามอย่างลับๆ บนถนนสาย 323 ก่อนรถเป้าหมายเลี้ยวเข้าถนนวัดเขาเม็งอมรเมศร์ ต.ปากแพรก อ.เมืองกาญจนบุรี เกรงว่าจะเลี่ยงขึ้นมอเตอร์เวย์ M81 เจ้าหน้าที่จึงตัดสินใจขับแซงขึ้นขวางหน้ารถจนสามารถควบคุมตัวคนขับไว้ได้ ทราบชื่อภายหลังคือ นายโอ๊ต (ไม่มีนามสกุล) ชาวกะเหรี่ยง อาศัยอยู่ในพื้นที่ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี เมื่อเปิดประตูท้ายรถ เจ้าหน้าที่ถึงกับตกตะลึง พบแรงงานต่างด้าวทั้งชาย 70 คน หญิง 38 คน รวม 108 คน เบียดเสียดแน่นขนัดอยู่ภายในตู้ทึบแทบไม่มีอากาศหายใจ

นายโอ๊ต ให้การรับสารภาพว่า ได้รับการว่าจ้างจากชายชื่อ “นายเอ” (นามสมมุติ) ให้นำรถมาจากพื้นที่ อ.ทองผาภูมิ เพื่อขับมาจอดไว้ในพื้นที่ป่าบ้านเขาเม็ง โดยได้ค่าจ้างเพียง 7,000 บาท และยอมรับว่าเคยทำมาแล้ว 2 ครั้ง ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3
ด้านแรงงานเมียนมาบางราย เปิดเผยผ่านล่ามว่า พวกตนลักลอบเข้าประเทศทางช่องทางธรรมชาติ บริเวณบ้านพระเจดีย์สามองค์ อ.สังขละบุรี จากนั้นมีคนนำพาเดินเท้าผ่านป่ากลางคืน ก่อนลงเรือข้ามอ่างเก็บน้ำเขื่อนวชิราลงกรณ เข้าพื้นที่ทองผาภูมิ และถูกส่งต่อขึ้นรถบรรทุกเพื่อไปทำงานในจังหวัดสมุทรสงคราม สมุทรสาคร และบางส่วนต้องการเดินทางต่อไปยังประเทศมาเลเซีย โดยแต่ละคนต้องจ่ายค่านำพาให้ขบวนการค้ามนุษย์รายละ 20,000–30,000 บาท

เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวคนขับรถและแรงงานต่างด้าวทั้งหมด ส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองกาญจนบุรี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมเร่งขยายผลตามล่าหาตัวนายหน้าและเจ้าของรถที่อยู่เบื้องหลังขบวนการนี้
#ภูมิภาค-16