เมื่อวันที่ 7 ต.ค.68 ที่จังหวัดสุพรรณบุรี นายกองเอก พิริยะ ฉันทดิลก ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี พันเอก ผ่านศึก อนันต์พงษ์ รอง ผอ.รมน.จังหวัดสุพรรณบุรี ได้รับการร้องเรียนว่าพื้นที่ตำบลสวนแตง ตำบลศาลาขาว และตำบลดอนโพธิ์ทอง มีการมั่วสุม เสพยาและลักลอบขายยาเสพติดมีทั้งผู้ขายผู้เสพจำนวนมาก จึงสั่งการให้ ชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองจังหวัดสุพรรณบุรี โดยนายหมวดเอก ธรรศ ศรีดุษฎี ผู้ช่วยป้องกันจังหวัดสุพรรณบุรี นำกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหารโดย ร.อ.คเณศ ลาภหลาย และกำลังทหาร ออกตรวจสอบหาข้อมูลพบว่าพื้นที่ดังกล่าวมีการแพร่ระบาดของยาเสพติดจริงจึงวางแผนเข้าจับกุม
รายแรกเมื่อเวลา 23.50 น. วันที่ 7 ต.ค.68 กำลังเจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจค้นบ้านไม่มีเลขที่หลังหนึ่ง ซึ่งเจ้าของมีอาชีพเก็บของเก่าขายอยู่ในพื้นที่หมู่ 4 ตำบลสวนแตง เนื่องจากได้รับรายงานว่ามีการมั่วสุมเสพยากันเมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึงพบคนในบ้านกำลังเสพยาบ้าอยู่ในมุ้ง อยู่บนที่นอน รวม 5 คน จากการตรวจค้นพบอุปกรณ์การเสพกระดาษฟอยต์ กระทง สำหรับเสพยาบ้า จึงคุมมาซักถาม บรรดาทาสยานรกให้การว่าเป็นคนในครัวแม่ลูก ลูกเขย และลุง ซื้อยาบ้ามาจากนายเลิศศักดิ์ หรือเบนซ์ สวนแตง อายุ 30 ปี อยู่หมู่ 4 ตำบลสวนแตง อำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี ขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังตรวจค้นอยู่ในบ้าน นายเลิศศักดิ์ หรือเบนซ์ สวนแตง อายุ 30 ปี ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ เข้ามาพอใกล้จะถึงบ้านได้ดับเครื่องแล้วค่อยจูงรถเข้ามาที่บ้านเจ้าหน้าที่จึงวิ่งเข้าชาร์จ พร้อมตะโกนส่งเสียงร้องจ๊ะเอ๋ ยกมือขึ้นแล้วนั่งลง นายเลิศศักดิ์ ตกใจหน้าซีดยอมทำตามคำสั่งเจ้าหน้าที่อย่างง่ายดาย ขณะที่กำลังนั่งลงกับพื้น นายเลิศศักดิ์ ได้ทิ้งยาบ้าที่อยู่ในซองพลาสติกใสลงกับพื้น จำนวน 50 เม็ด


เจ้าหน้าที่จึงสอบสวนขยายผลนายเลิศศักดิ์ ให้การรับสารภาพว่า ยาบ้าดังกล่าวซื้อมาจากนายไกรสร หรือก้อย สวนแตง อายุ 40 ปี จำนวน 50 เม็ดราคา 600 บาท กำลังจะเอามาขายต่อลูกค้าราคาเม็ดละ 20 บาท แต่โชคไม่ดีถูกจับ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อกล่าวหานายเลิศศักดิ์ จำหน่ายโดยการมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า) อันเป็นการกระทำเพื่อการค้าโดยผิดกฎหมาย
จากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้เดินทางไปที่บ้านนายไกรสร อยู่หมู่ที่ 8 ตำบลสวนแตง อำเภอเมืองสุพรรณบุรี โดยการเดินเท้าเข้าไปเมื่อไปถึงนายก้อย ไหวตัวเปิดประตูห้องนอนวิ่งหนีออกมาทางหน้าบ้านเจอเจ้าหน้าที่เลยถูกจับ รับสารภาพว่าขายยาบ้าให้นายเลิศศักดิ์ จริงและยังมียาบ้าเหลืออยู่ในห้องนอนอีกจำนวนหนึ่ง เจ้าหน้าที่ให้นายไกรสร นำชี้จุดที่ซ่อนยาบ้าซึ่งอยู่ในตู้เสื้อผ้า และให้หยิบออกมานับพบว่ามียาบ้ารวม 3 ถุง จำนวน 220 เม็ด

สอบสวนนายไกรสร ให้การรับสารภาพตนเพิ่งจะขายยาบ้าได้ไม่นานเนื่องจากตนป่วยเป็นโรคหัวใจ เป็นโรคเกาต์ ทำงานหนักไม่ได้ และตนก็ถูกจับข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่น และถูกจับคดีครอบครองยาเสพติด คีตามีน อยู่ระหว่างอุธรณ์ขอลดโทษ ทำให้ไม่มีรายได้จึงหันมาขายาบ้าแต่ตนไม่เสพ โดยซื้อยาบ้ามาจากเอเย่นต์รายหนึ่งในตำบลศาลาขาว จำนวน 3 ถุง ถุงละ 1,450 บาท แล้วนำมาขายต่อเม็ดละ 20 บาท จึงควบคุมตัวพร้อมของกลางมาขยายผลต่อ ณ ที่ทำการปกครองจังหวัดสุพรรณบุรี และนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสุพรรณบุรี ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
#ภูมิภาค-43