บทบรรณาธิการ

สายใยสัมพันธ์ราชวงศ์ไทยและภูฏาน

แชร์ข่าว

ความสัมพันธ์ระหว่างราชอาณาจักรไทยและราชอาณาจักรภูฏานนั้นมีเอกลักษณ์และพิเศษอย่างยิ่ง โดยมีสถาบันพระมหากษัตริย์ของทั้งสองชาติเป็นศูนย์กลางของความผูกพันอันลึกซึ้ง

รากฐานที่สำคัญที่สุดคือ พระพุทธศาสนา ซึ่งหล่อหลอมให้ทั้งสองประเทศมีวัฒนธรรมและค่านิยมที่คล้ายคลึงกัน แม้จะมีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตอย่างเป็นทางการในปี พ.ศ. 2532 แต่ความสนิทสนมในระดับพระราชวงศ์นั้นมีมาก่อนหน้านั้นแล้ว

สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก ทรงแสดงความเคารพและรักเทิดทูนต่อ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และพระราชวงศ์ไทยอย่างสูง

เหตุการณ์สำคัญล่าสุดที่ตอกย้ำความใกล้ชิดนี้คือ การเสด็จพระราชดำเนินของ สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี และ สมเด็จพระราชินีเจตซุน เพมา วังชุก มายังประเทศไทยเพื่อ ทรงวางพวงมาลาถวายราชสักการะพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พระบรมมหาราชวัง

การเสด็จฯ ในครั้งนี้สะท้อนถึง ความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นและน้ำพระราชหฤทัยอันงดงาม ที่มีต่อพระราชวงศ์จักรี และยังทรงนำ ผ้าคะตะ ซึ่งเป็นผ้าศักดิ์สิทธิ์ตามประเพณีของภูฏาน มาถวายแด่พระบรมศพ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งความเคารพและบริสุทธิ์สูงสุด ในด้านการพัฒนาประเทศ หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ของในหลวงรัชกาลที่ 9 ได้ถูกนำไปประยุกต์ใช้ในการพัฒนาโครงการต่าง ๆ ในภูฏานอย่างต่อเนื่อง เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน โดยสอดคล้องกับแนวคิด ความสุขมวลรวมประชาชาติ ของภูฏาน

ความร่วมมือที่โดดเด่น เช่น โครงการหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ และความร่วมมือกับ มูลนิธิโครงการหลวง ในการพัฒนาการเกษตรพื้นที่สูงของภูฏาน ล้วนเป็นผลจากพระราชไมตรีอันงดงามนี้ สายสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่างราชวงศ์ไทยและภูฏาน จึงเป็นแบบอย่างของ มิตรภาพที่ยั่งยืน ที่สร้างขึ้นจากความศรัทธา ความเคารพ และความร่วมมือเพื่อประโยชน์สุขของประชาชนทั้งสองประเทศอย่างแท้จริง

#ราชวงศ์ไทย #กษัตริย์จิกมี #ภูฏาน #ความสัมพันธ์ไทยภูฏาน #เศรษฐกิจพอเพียง #มิตรภาพยั่งยืน