ตะเกียงเจ้าพายุ

อวสานพรรคการเมืองไทย (1)

แชร์ข่าว

ทวี สุรฤทธิกุล

การเมืองไทยสะท้อน “ความเป็นอนิจจังอย่างยิ่ง” คือมีความไม่แน่นอนซ้ำซ้อนกับความไม่แน่นอนตลอดมา เรื่องหนึ่งที่เห็นได้อย่างชัดเจนก็คือ “ความเป็นอนิจจังของพรรคการเมืองไทย”

เมื่อ 40 ปีก่อน (พ.ศ. 2528) ผู้เขียนเรียนปริญญาโทที่คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ตอนแรกอยากจะทำวิทยานิพนธ์หรู ๆ เกี่ยวกับพัฒนาการของการเมืองไทย จึงเสนอโครงร่างวิทยานิพนธ์เกี่ยวกับการลดบทบาททหารในทางการเมืองไทย เพราะทหารคือ “ตัวปัญหา” ของการเมืองไทยเป็นอย่างยิ่งมานาน พอไปปรึกษาท่านอาจารย์ชัยอนันต์ สมุทวณิช ที่ปรึกษาวิยานิพนธ์ ท่านก็บอกว่า “เป็นไปไม่ได้” ไม่มีใครที่จะไปล้วงคองูเห่า เอาข้อมูลหรือ “คำสารภาพ” จากทหารมาได้หรอก (แปลความได้ว่าการทำวิทยานิพนธ์ในเรื่องเกี่ยวกับทหารทำได้ยาก เพราะทหารคงไม่ให้ความร่วมมือ ข้อมูลทุกอย่างของทหารมักเป็นความลับ และยิ่งจะให้ทหารสารภาพว่าเป็นตัวสร้างปัญหา ก็ยิ่งจะไม่ได้ข้อมูลอะไรเลย) แล้วท่านก็แนะนำว่า(ท่านรู้อยู่แล้วว่าผู้เขียนทำงานเป็นเลขานุการของหัวหน้าพรรคกิจสังคมในตอนนั้น คือท่านอาจารย์ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช)ทำไมไม่ไปหาข้อมูลจากพรรคกิจสังคม ท่านเองก็อยากรู้ว่าพรรคนี้เติบโตมาได้อย่างไร โดยเฉพาะการสรรหาบุคคล (Recruitment) เข้ามาสู่พรรค ทั้งยังตั้งชื่อวิทยานิพนธ์ให้เสร็จสรรพ โดยตั้งให้ว่า “พัฒนาการของพรรคการเมืองไทย : ศึกษากรณีพรรคกิจสังคม”

ผู้เขียนกลับไปแก้โครงร่างวิทยานิพนธ์มาใหม่ เที่ยวนี้ท่านอาจารย์ชัยอนันต์บอกว่า “โอเค” แต่ยังซักถามว่าทำไมจึงมีแนวทางในการหาข้อมูลที่เน้น “การสร้างอิทธิพล” ของผู้นำกลุ่มต่าง ๆ ในพรรค ในทำนองที่เป็นการต่อสู้หรือแข่งขันกัน ผู้เขียนจึงตอบว่า พรรคกิจสังคมนั้นมีก๊กก๊วนมากมาย “ระบบก๊กก๊วน” นี้คือสาระสำคัญของพรรคการเมืองไทย ซึ่งผู้เขียนได้มาจากคำแนะนำของท่านอาจารย์คึกฤทธิ์ ท่านบอกว่าระบบนี้มีมาตั้งแต่ที่ท่านเล่นการเมืองครั้งแรกใน พ.ศ. 2489 “ความเป็นพรรคใหญ่หนึ่งเดียว” ไม่มีจริงในการเมืองไทย มีแต่ “ความเป็นพรรคหนึ่งแต่หลายก๊ก” คือทุกพรรคไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ก็จะมีกลุ่มย่อย ๆ อยู่ในพรรคนั้นเสมอ ที่ท่านอาจารย์คึกฤทธิ์เรียกว่า “ก๊กก๊วน” ซึ่งเป็นทั้ง “จุดแข็ง” และ “จุดอ่อน” ของพรรคการเมืองไทย เมื่ออธิบายให้ท่านอาจารย์ชัยอนันต์เข้าใจแล้ว ท่านก็ตกลงให้ผ่าน แต่ขอเปลี่ยนชื่อวิทยานิพนธ์นั้นเสียใหม่ว่า “การต่อสู้ทางการเมืองของพรรคการเมืองไทย : ศึกษากรณีพรรคกิจสังคม”

ที่เล่ามานี้ไม่ได้จะมาโอ้อวดว่าวิทยานิพนธ์นี้ได้รับรางวัลดีเด่นอะไร (เพราะจริง ๆ ก็ไม่มีรางวัลอะไร เพียงแต่มีหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งมาขอสัมภาษณ์ผู้เขียนที่บ้านสวนพลู เขาคงไปรู้เรื่องวิทยานิพนธ์นี้มาจากเพื่อนที่เรียนด้วยกัน) แต่พอวิทยานิพนธ์เผยแพร่ออกไปในหน้าหนังสือพิมพ์ ก็มีเสียงฮือฮาว่า “ช่างกล้า” ที่นำเอาความลับต่าง ๆ ในพรรคกิจสังคมมาเผยแพร่ต่อสาธารณะ โชคดีที่ทางมหาวิทยาลัยก็ได้ติติงอะไร (เพราะการเผยแพร่วิทยานิพนธ์ซึ่งเป็นลิขสิทธิ์ของทางมหาวิทยาลัยนั้นจะต้องได้รับการอนุญาตจากทางมหาวิทยาลัยเสียก่อน) ซึ่งส่วนตัวของผู้เขียนก็ไม่คิดว่าจะส่งผลอะไรในทางสาธารณะมากนัก เพราะงานวิชาการส่วนใหญ่จะมีคนสนใจอยู่แต่ในวงแคบ ๆ เว้นแต่ว่าจะมีการเผยแพร่ไปสู่สังคมภายนอก อย่างเช่นที่ทำโดยสื่อมวลชนนั้น

ข้อค้นพบในวิทยานิพนธ์ของผู้เขียนที่กลายเป็นประเด็นในครั้งนั้นก็คือ “พรรคการเมือง(ในประเทศไทย)ยิ่งเป็นที่มีขนาดพรรคใหญ่ก็ยิ่งมีความเปราะบางบางมาก และเสี่ยงที่จะสูญสลายได้ง่ายกว่าพรรคที่มีขนาดเล็ก” โดยผู้เขียนได้ข้อมูลเหล่านี้มาจากการสัมภาษณ์บรรดาผู้หลักผู้ใหญ่ที่มีส่วนร่วมในการก่อตั้งพรรคกิจสังคมหลายคน นอกจากท่านอาจารย์ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์แล้ว ก็ยังมี “คนเก่าคนแก่” อย่างเช่น นายบุญเท่ง ทองสวัสดิ์ นายใหญ่ ศวิตชาต  นายโกศล ไกรฤกษ์ นายทองหยด จิตตะวีระ นายบุญชู โรจนเสถียร และนายพงส์ สารสิน (และคนอื่น ๆ อีกรวม 21 คน) ซึ่งท่านเหล่านี้มีประสบการณ์เกี่ยวกับการเมืองไทยมาตั้งแต่ยุคแรก ๆ หลัง พ.ศ. 2475 โดยบางท่านก็เป็น ส.ส.มาตั้งแต่รุ่นแรก ๆ ใน พ.ศ. 2476 (และหลายท่านก็อยู่กับพรรคกิจสังคมมาจนถึงวันที่พรรคล่มสลายในภายหลังการรัฐประหารวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2534) โดยได้เล่าเรื่องการก่อตั้งพรรคกิจสังคมใน พ.ศ. 2517 เพื่อลงเลือกตั้งใน พ.ศ. 2518 ว่า “เป็นไปด้วยความยากลำบาก” เพราะเป็นพรรคใหม่และยังไม่ได้มีบทบาทที่โดดเด่นในทางการเมือง จึงทำให้ได้ ส.ส.ในตอนนั้นมาเพียง 18 คน จนเมื่อหัวหน้าพรรค คือท่านอาจารย์คึกฤทธิ์ได้รับเลือกจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเสียงส่วนใหญ่ให้เป็นนายกรัฐมนตรี การหาสมาชิกในการเลือกตั้งครั้งต่อมาใน พ.ศ. 2519 จึง “ง่ายขึ้น”

ทุกท่านมีบทบาทในการสรรหาผู้คนเข้ามาร่วมงานกับพรรคกิจสังคมคล้าย ๆ กัน คืออาศัยความใกล้ชิดสนิทสนมกันมาอย่างยาวนานชวนบุคคลต่าง ๆ เข้ามาสู่พรรค ความเป็น “ก๊กก๊วน” จึงเริ่มเกิดขึ้นจากความสัมพันธ์ส่วนตัวระหว่างผู้นำและสมาชิกของแต่ละกลุ่ม อย่างไรก็ตามพอถึงการเลือกตั้งครั้งที่ 3 ใน พ.ศ. ๒๕๒๒ คนที่เข้าสู่พรรคกิจสังคมก็เริ่มที่จะมี “คนแปลกหน้า” เข้ามาสู่พรรค ซึ่งก็หมายถึงคนที่ไม่ได้เข้ามาด้วยความสนิทสนมส่วนตัวกับผู้หลักผู้ใหญ่ในพรรคตามที่เคยเป็น แต่เข้ามาด้วยการ “นำเสนอตัวเอง” เข้ามายังพรรคโดยตรง ทำให้พรรคกิจสังคมเริ่มเป็นพรรคที่ขยายขนาดของก๊กก๊วนขึ้นโดยทันที และยิ่งพรรคกิจสังคมได้ร่วมรัฐบาลใน พ.ศ. 2523 ก็ยิ่งมีคนหน้าใหม่ ๆ เข้ามาสู่พรรคมากขึ้น กระทั่งในการเลือกตั้ง พ.ศ. 2526 (ซึ่งเป็นข้อมูลที่ใช้ในการทำวิทยานิพนธ์ใน พ.ศ. 2528) ก็มีคนกลุ่มต่าง ๆ เข้ามามากขึ้น โดยในการเลือกตั้งครั้งนั้นพรรคกิจสังคมได้ ส.ส.มาถึง 87 คน (และมี ส.ส.ในสภาจากพรรคอื่นมาเข้าร่วมในภายหลังอีกจนมีจำนวนเป็น 101 คน)

ผู้หลักผู้ใหญ่ของพรรคที่ให้สัมภาษณ์ในการทำวิทยานิพนธ์ของผู้เขียนนี้พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า แรก ๆ ก็ดีใจมากที่มีจำนวน ส.ส.เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ แต่พออยู่ไป ๆ ก็เริ่มรู้สึกว่าพรรคกำลังจะมีปัญหามากขึ้น และสุดท้ายก็เป็นไปดังที่ท่าน ๆ เหล่านั้นรู้สึก นั่นก็คือบรรดา “ก๊กก๊วน” ต่าง ๆ ที่เพิ่มจำนวนมากขึ้นในพรรคกิจสังคมนั้นได้ทำลายพรรคกิจสังคมจนหมดสิ้น ด้วยสภาพแบบที่สำนวนไทยเรียกว่า “หมาตายเห็บกระโดดหนี”

ขณะนี้ประเทศไทยกำลังจะเข้าสู่ “โหมดเตรียมการเลือกตั้ง” พรรคต่าง ๆ ต่างก็กระดี๊กระด๊าวางท่าเข้าสู่การเลือกตั้งอย่างคึกคัก แต่บางพรรคอย่างพรรคภูมิใจไทย ที่มีคนมองว่าน่าจะเป็นพรรคที่ได้เปรียบมากที่สุดในการเลือกตั้งครั้งที่จะถึงนี้ ถ้าเรามองด้วยเรื่องราวของพรรคกิจสังคมในอดีต(ที่คนเจนเอ็กซ์ วาย และแซด อย่างพวกนิยมพรรคสีส้มคงเกิดไม่ทัน) ก็จะมองเห็นอนาคตอัน “วายวอด” อยู่ใกล้ ๆ ซึ่งจะเป็นเพราะเหตุใดนั้น สัปดาห์หน้าเราจะมาขยายความไปด้วยกัน

ตอนนี้ก็ขอแสดงความเสียใจกับพรรคชาติไทยพัฒนา ที่ได้ข่าวว่าก็น่าจะจบฉากลงด้วยการพากันเข้าไปซบกับพรรคภูมิใจไทย โดยมีเสียงเล่าลือว่า “เถ้าแก่แซ่เบ๊” คนที่สร้างพรรคนี้มา ได้อนุญาตแก่ลูก ๆ ที่ไปจุบธูปเทียนขอขมานั้นแล้ว

ตอนนี้ใครผ่านไปแถวสุพรรณคงได้ยินคนทั้งจังหวัดเปิดเพลงดัง ๆ ไปทั่วทุกท้องคุ้งว่า “จงไปดีเถิดนะคนมีราคา พี่จนคนน้อยด้อยค่า สัญญารักพี่เป็นหมัน...” (ในเพลง “โชคดีที่รัก” ของยอดรัก สลักใจ)

#อวสานพรรคการเมืองไทย #พรรคการเมืองไทย #ระบบก๊กก๊วน #การเมืองไทย #เลือกตั้งไทย #ภูมิใจไทย #พรรคชาติไทยพัฒนา

ข่าวแนะนำ