กรมส่งเสริมสหกรณ์ ครบ 53 ปี เดินหน้าขับเคลื่อนงานตามนโยบายรัฐบาลสู่ความสำเร็จ ยกระดับคุณภาพและมาตรฐานสินค้าเกษตร ส่งเสริมเกษตรกร และสถาบันเกษตรกรเป็นผู้ให้บริการทางการเกษตรแบบครบวงจร มุ่งเน้นการส่งเสริมและพัฒนา พร้อมทั้งกำกับดูแลสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรทั่วประเทศอย่างสมดุล โดยใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรม ภายใต้หลักธรรมาภิบาล เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งและเติบโตอย่างยั่งยืน
วันที่ 1 ต.ค.68 นายนิรันดร์ มูลธิดา อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เป็นประธานในพิธีวันคล้ายวันสถาปนากรมส่งเสริมสหกรณ์ ครบ 53 ปี โดยมีพิธีสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกรมส่งเสริมสหกรณ์ พิธีสงฆ์ พิธีรับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ เบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และอ่านสารรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เนื่องในวันคล้ายวันสถาปนากรมส่งเสริมสหกรณ์ ครบ 53 ปี โดยมี นายประวัติ แดงบรรจง รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ นายมนัส เทพรักษ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ และคณะผู้บริหารกรมส่งเสริมสหกรณ์ เข้าร่วม ณ กรมส่งเสริมสหกรณ์ เทเวศร์ กรุงเทพมหานคร

นายนิรันดร์ มูลธิดา อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์เปิดเผยว่า เนื่องในวันคล้ายวันสถาปนากรมส่งเสริมสหกรณ์ ครบ 53 ปี กรมส่งเสริมสหกรณ์จะขับเคลื่อนงานตามนโยบายรัฐบาล โดยผลักดันให้สหกรณ์ภาคการเกษตร ทำหน้าที่เป็นผู้ประกอบการธุรกิจเกษตรในชุมชนแบบมืออาชีพและครบวงจร ใช้อุปกรณ์การตลาดที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลอย่างเต็มศักยภาพทุกแห่ง ร่วมบูรณาการการทำงานกับหน่วยงานภายในกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เพื่อให้สหกรณ์มีศักยภาพในการแข่งขันจนเป็นที่ยอมรับ รวมถึงการดูแลสวัสดิการต่าง ๆ ให้กับสมาชิกได้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดียิ่งขึ้นและร่วมกันขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาลไปสู่การปฏิบัติให้เกิดเป็นรูปธรรมเพื่อให้ประชาชนพี่น้องเกษตรกรมีอาชีพและรายได้ที่มั่นคงและยั่งยืนต่อไป

“สำหรับการทำงานในปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 กรมส่งเสริมสหกรณ์จะขับเคลื่อนงานตามนโยบายรัฐบาล รวมทั้งมีการพัฒนาสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรให้มีความเข้มแข็ง ยกระดับศักยภาพของสหกรณ์ สนับสนุนอุปกรณ์การผลิตและการตลาด ส่งเสริมสหกรณ์ให้มีโครงการด้านการส่งเสริมอาชีพเพื่อเพิ่มรายได้ รวมทั้งแก้ไขปัญหาหนี้สิน และพัฒนาคุณภาพชีวิตสมาชิกสหกรณ์ มีการกํากับและส่งเสริมการรายงานข้อมูลสําคัญผ่านระบบดิจิทัลและพัฒนาการตรวจสอบข้อมูลย้อนกลับเพื่อลดโอกาสการทุจริต มุ่งเน้นการแก้ไขปัญหาข้อบกพร่อง การปิดบัญชี และเร่งรัดการชําระบัญชีของสหกรณ์ รวมทั้งส่งเสริมให้สหกรณ์ออมทรัพย์ใช้เทคโนโลยีในการให้บริการสมาชิก ผลักดันการใช้เทคโนโลยีในการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ยกระดับการใช้เทคโนโลยีในการให้คำแนะนําส่งเสริมและกํากับดูแลสหกรณ์รวมทั้งการเพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตรและผลิตภัณฑ์ของสหกรณ์ มุ่งเน้นการยกระดับสินค้าเกษตรและบริการมูลค่าสูง โดยเน้นการผลิตสินค้าที่มีคุณภาพ ส่งเสริมเกษตรกร และสถาบันเกษตรกรเป็นผู้ให้บริการทางการเกษตรแบบครบวงจร” อธิบดีฯ นิรันดร์ กล่าว

สำหรับกรมส่งเสริมสหกรณ์ ถือเป็นหน่วยงานสำคัญของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จัดตั้งขึ้นเมื่อปี 2515 มีอำนาจหน้าที่ในการส่งเสริม สนับสนุน แนะนำ กำกับ และดูแลระบบสหกรณ์ของประเทศไทย ภายใต้วิสัยทัศน์ “การสหกรณ์มั่นคง สหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรเข้มแข็ง เศรษฐกิจและสังคมของชุมชนยั่งยืน” ปัจจุบันประเทศไทยมีจำนวนสหกรณ์ 7 ประเภท ได้แก่ สหกรณ์การเกษตร สหกรณ์นิคม สหกรณ์ประมง สหกรณ์ร้านค้า สหกรณ์บริการ สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนและสหกรณ์ออมทรัพย์ รวม 7,317 แห่งทั่วประเทศ และมีกลุ่มเกษตรกรที่อยู่ในการกำกับดูแลกว่า 3,779 แห่ง และสหกรณ์เป็นหนึ่งในสถาบันเกษตรกรที่มีบทบาทในการพัฒนาศักยภาพของสมาชิก ซึ่งมีหน้าที่สำคัญที่จะช่วยส่งเสริมและสร้างความเข้มแข็ง ทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคมในภาวะวิกฤติ ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นหน้าที่ของบุคลากรกรมส่งเสริมสหกรณ์ที่จะต้องเข้าไปขับเคลื่อน ผลักดัน สร้างความรู้แก่สหกรณ์อย่างรอบด้าน ทั้งด้านการผลิต การบริหารธุรกิจ การตลาดและนวัตกรรมดิจิทัล เพื่อพัฒนาศักยภาพสหกรณ์ให้มีความเข้มแข็งเป็นองค์ที่สามารถช่วยแก้ไขปัญหาให้มวลสมาชิกได้อย่างแท้จริง