เมื่อวันที่ 9 ต.ค.68 นิตยสาร Times Higher Education ของสหราชอาณาจักรเผยแพร่ผลการจัดอันดับมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในโลกประจำปี 2568 โดยมีสถาบันการศึกษาจากเอเชียติดอันดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ถึง 929 แห่ง
รายงานระบุว่า 10 อันดับแรกยังคงเป็นของมหาวิทยาลัยจากอังกฤษและสหรัฐฯ โดย มหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด ครองอันดับหนึ่งเป็นปีที่ 10 ติดต่อกัน ตามด้วยสถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ (MIT) อันดับ 2 แต่จำนวนสถาบันการศึกษาของสหรัฐฯ ใน 500 อันดับแรกนั้นต่ำสุดเป็นประวัติการณ์โดยมีเพียง 102 แห่ง
ส่วนในเอเชียนั้น มหาวิทยาลัยจีนมากกว่า 1 ใน 5 เลื่อนอันดับขึ้นจากปีที่ผ่านมา โดยมหาวิทยาลัยชิงหัวครองอันดับสูงสุดของเอเชียที่อันดับ 12 ติดต่อกันเป็นปีที่ 3 ขณะที่มหาวิทยาลัยปักกิ่งอยู่ที่อันดับ 13
สำหรับญี่ปุ่น มีมหาวิทยาลัยติดอันดับทั้งหมด 115 แห่ง โดยมหาวิทยาลัยโตเกียวขยับขึ้น 2 อันดับมาอยู่ที่ 26 ขณะที่มหาวิทยาลัยเกียวโตร่วงจาก 55 มาอยู่ที่ 61 ส่วนมหาวิทยาลัยโทโฮคุอยู่ที่อันดับ 103 มหาวิทยาลัยโอซาก้าอยู่ที่ 151 และมหาวิทยาลัยจุนเทนโดติดกลุ่ม 600 อันดับแรกเป็นครั้งแรก
ด้านเกาหลีใต้มีมหาวิทยาลัย 4 แห่งติด 100 อันดับแรก เพิ่มเป็นสองเท่าจากปีก่อน ขณะที่ฮ่องกงมีมหาวิทยาลัย 6 แห่งติด 200 อันดับแรก ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์
การประเมินมหาวิทยาลัยสหรัฐฯ ส่วนใหญ่อ้างอิงข้อมูลปีการศึกษา 2566 ก่อนผลกระทบจากนโยบายของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เช่น การยกเลิกเงินทุนวิจัย และการเพิกถอนใบอนุญาตรับนักศึกษาและนักวิชาการต่างชาติ ซึ่งนิตยสารระบุว่า ผู้เชี่ยวชาญกังวลว่า ผลกระทบจากนโยบายดังกล่าวอาจทำให้อันดับมหาวิทยาลัยสหรัฐฯ ชั้นนำลดลง
ทั้งนี้ มีสถาบันการศึกษาทั้งหมด 3,168 แห่งเข้ารับการประเมินใน World University Rankings 2026 ครอบคลุมด้านสภาพแวดล้อมการวิจัย คุณภาพงานวิจัย และมุมมองระดับนานาชาติ และมี 2,191 แห่งจาก 115 ประเทศและดินแดนติดอันดับ
#TimesHigherEducation #WorldUniversityRankings #มหาวิทยาลัยโลก #ออกซฟอร์ด #MIT #อันดับมหาวิทยาลัย #มหาวิทยาลัยเอเชีย #การศึกษานานาชาติ #มหาวิทยาลัยจีน #การศึกษาระดับโลก