วันที่ 11 ต.ค.2568 นายวัชระ กรรณิการ์ คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และโฆษกกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวถึงกรณีนายภัทรพงษ์ ลีลาภัทร์ สส.เชียงใหม่ พรรคประชาชน กล่าวหานายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ลงพื้นที่ติดตามการแก้ไขปัญหาสารพิษในน้ำกก เป็นสร้างภาพหรือไม่ ว่าตนอยากให้นายภัทรพงษ์ทำใจให้กว้างๆ ลดอคติในการมองนายสุชาติลง อย่ามองการเมืองเพียงแค่ด้านเดียว เพราะในข้อเท็จจริงการเดินทางลงพื้นที่ จ.เชียงใหม่และเชียงรายนั้น นายสุชาติตั้งใจจะไปรับฟังปัญหาและแก้ปัญหาจริง หากนายสุชาติจะสร้างภาพ ก็คงไม่จำเป็นต้องนำอธิบดี หรือหัวหน้าส่วนราชการแทบทุกกรมที่แทบจะยกกระทรวงไปเพื่อรับฟังปัญหาจริงๆจังๆแบบนี้
ซึ่งถ้าจะสร้างภาพจริงคงไปกันไม่กี่คนก็พอ ขณะเดียวกันถ้าจะสร้างภาพคงไม่เชิญนายกัณวีร์ สืบแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม ซึ่งเป็นฝ่ายค้านที่ฝีปากกล้า และเป็นผู้ที่สนใจเรื่องสิ่งแวดล้อมมากที่สุดคนหนึ่งไปด้วย ที่สำคัญถ้าหากนายภัทรพงษ์ทำการบ้านมากกว่านี้ก็จะเห็นได้ว่า นายสุชาติได้เชิญผู้นำภาคประชาสังคมและเอ็นจีโอต่างๆ ที่รับรู้ปัญหาในพื้นที่เข้าร่วมประชุม และรับฟังทุกประเด็นและทุกคำพูดด้วย
นายวัชระ ระบุว่า ส่วนปัญหาค่าสารตะกั่วในประปาหมู่บ้านเกินมาตรฐานตามที่นายภัทรพงษ์กล่าวถึงนั้น เบื้องต้น ในวันนั้นนายสุชาติได้สั่งการอธิบดีที่เกี่ยวข้องให้เข้าไปดูแลและแก้ไขแล้ว ซึ่งหากนายภัทรพงษ์ตั้งใจที่จะแก้ปัญหาให้กับประชาชนในพื้นที่ตัวเองจริง ตนยินดีที่จะเชิญนายภัทรพงษ์มาร่วมหารือที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเพื่อรับฟังข้อมูลและแลกเปลี่ยนข้อมูลเพื่อหาทางแก้ไขปัญหาอย่างสร้างสรรค์ต่อไป
"ถ้าคุณภัทรพงษ์มีความตั้งใจจะแก้ปัญหาในเรื่องนี้จริงมากกว่าจะเป็นแค่เป็นการเปิดเป็นประเด็นทางการเมือง ผมก็อยากจะเรียนเชิญคุณภัทรพงษ์มาร่วมแชร์และหารือในข้อมูลและข้อเท็จจริงต่างๆเพื่อหาทางร่วมมือกันแก้ปัญหาต่อไป แต่เราต้องถอดเสื้อฝ่ายค้านหรือรัฐบาลออกไป เอาเฉพาะปัญหาล้วนๆมาคุยกัน"
นายวัชระได้กล่าวย้ำอีกว่านโยบายการทำงานของนายสุชาติทุกวันนี้ชัดเจนว่าเอาประชาชนเป็นตั้ง ไม่มีแบ่งฝักแบ่งฝ่าย ไม่มีฝ่ายค้านหรือรัฐบาล ไม่แยกว่าเป็นฝ่ายการเมืองหรือฝ่ายประจำ เน้นการแก้ไขปัญหาให้ประชาชนให้ได้ผลเป็นสำคัญ ซึ่งได้ทำให้เห็นแล้วระหว่างลงพื้นที่ จ.เชียงใหม่และเชียงรายที่ผ่านมา ซึ่งมีการเปิดรับฟังเสียงสะท้อนและข้อเสนอแนะจากทุกภาคส่วน
"นายภัทรพงษ์มองนายสุชาติผิดไปมากครับ จุดอ่อนของนายสุชาติคือสร้างภาพแบบคนอื่นเขาไม่เป็น นับตั้งแต่รัฐบาลแถลงนโยบายเสร็จตั้งแต่วันที่30กันยายนที่ผ่านมาผมเห็นแต่นายสุชาติวันๆเอาแต่ก้มหน้าก้มตาทำงานอยู่ที่กระทรวงและลงพื้นที่ต่างจังหวัดจนแทบจะจำบ้านเลขที่ตนเองไม่ได้แล้ว ถ้าเป็นภาษามวยก็ต้องบอกว่า ถ้าเทียบปอนด์ต่อปอนด์แล้วนายสุชาติเก่งและขยันทำงานไม่น้อยหน้าใครในครม.ชุดนี้เลย" นายวัชระ กล่าว