บทความ บทวิเคราะห์

AIA Smart Network ยกระดับมาตรฐาน ประกันสุขภาพไทย

แชร์ข่าว

ท่ามกลางธุรกิจประกันขีวิตแข่งขันกันอย่างรุนแรง เพื่อช่วงชิงส่วนแบ่งในตลาดประกันชีวิตไทยที่ยังมีพื้นที่ให้เติบโตได้อีกมาก ดังนั้นการปรับผลิตภัณฑ์และกลยุทธ์ของบริษัทให้สอดรับกับความต้องการของไลฟ์สไตล์และกลุ่มเป้าหมายในยุคปัจจุบันที่ยังขาดความคุ้มครองนับว่ามีบทบาทสำคัญ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะเห็นกระแสความเคลื่อนไหวส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ของบรรดาบริษัทประกันต่างๆทยอยเปิดตัวนวัตกรรมและบริการใหม่ๆออกมาให้เห็นสู่ตลาดกันอย่างต่อเนื่อง

AIA Smart Network ก็เป็นหนึ่งในกลยุทธ์ให้บริการใหม่เอี่ยมอ่อง ซึ่งเป็นโครงการที่เอไอเอคัดเลือกโรงพยาบาลเอกชนและสถานพยาบาลของรัฐที่มีความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับเอไอเอ ให้เข้าร่วมเป็นโรงพยาบาลในโครงการ AIA Smart Network เพื่อยกระดับการดูแลลูกค้าเอไอเอให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ให้ลูกค้าเอไอเอมั่นใจว่าจะเข้าถึงการรักษาได้อย่างสะดวกและทั่วถึง ด้วยทีมแพทย์เฉพาะทางผู้ชำนาญการรักษา ลดปัญหาการเคลม และช่วยควบคุมค่าใช้จ่ายส่วนเกินได้

สำหรับลูกค้าเอไอเอที่ถือสัญญาเพิ่มเติมที่เข้าร่วมโครงการและยังมีผลบังคับ สามารถรับสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมพิเศษ เพิ่มค่ารักษาพยาบาลสูงสุด 20% และเพิ่มจำนวนวันค่าห้องและค่าแพทย์สูงสุดไม่เกิน 365 วัน เมื่อเข้ารับการรักษาตัวเป็นผู้ป่วยใน ณ โรงพยาบาลในโครงการ AIA Smart Network

โดยระยะเวลาโครงการ: ตั้งแต่วันที่ 18 พฤศจิกายน 2568 – 17 พฤศจิกายน 2569 ลูกค้าเอไอเอสามารถเลือกโรงพยาบาลใน AIA Smart Network ทุกครั้งที่เข้ารับการรักษา เพื่อรับสิทธิเพิ่มความคุ้มครองตลอดระยะเวลาโครงการ

.สำหรับลูกค้าที่มีประกันสุขภาพตามที่โครงการกำหนด เอไอเอมอบผลประโยชน์สูงสุดเพิ่มขึ้น 20% ต่อรอบปีกรมธรรม์ หรือ ต่อการเข้าพักรักษาตัวเป็นผู้ป่วยในครั้งใดครั้งหนึ่ง, หรือเพิ่มวันสำหรับค่าห้อง และค่าแพทย์ตรวจรักษานานสูงสุดถึง 365 วัน ขึ้นอยู่กับผลประโยชน์ของแต่ละหมวด และแต่ละสัญญาเพิ่มเติม

โดย"เอกรัตน์ ฐิติมั่น" ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายธุรกิจประกันสุขภาพ ซึ่งเป็นคีย์แมนคนสำคัญรับผิดชอบในการบริหารงานประกันสุขภาพแบบองค์รวมครอบคลุม นับตั้งแต่การพัฒนาธุรกิจและการตลาด จนถึงทำงานร่วมกับโรงพยาบาลพันธมิตรในการจัดตั้งเครือข่ายรพ. และยังมีความสามารถวิเคราะห์เจาะลึกข้อมูลนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ให้คนไทยเข้าถึงประกันสุขภาพได้มากขึ้นอย่างยั่งยืน ได้เปิดเผยเรื่องนี้ว่า เอไอเอมีพันธกิจสำคัญสนับสนุนให้คนไทยมีสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้นผ่านการมีประกันชีวิตและสุขภาพ โครงการ AIA Smart Network นับเป็นกลยุทธ์สำคัญของเอไอเอร่วมกับโรงพยาบาลที่วิสัยทัศน์ตรงกัน เพื่อสร้างความสมดุลและยั่งยืนให้กับระบบประกันสุขภาพ ทำให้คนไทยสามารถเข้าถึงการรักษาที่ดี ตามมาตรฐานการแพทย์ ด้วยราคาและเบี้ยประกันระดับที่เหมาะสม ช่วยควบคุมค่าใช้จ่ายส่วนเกิน และยังลดปัญหาการเคลมอีกด้วย

"เอไอเอได้ยกระดับมาตรฐานประกันสุขภาพ ด้วยการประกาศทิศทางใหม่ในการบริหารจัดการระบบประกันสุขภาพผ่านกลยุทธ์ “AIA Smart Network” ซึ่งร่วมมือกับเครือข่ายโรงพยาบาลเอกชนพันธมิตรกว่า150แห่งที่คัดสรรแล้วว่ามีทั้งคุณภาพการรักษาและมีการจัดการค่าใช้จ่ายที่เหมาะสม เพื่อสร้างสถานการณ์ที่ทุกฝ่ายได้ประโยชน์กันหมด ไม่ว่าทั้งบริษัท โรงพยาบาล และผู้บริโภค"

สำหรับประโยชน์ที่ได้รับประการแรกคือ การช่วยแก้ไขปัญหาระบบเคลมหรือค่าสินไหม อันทำให้เกิดความเชื่อใจและมีมาตรฐานการรักษา โดยหนึ่งในหัวใจสำคัญของ AIA Smart Network คือการสร้างความเชื่อใจระหว่างบริษัทประกันและโรงพยาบาล โดยเฉพาะในกรณีการเจ็บป่วยเล็กน้อย (Simple Diseases) ที่มักมีข้อโต้แย้งเรื่องความจำเป็นในการนอนโรงพยาบาล ซึ่งหากเป็นโรงพยาบาลในเครือข่าย เอไอเอจะให้ความสำคัญกับ ดุลพินิจของแพทย์เป็นหลัก หากแพทย์ยืนยันว่ามีความจำเป็นต้องรับตัวไว้เป็นผู้ป่วยใน (Admit) แม้ตัวบ่งชี้อื่นอาจจะไม่ชัดเจน บริษัทก็พร้อมจะรับฟังและอนุมัติการเคลม โดยลดข้อโต้แย้งให้น้อยลง เพื่อลดภาระของทั้งตัวแทนและลูกค้า

ประการที่ 2 ช่วยให้เกิดมาตรฐานใหม่ของการบริการเอไอเอที่ได้รับการเปิดเผยจากสถิติการให้บริการเคลมในปัจจุบันด้วยความเร็วระดับวินาทีเร็วขึ้น โดยจากที่เรามีการพิจารณาเคลมเฉลี่ยมากกว่า 10,000 เคสต่อวัน โดยมีการประกาศระดับการบริการ (Service Level) ที่ชัดเจนสำหรับโรงพยาบาลในเครือข่าย AIA Smart Network ดังนี้ ถ้าเป็นผู้ป่วยนอก (OPD)การเคลมแบบ Cashless (ไม่ต้องสำรองจ่าย) กว่า 93% สามารถ อนุมัติได้ภายในเวลาเพียง 18 วินาที กรณีหากเป็นผู้ป่วยใน (IPD) สามารถอนุมัติได้ภายใน 1 นาที สำหรับ 34% ของเคสทั้งหมด และมี ระยะเวลาพิจารณาเฉลี่ยอยู่ที่ 33 นาที แผนในอนาคตเอไอเอเตรียมขยายระบบการขออนุมัติล่วงหน้าก่อนการผ่าตัด (Pre-authorization) แบบ Real-time ในโรงพยาบาลบางแห่ง เพื่อความมั่นใจของลูกค้าก่อนเข้ารับการรักษา

ประการที่ 3 นวัตกรรมดิจิทัลผ่านแอป AIA+ และ Medical Assistant เพื่อช่วยให้ลูกค้าบริหารจัดการค่าใช้จ่ายได้อย่างแม่นยำ ซึ่งเอไอเอได้พัฒนาเครื่องมือบนแอปพลิเคชัน AIA+ และระบบ AIA Medical Assistant ซึ่งได้ช่วยให้ลูกค้าและตัวแทนสามารถเช็ครายชื่อโรงพยาบาลในเครือข่ายและประเมินค่าใช้จ่ายล่วงหน้า พร้อมทั้งตรวจสอบราคาแพ็กเกจของการรักษาของโรงพยาบาล ซึ่งบางแพ็กเกจเป็นข้อเสนอพิเศษที่มีเฉพาะกับเอไอเอเช่น การคำนวณส่วนต่างที่ต้องจ่ายจริงเทียบกับความคุ้มครองที่มีอยู่ ทำให้ลูกค้าทราบภาระค่าใช้จ่ายล่วงหน้าก่อนรักษา

ประการที่ 4 เอไอเอยังอัดฉีดสิทธิประโยชน์และกิจกรรมเชื่อมสัมพันธ์ นอกจากระบบการเคลมแล้ว เอไอเอยังได้จัดกิจกรรม Open House เพื่อให้ตัวแทนได้เข้าไปสัมผัสเครื่องมือและมาตรฐานการรักษาของโรงพยาบาลในเครือข่าย รวมถึงมีการมอบสิทธิประโยชน์พิเศษ เช่น การแจกวัคซีนไข้หวัดใหญ่ และสิทธิพิเศษ Prestige Partner Benefit และที่สำคัญที่สุดคือการประกาศ เพิ่มความคุ้มครองให้แก่ลูกค้าปัจจุบันอีก 20% สำหรับผู้ที่เลือกเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลกลุ่ม AIA Smart Network เพื่อจูงใจให้เกิดการใช้ทรัพยากรทางการแพทย์ในเครือข่ายที่มีการกำกับดูแลมาตรฐานอย่างเหมาะสม

สำหรับภาคธุรกิจที่เผชิญกับปัญหาเบี้ยประกันกลุ่มพุ่งสูงขึ้น 30-40% ต่อปี เอไอเอได้เปิดตัวแผน "CS Smart" ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างประกันกลุ่มปกติกับเครือข่าย AIA Smart Network

โดยจุดเด่นแผนนี้จะมีค่าเบี้ยประกันที่ถูกกว่าแผนปกติ เนื่องจากมีการจำกัดการรักษาในโรงพยาบาลที่เน้นการรักษาตามความจำเป็น ไม่มีการจ่ายยาหรือสั่งตรวจที่เกินขอบเขต ซึ่งการบริหารจัดการจะช่วยให้องค์กรสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายสวัสดิการพนักงานในระยะยาว และชะลอการปรับขึ้นเบี้ยประกันในปีต่อ ๆ ไป อีกทั้งยังช่วยลดพฤติกรรมการใช้งานที่ไม่จำเป็น (Abuse) หรือการใช้จ่ายเกินความเหมาะสมในช่วงปลายปี

ทั้งนี้กลยุทธ์ AIA Smart Network กล่าวโดยสรุปได้ว่า เป็นการสร้างสมดุลใหม่ ซึ่งเอไอเอถือว่า เป็นการจัดการเครือข่ายรูปแบบใหม่นี้ไม่ใช่แค่การขยายเครือข่ายให้กว้างที่สุดเหมือนในอดีต แต่เป็นการเลือกพาร์ทเนอร์โรงพยาบาลอย่างพิถีพิถัน เพื่อสร้างความยั่งยืน และเกิดมาตรฐานทางการแพทย์ที่มุ่งเน้นโรงพยาบาลที่รักษาตามมาตรฐาน (Standard) ไม่ใช่เพียงเพราะมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ดีแล้วจะสั่งตรวจเกินความจำเป็น

และประการสำคัญ นายเอกรัตน์ กล่าวว่ายังช่วยสร้างความยั่งยืนของอุตสาหกรรมประกัน เอไอเอเชื่อว่าหากบริษัทประกันหันมาใช้โมเดลนี้มากขึ้น โรงพยาบาลต่างๆจะต้องกลับมาให้ความสำคัญกับมาตรฐานทางการแพทย์ที่เหมาะสม เพื่อให้สามารถอยู่ในเครือข่ายได้ อนาคตของ Co-payment: ในระบบประกันอาจก้าวไปสู่การมีส่วนร่วมจ่าย เพื่อให้ผู้ป่วยตระหนักถึงความจำเป็นในการรักษาและเลือกสถานพยาบาลที่เหมาะสมมากขึ้น

แชร์ข่าว