วันที่ 2 ต.ค.68 นายทิวากร สุระชน รองเลขาธิการพรรคไทยสร้างไทย กล่าวถึงสถานการณ์น้ำท่วมขังในหลายจังหวัดของประเทศว่า ข้อมูลจากดาวเทียมของ GISTDA พบว่าปัจจุบันมีพื้นที่น้ำท่วมขังรวมกว่า 2.4 ล้านไร่ ครอบคลุม 16 จังหวัด ทั้งพิจิตร นครสวรรค์ พระนครศรีอยุธยา สุพรรณบุรี เพชรบูรณ์ ลพบุรี และจังหวัดอื่นๆ
รองเลขาธิการพรรคไทยสร้างไทย ระบุว่าสถานการณ์น้ำท่วมครั้งนี้สร้างความเสียหายต่อพี่น้องเกษตรกรอย่างหนัก โดยเฉพาะพื้นที่เพาะปลูกและนาข้าว ซึ่งเป็นแหล่งอาหารหลักของประเทศ “ความเสียหายที่เกิดขึ้นไม่ได้จำกัดเพียงตัวบ้านเรือนหรือเส้นทางคมนาคม แต่กระทบโดยตรงต่อรายได้และความมั่นคงทางอาหารของพี่น้องชาวนา” นายทิวากรกล่าว
พร้อมชี้ว่าการแก้ปัญหาน้ำท่วมที่ผ่านมา มักเป็นการช่วยเหลือเฉพาะหน้า แจกถุงยังชีพ และให้ความช่วยเหลือหลังน้ำลดเท่านั้น ซึ่งไม่เพียงพอสำหรับเกษตรกรที่ต้องเผชิญกับความเสียหายต่อเนื่องและหนี้สินเพิ่มขึ้น พรรคไทยสร้างไทยจึงเสนอแนวทางการบริหารจัดการน้ำและการเยียวยาอย่างเป็นระบบ
“พรรคไทยสร้างไทย เห็นว่าการใช้เทคโนโลยีดาวเทียมร่วมกับข้อมูลจากท้องถิ่น จะช่วยให้เราประเมินพื้นที่และมูลค่าความเสียหายได้อย่างแม่นยำ เพื่อให้เกษตรกรได้รับการชดเชยอย่างเป็นธรรม ไม่ใช่การประเมินคร่าวๆ ที่มักไม่ตรงกับความจริง” นายทิวากรกล่าวเพิ่มเติม
สำหรับระยะกลาง นายทิวากร ระบุว่าจำเป็นต้องลงทุนในระบบชลประทาน การระบายน้ำ และสร้างพื้นที่รับน้ำหรือแก้มลิงในจุดเสี่ยง เพื่อป้องกันไม่ให้ชาวบ้านต้องประสบปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก ทั้งนี้ การบริหารจัดการน้ำควรเป็นระบบบูรณาการ ครอบคลุมทั้งเขื่อน คลอง และชุมชน
ในระยะยาว รองเลขาธิการพรรคไทยสร้างไทยแนะนำให้สร้างระบบเกษตรที่ยืดหยุ่นต่อภัยธรรมชาติ โดยสนับสนุนเกษตรกรด้านความรู้ เทคโนโลยี และเครื่องมือประกันความเสี่ยง เช่น ประกันภัยพืชผลหรือกองทุนฟื้นฟูหลังภัยพิบัติ เพื่อให้เกษตรกรสามารถฟื้นตัวและยืนหยัดได้แม้เจอน้ำท่วมซ้ำ
รองเลขาธิการพรรคไทยสร้างไทย ย้ำว่า พรรคให้ความสำคัญกับพี่น้องเกษตรกร และจะผลักดันนโยบายการจัดการน้ำและช่วยเหลือเกษตรกรอย่างยั่งยืน เพื่อให้ทุกหยดเหงื่อของพี่น้องเกษตรกรไม่สูญเปล่า และลดความเสียหายจากภัยน้ำท่วมในอนาคต
นายทิวารกร กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากการเยียวยาและชดเชยความเสียหายแล้ว รัฐบาลยังต้องให้ความสำคัญกับ พื้นที่รับน้ำที่ถูกละเลย มานานหลายปี ซึ่งเป็นจุดสำคัญในการลดความรุนแรงของน้ำท่วม หากพื้นที่เหล่านี้ได้รับการปรับปรุงและดูแลอย่างจริงจัง จะช่วยบรรเทาผลกระทบต่อชาวนาและประชาชนในพื้นที่ลุ่มต่ำได้อย่างยั่งยืน พรรคไทยสร้างไทยจึงเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงมือเร่งแก้ไขและวางแผนบริหารจัดการน้ำอย่างเป็นระบบ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายซ้ำซาก