เปิดเส้นทางชีวิตนักสู้ของ “ยอดไอคิว อ.พิมลศรี” จอมบู๊ไฟแรง วัย 23 ปี จากบุรีรัมย์ ที่อดทนพิสูจน์ฝีมือมาอย่างต่อเนื่อง ก่อนบรรลุเป้าหมายสำคัญในอาชีพนักมวย ด้วยการคว้าสัญญา ONE มูลค่า 1 แสนดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 3.1 ล้านบาท) มาครองเป็นคนที่ 36 ของรายการในศึก ONE ลุมพินี 137 เมื่อวันศุกร์ที่ 19 ธ.ค. ที่ผ่านมา
ไฟต์ล่าสุด “ยอดไอคิว” โชว์เตะก้านคอเต็มแรง ปิดเกมน็อกเอาต์คู่ปรับเก่า “อเล็กเซย์ บาลีโก” จากรัสเซีย เพียงยกแรก เพิ่มสถิติชนะเป็นไฟต์ที่ 11 จาก 12 ไฟต์ ผลงานอันโดดเด่นดังกล่าวทำให้ “บิ๊กบอส” ชาตรี ศิษย์ยอดธง ตัดสินใจมอบโบนัส 350,000 บาทให้เป็นก้อนที่ 3 พร้อมแจกสัญญา ONE ให้เป็นรางวัลตอบแทนความพยายามแก่ “ยอดไอคิว”
วันนี้เราขอพาทุกท่านไปทำความรู้จักตัวตนของ “ยอดไอคิว” ให้มากขึ้น ตั้งแต่จุดเริ่มต้นของการชกมวย จนถึงปัจจุบัน ซึ่งเขาต้องพิสูจน์ฝีมืออย่างหนัก กว่าจะก้าวเข้ามาอยู่ภายใต้องค์กรศิลปะการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกอย่าง ONE ได้สำเร็จ
จุดเริ่มต้นเส้นทางนักมวยของ “ยอดไอคิว” เด็กหนุ่มจากจังหวัดบุรีรัมย์ เกิดจากแรงบันดาลใจที่มีต่อ “จา พนม” ดาราดาวบู๊ชื่อดัง โดยมีคุณพ่อเป็นผู้ฝึกซ้อมให้ในช่วงแรก ก่อนย้ายมาอยู่กับค่ายมวย ส.ธนาเพชร ตั้งแต่เรียนชั้นประถม 5 และออกชกเก็บประสบการณ์ในเวทีภูธรอย่างต่อเนื่อง กระทั่งจบชั้นมัธยม 6 จึงตัดสินใจย้ายเข้าสู่เมืองหลวงมาสังกัดค่ายมวย พีเค.แสนชัยมวยไทยยิม โดยหวังพัฒนาฝีมือและยกระดับศักยภาพของตนเองให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น
การย้ายมาใช้ชีวิตในกรุงเทพฯ ช่วยให้ “ยอดไอคิว” เติบโตทั้งตัวตนและฝีมืออย่างก้าวกระโดด ซึ่งมี “ตะวันฉาย พีเค.แสนชัย” แชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นเฟเธอร์เวต (145-155 ป.) คอยดูแลและให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิด โดยตั้งใจฝึกซ้อมอย่างเต็มที่เพื่อหวังตามรอยพี่ชายคนสนิทไปสู่เวทีระดับโลก
“สิ่งที่ พี่ตะวันฉาย คอยสอนผมเสมอคือ เวลาขึ้นอย่าหลง เวลาลงอย่าท้อ เพราะพี่เขาผ่านประสบการณ์เหล่านี้มาหมดแล้ว วันที่ได้เห็นพี่เขานำเข็มขัดแชมป์โลก ONE กลับมาที่ค่าย ผมรู้สึกตื่นเต้นและภาคภูมิใจแทนมาก ถือเป็นแรงบันดาลใจสำคัญที่ทำให้ผมอยากก้าวไปให้ถึงเป้าหมายเดียวกันครับ”
นับตั้งแต่ประเดิมชกในศึก ONE ลุมพินี 10 เมื่อวันศุกร์ที่ 24 มี.ค. 66 “ยอดไอคิว” พัฒนาฝีมืออย่างรวดเร็วและเก็บชัยชนะได้ต่อเนื่องหลายไฟต์ แต่เจ้าตัวยังต้องเฝ้ารอโอกาสคว้าสัญญา ONE ต่อไป กระทั่งก่อนขึ้นชกไฟต์ล่าสุด เขาได้รับแรงกระตุ้นสำคัญจากคำให้สัมภาษณ์ของ “บอสชาตรี” ที่ย้ำว่าการก้าวสู่ระดับโลกต้องมีใจปิดเกมมากกว่านี้ แรงผลักดันดังกล่าวส่งผลให้เขางัดฟอร์มเก่งออกมาเอาชนะ “อเล็กเซย์” ได้อย่างน่าประทับใจ ซึ่งพิสูจน์ฝีมือให้แฟนกีฬาได้ประจักษ์ถึงความพร้อมของเขา
ถึงตอนนี้ ผลงานแพ้เพียงครั้งเดียวจาก 12 ไฟต์ที่ขึ้นชกในศึก ONE ลุมพินี พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า “ยอดไอคิว” พร้อมก้าวไปอยู่ในระดับที่สูงขึ้น โดยได้รับสัญญา ONE มาครอง ต่อจากเพื่อนร่วมค่ายอย่าง “ทองพูน พีเค.แสนชัย” และ “เสือคิม สจ.โต้งปราจีน” พร้อมตามรอยพี่ชายคนสนิท “ตะวันฉาย” ไปสู่ระดับโลกสมใจ
“ขอบคุณบอสชาตรีมากครับ ในที่สุดวันนี้ที่รอคอยก็มาถึงเสียที ที่ผ่านมาผมพยายามเก็บชัยชนะให้ได้ทุกไฟต์ และดีใจมากที่ความพยายามตลอดเวลาที่ผ่านมาส่งให้ผมมาถึงจุดนี้ อยากขอบคุณทุกคนที่ค่ายมวยพีเค.แสนชัยที่คอยสนับสนุนผม และแฟน ๆ ทุกคนที่คอยเชียร์เป็นกำลังใจให้ผมจนผมก้าวมาสู่สัญญา ONE ได้สำเร็จครับ”
แฟนกีฬาการต่อสู้สามารถติดตามข่าวสารอัปเดตของ ONE ได้ที่เว็บไซต์ ONEFC.com/th รวมถึงโซเชียลมีเดียของ ONE ประเทศไทย ได้แก่ Facebook ONE Championship Thailand Instagram ONEChampTh และ TikTok ONEChampTH
#ยอดไอคิว #ONEลุมพินี #สัญญาONE #มวยไทย #ONE2568 #นักสู้ไทย #ข่าวมวย #ข่าวกีฬา







