เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2568 เจ้าหน้าที่อาวุโสประจำทำเนียบขาวเปิดเผยว่า รัฐบาลสหรัฐฯ เตรียมเริ่ม “ปลดพนักงานรัฐบาลกลาง” จำนวนมาก หากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เห็นว่าการเจรจากับพรรคเดโมแครตในสภาเพื่อหาทางยุติภาวะชัตดาวน์ไม่สามารถเดินหน้าต่อได้
ขณะที่วิกฤติชัตดาวน์ล่วงเข้าสู่วันที่ 5 เควิน แฮสเซตต์ ผู้อำนวยการสภาเศรษฐกิจแห่งชาติของทำเนียบขาว ให้สัมภาษณ์สื่อต่างประเทศ ว่า ยังมีโอกาสที่พรรคเดโมแครตจะยอมอ่อนข้อ เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบจากการปิดหน่วยงานรัฐและการปลดพนักงานจำนวนมาก ซึ่งเป็นไปตามคำเตือนก่อนหน้านี้ของรัสเซลล์ โวต ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ
ต่อมาในวันเดียวกัน เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าทรัมป์จะเริ่มปลดพนักงานรัฐบาลกลางเมื่อใด ผู้นำสหรัฐฯ ตอบเพียงสั้น ๆ ว่า “กำลังทำอยู่” โดยไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติม
นับตั้งแต่ทรัมป์เข้าพบผู้นำสภาคองเกรสเมื่อสัปดาห์ก่อน ก็ยังไม่มีวี่แววของการเจรจารอบใหม่ ขณะที่ภาวะชัตดาวน์เริ่มขึ้นตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม ซึ่งเป็นวันแรกของปีงบประมาณ 2569 หลังจากที่วุฒิสมาชิกพรรคเดโมแครตลงมติคว่ำร่างงบประมาณชั่วคราว ที่จะช่วยให้หน่วยงานรัฐสามารถเปิดทำการต่อไปได้จนถึงวันที่ 21 พฤศจิกายน
“พวกเขาไม่ยอมคุยกับเรา” ชัค ชูเมอร์ ผู้นำพรรคเดโมแครตในวุฒิสภา กล่าวในรายการ “Face the Nation” ทางช่อง CBS พร้อมย้ำว่าทางตันนี้จะคลี่คลายได้ก็ต่อเมื่อทรัมป์และผู้นำสภาคองเกรสทั้ง 4 ฝ่ายกลับมานั่งโต๊ะเจรจากันอีกครั้ง
ด้านพรรคเดโมแครตเรียกร้องให้รัฐบาลขยายมาตรการช่วยเหลือค่าเบี้ยประกันภายใต้กฎหมายประกันสุขภาพ Affordable Care Act (โอบามาแคร์) อย่างถาวร พร้อมต้องการคำมั่นจากทำเนียบขาวว่าจะไม่ยกเลิกงบประมาณที่ตกลงกันไว้โดยพลการ
ขณะที่จอห์น ธูน ผู้นำเสียงข้างมากในวุฒิสภาจากพรรครีพับลิกัน ซึ่งมีอำนาจกำหนดวาระการประชุมของสภา ระบุว่าพร้อมพิจารณาข้อเรียกร้องของเดโมแครต แต่ต้องการให้พวกเขายอมเปิดหน่วยงานรัฐบาลก่อน
ทรัมป์เองยังคงยึดจุดยืนของรีพับลิกันที่ต้องการปฏิรูปกฎหมายโอบามาแคร์ โดยกล่าวว่า “เราอยากแก้ให้มันดีขึ้น โอบามาแคร์คือหายนะของประชาชน เราจึงต้องแก้ไขมันให้ได้”
ด้านรูเบน ไกเอโก วุฒิสมาชิกพรรคเดโมแครต ให้สัมภาษณ์กับ CNN ว่า “ณ ตอนนี้ ยังครับ” เมื่อถูกถามว่าการเจรจามีความคืบหน้าใกล้ได้ข้อสรุปแล้วหรือไม่
ทั้งนี้ วุฒิสภาสหรัฐฯ เตรียมลงมติในวันนี้ (6 ต.ค.) เป็นครั้งที่ 5 ต่อร่างงบประมาณชั่วคราวทั้งจากสภาผู้แทนราษฎรและฝั่งเดโมแครต แต่คาดว่าทั้งสองร่างจะไม่ได้รับเสียงสนับสนุนครบ 60 เสียงตามเกณฑ์
โดยในสภาวุฒิสภาที่มีเสียงข้างมาก 53 ต่อ 47 ที่นั่ง และมีรีพับลิกันหนึ่งคนไม่เห็นด้วยกับร่างงบประมาณ พรรครีพับลิกันจึงจำเป็นต้องได้เสียงจากเดโมแครตอย่างน้อย 8 เสียง ทว่าจนถึงตอนนี้มีเพียง 3 คนเท่านั้นที่โหวตสวนมติพรรค
#ทรัมป์ #สหรัฐชัตดาวน์ #DonaldTrump #รัฐบาลสหรัฐ #ข่าวต่างประเทศ #โอบามาแคร์ #พรรคเดโมแครต #พรรครีพับลิกัน #ShutdownUSA #ข่าวโลก #BreakingNews #ข่าวรอบโลก