"ดร.ก้องศักด" เชื่อมั่นทัพนักกีฬาไทย คว้าเจ้าเหรียญทองซีเกมส์ ครั้งที่ 33 พร้อมกระตุ้นสร้างสถิติหรือผลงานที่พัฒนาขึ้นกว่าเดิมในทุกชนิดกีฬาควบคู่กันไป โดยประเมินร่วมกับสมาคมกีฬา เป้าหมายรวม 241 เหรียญทอง
วันที่ 8 ธันวาคม 2568 ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เปิดเผยว่า ในการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพระหว่างวันที่ 9-20 ธันวาคม 2568 เป้าหมายสำคัญของทัพนักกีฬาไทย ยังคงเหมือนเดิม คือการครองเจ้าเหรียญทอง ซึ่งจากงาน “มีตเดอะเพรส ซีเกมส์ 2025” ของสมาคมนักข่าวช่างภาพกีฬาแห่งประเทศไทย กกท. ได้ร่วมกับผู้แทน 50 สมาคมกีฬาแห่งประเทศไทย ตั้งเป้าหมายไว้รวม 241 เหรียญทอง
“จากการที่ กกท. ได้จัดสรรงบประมาณสนับสนุนสมาคมกีฬาในการเก็บตัวฝึกซ้อมและนำวิทยาศาสตร์การกีฬาเข้ามาพัฒนาสมรรถภาพทางกายของนักกีฬาทีมชาติไทย ทำให้ กกท. มีความเชื่อมั่นว่าทัพนักกีฬาไทยจะสร้างผลงานด้วยการเป็นเจ้าเหรียญทองได้อย่างแน่นอน ในขณะเดียวกันชนิดกีฬาที่อาจจะไม่ได้เหรียญทองหรือเหรียญรางวัลใด ๆ ก็จะต้องทำผลงานหรือสถิติที่บ่งชี้ว่ามีการพัฒนาขึ้นอีกด้วย” ดร.ก้องศักด กล่าว
ผู้ว่าการ กกท.กล่าวต่อว่า เรื่องเงินรางวัลตามหลักเกณฑ์กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาตินั้น ยืนยันว่าเมื่อแข่งขันกีฬาซีเกมส์และอาเซียนพาราเกมส์เสร็จสิ้นแล้วจะสามารถดำเนินการจ่ายเงินรางวัลได้ตามหลักเกณฑ์แบบไม่ต้องรอนาน ส่วนเงินโบนัสพิเศษจะต้องมีการพิจารณาให้มีความเหมาะสมในตัวเลขของเรื่องงบประมาณ แต่ยืนยันว่าเป็นข้อสั่งการของ ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและประธานบอร์ดกองทุนฯ ว่าจะมีการพิจารณาให้เงินโบนัสพิเศษกับนักกีฬาเรียบร้อยแล้ว
สำหรับเป้าหมายเหรียญทองตามที่สมาคมกีฬาประเมินไว้ ในกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 รวมทั้งหมด 241 เหรียญทอง ประกอบด้วย ว่ายน้ำ 4 เหรียญทอง, กรีฑา 17 เหรียญทอง, ยิงธนู 3 เหรียญทอง, แบดมินตัน 2 เหรียญทอง, บาสเกตบอล 2 เหรียญทอง, เรือพาย/เรือแคนู 18 เหรียญทอง, จักรยาน 6 เหรียญทอง, ขี่ม้า 7 เหรียญทอง, ฟันดาบ 4 เหรียญทอง, ฟุตบอล/ฟุตซอล 4 เหรียญทอง, กอล์ฟ 2 เหรียญทอง, ยิมนาสติก 5 เหรียญทอง, แฮนด์บอล 2 เหรียญทอง, ฮอกกี้ 4 เหรียญทอง, ยูโด 3 เหรียญทอง, รักบี้ 2 เหรียญทอง, เรือใบ/วินด์เซิร์ฟ 9 เหรียญทอง, ยิงปืน 12 เหรียญทอง, เทเบิลเทนนิส 2 เหรียญทอง, เทควันโด 7 เหรียญทอง, เทนนิส 4 เหรียญทอง
ไตรกีฬา 4 เหรียญทอง, วอลเลย์บอล 2 เหรียญทอง, มวยปล้ำ 2 เหรียญทอง, สเก็ตน้ำแข็ง 2 เหรียญทอง, ฮอกกี้น้ำแข็ง 2 เหรียญทอง, ปัญจกีฬาสมัยใหม่ 2 เหรียญทอง, ยกน้ำหนัก 4 เหรียญทอง, เบสบอล 2 เหรียญทอง, บิลเลียดและสนุกเกอร์ 4 เหรียญทอง, มวยสากล 9 เหรียญทอง, ฟลอร์บอล 2 เหรียญทอง, อีสปอร์ต 2 เหรียญทอง, มวย (มวยไทย) 10 เหรียญทอง, ปันจักสีลัต 3 เหรียญทอง, เปตอง 4 เหรียญทอง, เซปักตะกร้อ 11 เหรียญทอง, สควอช 1 เหรียญทอง, โบว์ลิ่ง 1 เหรียญทอง, เอ็กซ์ตรีม 12 เหรียญทอง, คาราเต้ 5 เหรียญทอง, ยูยิตสู 10 เหรียญทอง, คริกเก็ต 2 เหรียญทอง, วูซู 2 เหรียญทอง, กาบัดดี้ 4 เหรียญทอง, เทคบอล 5 เหรียญทอง, คิกบ็อกซิ่ง 5 เหรียญทอง, วู้ดบอล 5 เหรียญทอง และหมากรุกสากล 5 เหรียญทอง







