สระบุรีเตรียมจัดงานประเพณีตักบาตรเทโวโรหณะมหัศจรรย์ข้าวต้มลูกโยน พร้อมชมการแสดง “รำวงสระบุรี” วนรอบ “ข้าวต้มยักษ์”ใหญ่ที่สุดในโลก
วันที่ 4 ต.ค.68 จังหวัดสระบุรีร่วมกับ วัดพระพุทธฉาย องค์การบริหารส่วนจังหวัดสระบุรี สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดสระบุรี และทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเตรียมร่วมกันจัดงานมหัศจรรย์ข้าวต้มลูกโยนแห่งสระบุรี ประจำปี 2568 ณ วัดพระพุทธฉาย ตำบลหนองปลาไหล จังหวัดสระบุรี ในวันที่ 7 -8 ตุลาคม 2568 เพื่อเป็นการอนุรักษ์ ฟื้นฟู ส่งเสริม วัฒนธรรม ประเพณีที่ดีงามให้คงอยู่คู่จังหวัดสระบุรี และเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม เพื่อสืบสานวัฒนธรรมประเพณีซึ่งมีมาแต่โบราณกาล โดยเฉพาะกลุ่มเยาวชนจะได้ปลูกฝัง ความรัก ความกตัญญู ต่อพ่อแม่ซึ่งมีพระพุทธเจ้าเป็นแบบอย่างที่พระองค์เสด็จจำพรรษาในเทวโลกชั้นดาวดึงส์แสดงพระอภิธรรมปิฎก เพื่อตอบแทนคุณของพุทธมารดา

ซึ่งทางจังหวัดสระบุรีได้จัดมีการแถลงข่าวขึ้นโดยมี นายเลิศชัย สกลเสาวภาคย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี พระราชวชิรมงคลวิสิฐ เจ้าคณะจังหวัดสระบุรี เจ้าอาวาส วัดมงคลชัยพัฒนา (พระอารามหลวง) รักษาการเจ้าอาวาสวัดพระพุทธฉาย นายธนกฤต อัตถะสัมปุณณะ รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสระบุรี นายเจตน์ อินทับทัน นักวิชาการวัฒนธรรมชำนาญการพิเศษ นายอรรถพร พงศ์สวัสดิ์ ปลัดอำเภอเมืองสระบุรี ร่วมแถลงข่าวการจัดงาน
นายเลิศชัย สกลเสาวภาคย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี กล่าวว่า งานนี้กำหนดจัดในวันที่ 7-8 ตุลาคม 2568 ณ วัดพระพุทธฉาย การจัดงานดังกล่าวเพื่อเป็นการอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีที่ดีงามให้คงอยู่คู่จังหวัดสระบุรี และเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม เพื่อสืบสานวัฒนธรรมที่มีมาแต่โบราณกาล โดยเฉพาะกลุ่มเยาวชนที่สำคัญเป็นการส่งเสริมการทองเที่ยวของจังหวัดตามนโยบายของนายบัญชา เชาวรินทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี ที่ผลักดันให้เกิดการท่องเที่ยวในทุกด้านเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจให้ประชาชนมีอาชีพมีรายได้
พระราชวชิรมงคลวิสิฐ เจ้าคณะจังหวัดสระบุรี เจ้าอาวาส วัดมงคลชัยพัฒนา (พระอารามหลวง) รักษาการเจ้าอาวาสวัดพระพุทธฉาย กล่าวว่า งานนี้ต้องการปลูกฝังความรัก ความกตัญญูต่อพ่อแม่ซึ่งมีพระพุทธเจ้าเป็นแบบอย่างที่พระองค์เสด็จจำพรรษาในเทวโลกชั้นดาวดึงส์ แสดงพระอภิธรรมปิฎก เพื่อตอบแทนคุณของพุทธมารดา ตามตำนานกล่าวว่า เมื่อครั้งพระพุทธเจ้าทรงพระชนมายุอยู่นั้น ทรงเสด็จขึ้นไปโปรดพระพุทธมารดาที่สวรรค์ชั้นดาวดึงส์ และกลับมายังมนุษย์โลกที่เมืองสังกัสคีรี ตรงกับวันแรม 1 ค่ำ เดือน 11 ประชาชนต่างมารอเฝ้ารับเสด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ในวันนั้น ได้กล่าวว่าเป็นวันเปิดโลก ทำให้โลกมนุษย์ สวรรค์และนรกต่างเห็นกันและกันประชาชนที่มาจำนวนมากที่มาเฝ้ารอเสด็จต่าง ปรารถนาใส่บาตรพระพุทธองค์ โดยประชาชนที่อยู่ห่างออกไปไม่สามารถจะใส่บาตรได้ถึง จึงใช้วิธีการโยนอาหารของตนลงในบาตรของพระพุทธเจ้า และพระสาวก โดยอาหารเหล่านั้นตกลงในบาตรเป็นที่อัศจรรย์

นายเจตน์ อินทับทัน นักวิชาการวัฒนธรรมชำนาญการพิเศษ กล่าวว่า ไฮไลต์ภายในงาน ทุกท่านจะได้ชมขบวนแห่ข้าวต้มลูกโยน และขบวนการแสดงขนบธรรมเนียมวัฒนธรรมพื้นบ้านที่ยิ่งใหญ่และสวยงาม และชมการแสดง”รำวงสระบุรี” วนรอบ"ข้าวต้มยักษ์"ที่ใช้คนมากที่สุด โดยกลุ่มชมรมวัฒนธรรมอำเภอต่างๆ เกือบ 1,000 คน เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา การตักบาตรข้ามต้มลูกโยนซึ่งมีการจำลองการเสด็จลงมาจากสวรรค์ขององค์สัมมาสัมมาพุทธเจ้า เสด็จลงมาจากชั้นดาวดึงส์เพื่อลงมายังโลกมนุษย์ เพื่อโปรดสัตว์ และมนุษย์โลกโดยมีนางฟ้า นางสวรรค์ เทวดาเสด็จร่วมขบวน โดยในระหว่างขบวนแห่มีชาวบ้านรอใส่บาตรด้วยข้าวต้มลูกโยน ข้าวสาร อาหารแห้ง ผลไม้แก่พระภิกษุ สามเณร ข้าวต้มลูกโยนนั้น วิธีการทำอาจคล้ายคลึงกัน แต่การใช้ใบไม้มีหลายชนิดที่นำมาห่อ ส่วนใหญ่จะใช้ใบเตยซึ่งเมื่อนำไปนึ่งก็จะมีกลิ่นหอม และเมื่อสุกแล้วแกะออกจะมีลักษณะคล้ายหยดน้ำ ทำให้น่ารับประทาน และสามารถเก็บได้นานกว่า 3 วัน ในอุณหภูมิปกติ อีกทั้งการทำข้าวต้มลูกโยนยังถ่ายทอดความสามัคคี ความร่วมมือร่วมใจในการรักษาประเพณีของชุมชน การทำข้าวต้มลูกโยนหรือข้าวต้มหาง จะนิยมทำขึ้นในวันออกพรรษาประเพณีนี้ชาวบ้านปฏิบัติสืบสานมาอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งเป็นประเพณีเก่าแก่ของที่นี่ ซึ่งทุกบ้านจะทำข้าวต้มลูกโยนเพื่อนำไปทำบุญตักบาตรเทโวฯ สำหรับท่านที่จะมาร่วมงานสามารถหาซื้อข้าวต้มลูกโยนได้ภายในวัดโดยทางกลุ่มแม่บ้านและชาวบ้านในพื้นที่จะนำมาจำหน่าย
ด้านรองนายก อบจ.สระบุรี นายธนกฤต อัตถสัมปุณนะ จังหวัดสระบุรีกล่าวว่า งานนี้ทาง อบจ.สระบุรี ได้สนับสนุนงบประมาณในการจัดงานสืบสานประเพณีท้องถิ่นอย่างเต็มที่ ซึ่งถือเป็นนโยบายสำคัญที่จะร่วมกันส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัด
นายอรรถพร พงศ์สวัสดิ์ ปลัดอำเภอเมืองสระบุรี กล่าวว่า การจัดขบวนแห่ได้เตรียมการแสดงสุดยิ่งใหญ่หลายขบวน ขบวนนางรำกว่าพันชีวิต ขบวนชาติพันธุ์ การแสดงศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่นของจังหวัดสระบุรี
และภายในงานยังมีกลุ่มแม่บ้านสาธิตวิธีการทำข้าวต้มลูกโยนให้แก่นักท่องเที่ยวได้ชม และยังสามารถเดินทางเยี่ยมชมสถานที่ท่องเที่ยวในบริเวณใกล้เคียง ได้แก่ อุทยานแห่งชาติน้ำตกสามหลั่น ซึ่งอยู่ห่างจากวัดพระพุทธฉายเพียง 1 กิโลเมตร ช่วงปลายฝนต้นหนาว นักท่องเที่ยวนิยมมากางเต็นท์สูดบรรยากาศบริสุทธิ์ ท่ามกลางบรรยากาศเย็นสบาย แวดล้อมไปด้วยเสียงจากธรรมชาติ

วัดพระพุทธฉายได้ริเริ่มฟื้นฟูประเพณีใส่บาตรข้าวต้มหาง หรือใส่บาตรข้าวต้มลูกโยน กว่า 10 ปีมาแล้ว และปฏิบัติต่อเนื่องมา ทำให้งานประเพณีตักบาตรข้าวต้มลูกโยนของวัดพระพุทธฉาย เป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายไปทั่วประเทศ เนื่องจากมีพุทธศาสนิกชนจำนวนมากมาร่วมพิธีนับหมื่นคน สำหรับการทำ"ข้าวต้มลูกโยน" หรือ "ข้าวต้มหาง" ลักษณะคล้ายข้าวต้มมัดแต่มีขนาดเล็กกว่าอีกทั้งในรูปแบบการห่อมีเอกลักษณ์โดดเด่นโดยจะไว้หางยาวเพื่อความสะดวกในการใส่บาตร ซึ่งผู้ที่ทำได้เล่าถ่ายทอด ถึงการทำข้าวต้มลูกโยนว่า ข้าวต้มลูกโยน หรือ ข้าวต้มหาง ทำมาจากข้าวเหนียว ซึ่งจะนำมาผัดกับกะทิคล้ายกับการทำข้าวต้ม มัดแต่จะมีขนาดเล็กกว่า ข้าวต้มลูกโยนที่นี่จะใส่กล้วยถั่วดำและใส่กล้วยสุก แล้วนำมาห่อซึ่งรูปแบบการห่อจะนำใบเตยทำเป็นกรวยม้วนพันไปจนหุ้มข้าวเหนียวโดยทิ้งชายไว้ จากนั้นจะมัดด้วยไม้กลัดก่อนนำไปนึ่งให้สุกอีกประมาณ 7 ถึง 10 นาที อีกครั้ง
จังหวัดสระบุรี โดยวัดพระพุทธฉาย ขอเชิญ พุทธศาสนิกชนร่วมงานประเพณีตักบาตรเทโวโรหณะ ประจำปี 2568 “มหัศจรรย์ข้าวต้มลูกโยนจังหวัดสระบุรี” ระหว่างวันที่ 7-8 ตุลาคม 2568 ณ วัดพระพุทธฉาย ต.หนองปลาไหล อ.เมือง จ.สระบุรี
#ภูมิภาค-41