วันที่ 9 ตุลาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดอุตรดิตถ์จากอิทธิพลของพายุโซนร้อน “บัวลอย” ซึ่งส่งผลให้เกิดฝนตกหนักและน้ำป่าไหลหลากในหลายพื้นที่ เริ่มคลี่คลายตั้งแต่วันที่ 4 ตุลาคมที่ผ่านมา แต่เจ้าหน้าที่โครงการชลประทานอุตรดิตถ์ยังคงเดินหน้าปฏิบัติภารกิจอย่างต่อเนื่องไม่หยุดพัก เพื่อเร่งฟื้นฟูและช่วยเหลือประชาชนใน 4 อำเภอหลัก ได้แก่ อำเภอทองแสนขัน อำเภอน้ำปาด อำเภอพิชัย อำเภอตรอน ภายใต้การสั่งการและติดตามอย่างใกล้ชิดของ นายสมจิตฐิพงศ์ อำนาจศาล ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 3 ทุกขั้นตอนดำเนินไปด้วยความรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ เพื่อคืนความสงบสุขและคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับประชาชนในพื้นที่โดยเร็วที่สุด

ภารกิจสำคัญและความคืบหน้าตั้งแต่วันที่ 3-8 ตุลาคม 2568 วันที่ 3 ตุลาคม สำนักงานชลประทานที่ 3 สั่งการให้เจ้าหน้าที่และเครื่องจักรกลพร้อมออกปฏิบัติการทันที เพื่อฟื้นฟูพื้นที่น้ำท่วม ระดมเจ้าหน้าที่และเครื่องจักรกลหนักทำงานอย่างต่อเนื่อง ขุดลอกดินตะกอน วัชพืช เปิดทางน้ำ และล้างทำความสะอาดถนนสาธารณะ จัดส่งน้ำสะอาดเพื่ออุปโภคบริโภคและดูแลสุขอนามัยเบื้องต้นให้แก่ประชาชนในพื้นที่ที่ยังขาดแคลน วันที่ 5 ตุลาคม นายพฤกษ์ เรืองไวทย ผู้อำนวยการโครงการชลประทานอุตรดิตถ์ นำทีมเจ้าหน้าที่ฝ่ายช่างกล พร้อมรถขุดหน้าตักหลังและรถบรรทุกน้ำ ลงพื้นที่ช่วยเหลือและฟื้นฟูอำเภอทองแสนขันอย่างเข้มข้น

นอกจากนี้ นายพฤกษ์ ร่วมกับ นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและมอบถุงยังชีพพร้อมกำลังใจแก่ประชาชน ณ วัดศรีสะอาด ตำบลน้ำอ่าง อำเภอตรอน ตั้งแต่ 6-8 ตุลาคม เจ้าหน้าที่ภาคสนามยังคงปฏิบัติงานอย่างต่อเนื่อง พร้อมได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานชลประทานที่ 3 อย่างเต็มที่ ทั้งด้านเครื่องจักร และการบริหารจัดการ ล้างทำความสะอาดถนนและพื้นที่สาธารณะ, ขุดลอกดินโคลน ตะกอน และวัชพืชที่กีดขวางทางน้ำ เพื่อป้องกันปัญหาน้ำท่วมซ้ำซ้อน, จัดส่งน้ำสะอาดแก่ประชาชนในพื้นที่ที่ประสบปัญหาขาดแคลนน้ำดื่มน้ำใช้ , สำรวจความเสียหายพื้นที่เกษตรกรรมและจัดทำแผนฟื้นฟูระยะยาวเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร

ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 3 นายสมจิตฐิพงศ์ อำนาจศาล ได้เน้นย้ำการเร่งฟื้นฟูพื้นที่เพื่อให้ประชาชนกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างปกติโดยเร็วที่สุด ขนย้ายวัสดุที่ขวางทางน้ำและฟื้นฟูพื้นที่สาธารณะอย่างเต็มกำลัง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนอย่างเป็นรูปธรรม พร้อมรายงานผลการปฏิบัติงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อปรับแผนงานให้เหมาะสมกับสถานการณ์และความต้องการของพื้นที่แบบเรียลไทม์
#ภูมิภาค-13