วันที่ 2 ตุลาคม 2568 ที่โรงแรมอวานี รัชดา กรุงเทพฯ นายสิทธิพร สมคิดสรรพ์ ผู้อำนวยการสำนักการจราจรและขนส่ง (สจส.) กรุงเทพมหานคร ได้เป็นประธานเปิดการประชุมสัมมนาเพื่อประชาสัมพันธ์โครงการ ซึ่งเป็นงานศึกษาและวิเคราะห์โครงการระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพมหานคร หรือรถไฟฟ้าสายสีเขียว หลังหมดสัญญาสัมปทาน 30 ปี
วัตถุประสงค์ของการศึกษาครั้งนี้คือการนำเสนอข้อมูลสาระสำคัญของโครงการ วัตถุประสงค์ และรูปแบบการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน โดยจะต้องให้สอดคล้องตามพระราชบัญญัติการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. 2562
นายสิทธิพร กล่าวว่า ภารกิจสำคัญประการหนึ่งของกรุงเทพมหานคร (กทม.) คือการผลักดันให้ "ระบบขนส่งมวลชนทางราง" เป็นระบบขนส่งมวลชนหลักของมหานคร กรุงเทพมหานครเคยเปิดให้บริการรถไฟฟ้าสายแรกของประเทศไทยพร้อมกัน 2 สาย ได้แก่ สายสุขุมวิทและสายสีลม เมื่อปี 2542
สำหรับ รถไฟฟ้าสายสีเขียวสายหลักที่อยู่ภายใต้การศึกษาครั้งนี้ ครอบคลุมช่วงหมอชิต - อ่อนนุช และช่วงสนามกีฬาแห่งชาติ - สะพานตากสิน รายละเอียดสำคัญของโครงการสายหลักที่ต้องบริหารจัดการต่อเนื่อง คือ ระยะทางรวม 23.5 กิโลเมตร จำนวนสถานี 24 สถานี ระยะเวลาสัมปทาน 30 ปี (พ.ศ. 2542 - พ.ศ. 2572)
ผู้อำนวยการ สจส. ชี้แจงว่า รถไฟฟ้าสายสีเขียวสายหลักนี้ดำเนินงานภายใต้สัมปทานความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน ซึ่งเมื่อครบอายุสัมปทานในปี 2572 แล้ว เอกชนจะต้องส่งมอบทรัพย์สินให้กับกรุงเทพมหานคร
ดังนั้น สำนักการจราจรและขนส่งจึงมีความจำเป็นต้องว่าจ้างที่ปรึกษาเพื่อศึกษาและวิเคราะห์โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวสายหลักหลังหมดสัญญาสัมปทาน เพื่อให้เกิดความต่อเนื่องในการให้บริการเป็นระบบเดียวกันกับรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายที่ 1 และส่วนต่อขยายที่ 2
ที่ผ่านมา กรุงเทพมหานครได้มีการลงทุนก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานของรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายที่ 1 ในขณะที่การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ได้ดำเนินการก่อสร้างส่วนต่อขยายที่ 2 ต่อมาในปี 2561 คณะรัฐมนตรีได้มีมติมอบหมายให้กรุงเทพมหานครเป็นผู้บริหารจัดการเดินรถในส่วนต่อขยายที่ 2 รวมถึงมีมติเห็นชอบให้โอนทรัพย์สินของโครงการในส่วนต่อขยายที่ 2 ให้กับกรุงเทพมหานคร เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความราบรื่นในการดำเนินโครงการ และอำนวยประโยชน์ให้ชาวกรุงเทพฯ ได้รับความสะดวกสบายในการเดินทางด้วยระบบบริหารจัดการเดียวกัน
ส่วนแผนงานต่อไป ภายหลังการสัมมนาครั้งนี้ สำนักการจราจรและขนส่ง กรุงเทพมหานคร จะรวบรวมข้อมูล ความคิดเห็น และข้อเสนอแนะจากทุกภาคส่วนที่เข้าร่วมสัมมนา ซึ่งประกอบด้วย ผู้บริหาร สจส., ผู้แทนหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน, สถาบันทางการเงิน, หอการค้า และสมาคม นำมาพิจารณาประกอบการศึกษาของโครงการ
นอกจากนี้ กรุงเทพมหานครยังมีแผนที่จะจัดสัมมนาเพื่อรับฟังความคิดเห็นการลงทุนโครงการจากภาคเอกชนอีกครั้งในช่วงประมาณเดือนพฤศจิกายนถึงธันวาคม 2568 เพื่อนำเสนอผลการศึกษาของโครงการให้ภาคเอกชนได้รับทราบต่อไป