ความคืบหน้ากรณีหนุ่มเชฟคนไทยป่วยเสียชีวิตฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชา โดยทราบชื่อต่อมาคือ นายเมธาชาญ ยอแสง หรือ “มีน” อายุ 24 ปี ซึ่งมีอาชีพเป็นเชฟหนุ่มจาก อ.พระพรหมคีรี จ.นครศรีธรรมราช หลังป่วยและอยู่ในสภาพเร่ร่อนอยู่ข้างถนนหน้าอาคารพาณิชย์แห่งหนึ่ง และถูกปฏิเสธการรักษา จากโรงพยาบาลปอยเปต ฝั่งกัมพูชา เพราะไม่มีเงินและเอกสารยืนยันตัวตน กระทั่งต้องนอนเสียชีวิตตามลำพังบริเวณดังกล่าว กลายเป็นกรณีที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ เรื่องการปฏิบัติด้านมนุษยธรรมของประเทศเพื่อนบ้านอย่างหนัก
กรณีของนายเมธาชาญฯ ทางศูนย์ประสานช่วยเหลือคนไทยในต่างแดน ได้ประสานญาติเดินทางมาจากจังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมกับเจ้าหน้าที่มูลนิธิประชาร่วมใจ จาก จ.นครศรีธรรมราช เพื่อมารับศพ ที่บริเวณสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา หน้าด่านผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว โดยมี เจ้าหน้าที่สำนักงานประสานงานชายแดนไทยกัมพูชา หรือ สน.ปทก. และเจ้าหน้าที่ทหารพราน นำโดย พ.อ.เมธี คำเต็ม ผบ.ชุดควบคุมกรมทหารพรานที่ 12 ได้ประสานงานกับทางการกัมพูชาและสถานกงสุลไทย เพื่อยืนยันตัวตนและทำเรื่องขอนำศพข้ามกลับมายังประเทศไทย โดยมี มูลนิธิกู้ภัยอรัญประเทศ ได้นำโลงศพมาจัดเตรียมไว้ ที่บริเวณหน้าประตูเหล็ก สะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา เพื่อเปลี่ยนถ่ายร่างของผู้เสียชีวิต จากรถกู้ภัยของฝั่งประเทศกัมพูชา ใส่โลงศพ ก่อนนำไปส่งต่อให้กับญาติด้วย
พ.อ.เมธี คำเต็ม ผบ.ชค.ทพ.12 กล่าวว่า กรณีที่คนไทยที่ตกทุกข์ได้ยากฝั่งกัมพูชา หากมีการประสานงานมาทางเรา ก็จะประสานเพื่อให้การช่วยเหลือ ซึ่งกรณีที่มีการปิดด่าน การดำเนินการจะทำได้ลำบาก จึงอยากประชาสัมพันธ์ให้ใครที่มีญาติพี่น้อง ทำงานอยู่ฝั่งปอยเปต ขอให้แจ้งเตือนและให้กลับมาฝั่งประเทศไทย กรณีของผู้เสียชีวิตเป็นการประสานงานล่าช้า ทำให้เสียชีวิตไปก่อนที่จะได้กลับเข้ามารักษาในฝั่งประเทศไทย
จากนั้นเวลาประมาณ 15.30 น.พี่สาวของคนตายและเจ้าหน้าที่ประสานงานชายแดนไทย-กัมพูชา (สน.ปทก.) ได้เดินข้ามสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา ผ่านประตูเล็กด้านซ้าย ไปยังฝั่งกัมพูชา เพื่อเซ็นหนังสือรับร่างของนายเมธาชาญฯ หลังจากนั้น ได้มีการหามโลงศพที่มีร่างของคนตายข้ามมายังบริเวณกึ่งกลางสะพาน เพื่อให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิกู้ภัยอรัญประเทศ รับช่วงต่อนำโลงศพมาขึ้นรถกู้ภัย ในช่วงเวลาประมาณ 15.40 น.และเคลื่องร่างออกไปจากบริเวณหน้าด่านผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก เพื่อไปยังที่ทำการมูลนิธิกู้ภัยอรัญประเทศ สำหรับสับเปลี่ยนใส่รถกู้ภัยของมูลนิธิประชาร่วมใจ จ.นครศรีธรรมราช สำหรับนำร่างกลับไปทำพิธีทางศาสนาที่บ้านเกิดในวันพรุ่งนี้
ด้านพี่สาวผู้ตาย เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนว่า น้องชายเสียชีวิตด้วยสาเหตุใด เพราะก่อนที่น้องชายจะออกเดินทางไปทำงานเป็นเชฟในเรือสำราญ ก็มีการตรวจสุขภาพทุกอย่าง ไม่เป็นโรคอะไร เพราะถ้ามีคงไม่ได้ไปทำงาน ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้พบว่า มีหมายจับบัญชีม้าของน้องชาย ส่งมาที่บ้าน ทางญาติก็ตกใจ แต่ก็อยากจะถามน้องเหมือนกัน ว่าไปทำอะไรอยู่ที่ฝั่งกัมพูชา สำหรับการตรวจชันสูตรศพนั้น ทางญาติติดใจในสาเหตุการตาย แต่ก็สงสารน้องกำลังพูดคุยกับทางญาติอีกครั้ง เพราะถึงอย่างไรน้องก็เสียไปแล้ว จึงไม่อยากจะทำอะไรกับร่างของน้องอีก ส่วนกรณีที่ก่อนน้องจะเสียชีวิต ได้พยายามเดินมาขอความช่วยเหลือที่บริเวณหน้าด่านฝั่งกัมพูชานั้น อาจจะจริงเพราะมีภาพปรากฎ หรือกรณีที่น้องเสียชีวิตด้วยโรคหัวใจอย่างที่กัมพูชาสรุปก็คงไม่สามารถเรียกร้องอะไรได้
นอกจากนี้ก่อนหน้านี้น้องมีปากเสียงกับแฟนซึ่งอาจจะมีการพูดคุยเรื่องการโอนเงินเพื่อเอาไปรักษาตัว แต่ก็ไม่ได้มีการโอนจนมาทราบภายหลังว่าน้องเสียชีวิต
#ภูมิภาค-40
ข่าวภูมิภาค
420
ญาติรับศพเชฟหนุ่มไทยกลับบ้านเกิด หลังเสียชีวิตอนาถฝั่งปอยเปต กัมพูชา ติดใจสาเหตุการตาย
แชร์ข่าว