ดร.วิชัย พยัคฆโส
[email protected]
พ.ร.ก.กู้เงินทั้ง 3 ฉบับผ่านสภาผู้แทนและวุฒิสภาไปแล้วค่อนข้างรวดเร็ว แม้ว่าจะมีเสียงบ่นกับทั้งมีข้อสังเกตและข้อเสนอแนะดีๆบ้าง เป็นส่วนหนึ่งของการจะนำไปสู่การจัดทำแผนและโครงการของสภาพัฒนฯต่อไป
การที่รัฐบาลมีเพียงกรอบการใช้เงินเพียง 4-5 กรอบใหญ่ไว้ ไม่มีรายละเอียด เป็นเพราะต้องการฟังเสียงสะท้อนจากสภาว่าจะมีข้อมูลดีๆอะไรเพิ่มเติมมา ซึ่งปรากฏว่ามีทั้งดีและไม่ค่อยดี ที่มีเสียงด่าว่ารัฐบาลก็ตาม แต่รัฐฐาลคงเก็บเอาส่วนดีๆกลับไปร่วมกับจังหวัดที่จะเสนอความต้องการของประชาชนมาให้สภาพัฒน์ฯรวบรวมนำเสนอรัฐบาลเพื่อตัดสินใจต่อได้หลายประการ
พ.ร.ก.กู้เงินคงต้องเร่งรีบดำเนินการ โดยเฉพาะกระทรวง อ.ว. มีโครงการที่น่าจะเป็นประโยชน์ต่อชุมชนท้องถิ่นมากๆ คือโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจและสังคมแบบบูรณาการ 1 ตำบล 1 มหาวิทยาลัย ภายใต้โครงการกู้เงิน 4 แสนล้านบาท เป็นเวลาถึง 1 ปีเต็มถึงกันยายน 2564 โดยให้มหาวิทยาลัยเป็น system integrator ใหญ่ เป็นผู้ถือเงิน 4.5 ล้านบาทต่อตำบลในการจ้างงาน โดยจะต้องร่วมบูรณาการระหว่างภาคสังคม หน่วยงาน ตำบล อำเภอ และจังหวัด
โครงการดังกล่าวจะให้มหาวิทยาลัยร่วมจัดการทั้งประเทศ 1 โครงการรวมหลายๆงานเข้าด้วยกัน ในการนี้จะมอบงบประมาณให้สำหรับประชาชนเดือนละ 9,000 บาท บัณฑิตจบใหม่ 15,000 บาท นักศึกษาอีก 5,000 บาท โดยจะต้องมีสาธารณสุขเฝ้าระวังอย่างยน้อย 3 คน big data 2 คน digital government อีก 2 คน รวมแล้วไม่เกิน 20 คน
โดยสรุปมหาวิทยาลัยจะเป็นหน่วยงานบูรณาการรายตำบล ดำเนินโครงการยกระดับเศรษฐกิจและสังคมรายตำบลตามปัญหาและความต้องการของชุมชน การจ้างงานในตำบลรวมบัณฑิตและนักศึกษาประมาณ 15-20 คนต่อตำบล ประสานงานจังหวัดและ อปท. พร้อมกับทำหลักฐานรายตำบล ตำบลละ 4.5 ล้านบาท
หัวข้อหลักๆได้แก่โครงการพัฒนาทักษะฝีมือแรงงาน พัฒนา OTOP/SMEs การท่องเที่ยวชุมชน การจัดการน้ำ โครงการเกษตรอาหาร และโครงการอื่นๆ โดยมีเป้าหมายของการลดปัญหาความยากจนแบบระบุเป้าหมายชัดเจน โครงการใช้ Community Big Data ของหน่วยงานราชการ
เห็นโครงการนี้แล้ว น่าจะดีใจที่รัฐเร่งโครงการออกมาให้สภาได้รับทราบว่าเงินกู้ 4 แสนล้านบาทจะนำไปทำในส่วนนี้ แต่การทำ 1 ปี มหาวิทยาลัยจะสามารถบูรณาการกับอำเภอ อปท. และจังหวัดได้ดีเพียงใด เพราะมีแต่งบค่าจ้างเท่านั้น ส่วนงานลงทุนและครุภัณฑ์คงอยู่ที่จังหวัดกระมัง
โครงการนี้เป็นการฝึกมหาวิทยาลัยให้สามารถบริหารจัดการให้ได้ กับทั้งฝึกนักศึกษาให้เกิดทักษะ โดยเฉพาะเอางานวิจัยที่อยู่บนหิ้งออกไปสู่สังคมจริงๆสักครั้ง จะได้รู้ว่าสำเร็จเพียงใด นอกจากนี้ยังอาจจะเพิ่มเรื่องของ BCG และ Medical Equipment เข้าไปด้วย สำหรับมหาวิทยาลัยที่มีความสามารถ เช่น สุรนารี แต่ทั้งหมดโครงการจะได้ End Result หรือ GDP เพิ่มและเป็น Demand Driven ที่แท้จริง
นี่เป็นเพียงโครงการหนึ่งที่เล็กๆที่จะช่วยเสริมสร้างความยั่งยืนให้แก่ชุมชนถ้าทำได้จริงๆจังๆ ใช้เงินงบประมาณคงไม่มากนัก ช่วยกันคนละไม้คนละมือ เชื่อว่าจะสามารถกอบกู้เศรษฐกิจฐานรากได้มากด้วยฝีมือเราช่วยกัน