“สามเอ ไก่ย่างห้าดาว” นักชกระดับตำนาน วัย 42 ปี จากบุรีรัมย์ เผยพอใจกับผลงานตัวเองที่ยังคงรักษาฟอร์มดีไว้ได้ในการชนะคะแนนเอกฉันท์จากการปะทะกับ “จ้าวเสือใหญ่ ม.กรุงเทพธนบุรี” มวยหมัดหนัก วัย 24 ปี จากกรุงเทพฯ ภายใต้กติกามวยไทย รุ่นสตรอว์เวต (115-125 ป.) ในศึกใหญ่ส่งท้ายปี ONE ลุมพินี 137: ตะวันฉาย vs เมิงหยาง เมื่อวันศุกร์ที่ 19 ธ.ค. ที่ผ่านมา
ไฟต์นี้ “สามเอ” ต้องเป็นฝ่ายรับน้อง “จ้าวเสือใหญ่” ที่ประเดิมชกในรุ่นสตรอว์เวตเป็นครั้งแรก จากปกติที่ชกและเป็นเจ้าของตำแหน่งผู้ท้าชิงอันดับ 5 ของแรงกิง ONE มวยไทย รุ่นฟลายเวต (125-135 ป.) “สามเอ” จึงฟิตซ้อมร่างกายเกินร้อย พร้อมพกความมั่นใจจากการปราบ “ตุย ลิน ทัต” นักชกชาวเมียนมาที่อายุน้อยกว่าถึง 20 ปี ในศึก ONE ลุมพินี 126 เมื่อเดือน ก.ย. ที่ผ่านมา
“สามเอ” ยังคงไม่ทิ้งลายเจ้าตำนานมวยไทยผู้สร้างประวัติศาสตร์คว้าเข็มขัดแชมป์โลกมาแล้วถึง 3 เส้น ได้แก่ แชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นฟลายเวต และแชมป์โลก ONE รุ่นสตรอว์เวต 2 กติกา (มวยไทยและคิกบ็อกซิ่ง) เพราะภาพรวมทั้ง 3 ยก “สามเอ” ใช้ประสบการณ์อ่านเกมนักชกรุ่นน้อง พร้อมออกอาวุธได้ตามแผนที่วางมาจนสามารถเรียกนับ “จ้าวเสือใหญ่” ได้ถึง 2 ครั้ง โชว์ผลงานถูกใจ “บอสชาตรี” คว้าโบนัส 350,000 บาท มาครองด้วยในไฟต์นี้
“ดีใจครับ ถึงอายุเยอะแต่ความตั้งใจของผมยังเต็มร้อย และขอบคุณ บอสชาตรี ที่ให้โบนัสด้วย ตอนแรกที่พิธีกรขึ้นมาบนเวที ผมก็ตกใจคิดว่าเขาจะมาคุยเฉย ๆ ไม่คิดว่าจะได้โบนัส เงินก้อนนี้ผมจะให้ครอบครัวครับ”
“สามเอ” กล่าวถึงรูปเกมในไฟต์นี้ว่าแม้จะต้านพลังหมัดของ “จ้าวเสือใหญ่” ได้แต่ก็ถือว่าไม่ง่ายที่จะเอาชนะนักชกรุ่นน้องสุดแกร่งคนนี้ พร้อมทั้งวิเคราะห์จุดอ่อนของ “จ้าวเสือใหญ่” ในการลดลงมาชกในรุ่นสตรอว์เวตด้วย
“น้องเป็นนักมวยที่แล้วต่อยมีเสน่ห์ครับและถือว่าเก่งในรุ่น 135 ปอนด์มาก เพราะน็อกคู่แข่งเป็นว่าเล่นเลย ผมก็พะวงเรื่องนี้ เพราะว่าหมัดของน้องเขาดีมาก ยกแรกมีจังหวะที่ผมไปติดอยู่ในวงอาวุธของน้องเขาด้วยแต่ก็ไม่มีปัญหาครับ”
“จุดเปลี่ยนอยู่ที่ยกสอง ตอนนั้นผมเรียกนับได้ จังหวะนั้นน้องเขาปล่อยฮุกมา ผมเลยดึงและชิงต่อยซ้ายเข้าไป แต่ถึงจะเรียกนับได้ก็ต้องรัดกุมและระวังตัวตลอด เป็นวันที่เจ็บเยอะเพราะน้องเขาหมัดเร็วและหนักมาก”
“ยกที่สามผมก็ยังไม่ประมาท เพราะน้องเขาเป็นมวยที่นับน็อกได้ตลอดเวลา พอจบเกมก็ดีใจมาก ผมรู้สึกได้ว่าน้องเริ่มแผ่วตั้งแต่ปลายยกสอง และอาจยังไม่ชินกับน้ำหนักที่ลดลงมาชกในไฟต์แรก ทำให้อาจจะเหนื่อย แต่ไฟต์ต่อไปน่าจะปรับตัวได้ ผมเองเคยชกรุ่น 135 ปอนด์แล้วลดลงมา 125 ปอนด์ ผมก็หนื่อยมากเหมือนกันครับ”
แม้จะอยู่ในวัยเลข 4 แต่ “สามเอ” แสดงให้ทุกคนประจักษ์ว่า ความเก๋าและฝีมือของเขายังคงเหนือชั้น สามารถรับมือกับนักชกรุ่นน้องได้อย่างอยู่หมัด และหลังจากจัดการ “จ้าวเสือใหญ่” ลงได้ เป้าหมายต่อไปของตำนานผู้นี้คือการคว้าใบเบิกทางสู่การท้าชิงเข็มขัดแชมป์มวยไทยอีกครั้ง เพื่อเติมเต็มเกียรติยศบนเส้นทางนักสู้ตลอดกว่า 3 ทศวรรษที่ผ่านมา
“ผมยังคงย้ำว่าอยากได้โอกาสชิงแชมป์อีกครั้ง ด้วยอายุขนาดนี้แล้วก็อยากรู้ว่าจะมีโอกาสอีกไหม ถ้าได้ไปชิงแชมป์อีกสักครั้งจะดีมาก ไม่ว่าตอนนั้นแชมป์โลกจะเป็นใครก็ตาม”
“ฝากถึงแฟนคลับทุกคนที่ติดตามและเชียร์ผมมาตลอด ผมก็อยากให้ทุกคนเชียร์ผมอย่างนี้ตลอดไปนะครับ”
แฟนกีฬาการต่อสู้สามารถติดตามข่าวสารอัปเดตของ ONE ได้ที่เว็บไซต์ ONEFC.com รวมถึงโซเชียลมีเดียของ ONE ประเทศไทย ได้แก่ Facebook ONE Championship Thailand Instagram ONEChampTh และ TikTok ONEChampTH
#สามเอไก่ย่างห้าดาว #จ้าวเสือใหญ่ #ONELumpinee #มวยไทย #ข่าวมวย #ONEChampionship #ตำนานมวยไทย