กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ จับมือสมาคมนักเขียนบทละครโทรทัศน์ เดินหน้าปั้น “นักเล่าเรื่องมืออาชีพ” ปีที่ 2 เตรียมคอนเทนต์ไทยสู่เวทีโลกเต็มตัว ขณะที่ "น้องอ๋อมแอ๋ม" ผู้พิการทางสายตา ตั้งเป้าชีวิตขอเป็นนักเขียนบท สานฝันสร้างนิยายสู่ซีรีส์ให้ "ยาย" ได้ชม
วันที่ 19 พ.ย.68 กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ร่วมกับ สมาคมนักเขียนบทละครโทรทัศน์ (TSA) จัดโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการ "เล่น เล่า (สร้าง) เรื่อง" ณ ห้องประชุม 2 ชั้น 3 อาคารกาญจนาภิเษก สถาบันวิชาการเอ็นที นนทบุรี
ดร.อุษา รุ่งโรจน์การค้า ผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมและพัฒนาสื่อสำหรับประชาชน เปิดเผยถึง โครงการพัฒนานักเล่าเรื่องมืออาชีพว่า เป็นความร่วมมือต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 ระหว่าง กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ และ TSA โดยมีเป้าหมายหลักในการยกระดับทักษะการเล่าเรื่อง (Storytelling) ให้แก่เยาวชนและผู้สร้างสรรค์คอนเทนต์ของไทย ให้สามารถผลิตผลงานคุณภาพในรูปแบบที่สอดคล้องกับความต้องการของตลาดโลกปัจจุบัน ซึ่งโครงการนี้เกิดขึ้นจากการที่กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ เล็งเห็นศักยภาพของ TSA ในการพัฒนา "นักพัฒนา นักเล่าเรื่อง" โดยผลผลิตจากโครงการนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญ ซึ่งเยาวชน "หัวกะทิ" ที่ได้รับการพัฒนาทักษะแล้ว สามารถนำไปต่อยอดในการยื่นขอ "ทุนอุดหนุนทั่วไป" ของกองทุนสื่อฯ ได้ในปีถัดไป นับเป็นการเปิดประตูสู่การสร้างสรรค์ผลงานในระดับมืออาชีพอย่างแท้จริง
ดร.อุษา ยังได้เปิดเผยถึงการเปลี่ยนแปลงสำคัญด้านการสนับสนุนเงินทุนว่า กองทุนสื่อฯ ได้ปรับประเภททุนเป็น "ทุนอุดหนุนทั่วไป" ซึ่งจะเริ่มประกาศให้ยื่นขอทุนได้ในปี พ.ศ. 2569 โดยทุนประเภทใหม่นี้จะเปิดโอกาสให้ บุคคลธรรมดา รวมถึงเยาวชน (ที่ไม่จำกัดอายุขั้นต่ำ) และผู้สูงวัย สามารถยื่นขอทุนได้ ในวงเงินรายละเกิน 500,000 บาท ซึ่งเป็นการขยายโอกาสให้แก่ผู้สร้างสรรค์ในทุกกลุ่มอายุ กองทุนฯ ยินดีต้อนรับศิลปินทุกแขนงให้เข้ามาขอรับการสนับสนุน ไม่ว่าจะเป็น แดนเซอร์ (Dancer), Content Influencer, KOL, หรือผู้เขียนบท โดยมีปริมาณงบประมาณทุนที่หลากหลายและมากพอรองรับการสร้างสรรค์คุณภาพ (หลายสิบล้านบาท)
ทั้งนี้ กองทุนฯ ยังได้เล็งเห็นแนวโน้มของตลาดคอนเทนต์โลก โดยชี้ให้เห็นว่ากระแส ไมโครดราม่า (Microdrama) กำลังเป็นที่นิยมอย่างมาก ตั้งแต่ประเทศจีนไปจนถึงสหรัฐอเมริกา และปัจจุบันประเทศไทยก็มีแพลตฟอร์มหลายช่องทางที่นำเสนอคอนเทนต์รูปแบบนี้ด้วย ซึ่งถือเป็นโอกาสสำคัญที่นักเล่าเรื่องชาวไทยควรเข้าถึงและพัฒนาตนเองเพื่อตอบรับกับเทรนด์นี้
ด้านนายคฑาหัสต์ บุษปะเกศ นายกสมาคมนักเขียนบทละครโทรทัศน์ (TSA) และประธานโครงการ "เล่น เล่า (สร้าง) เรื่อง" กล่าวเสริมว่า หัวใจหลักของโครงการพัฒนานักเล่าเรื่องมืออาชีพ คือการมุ่งเน้นสอน ศาสตร์ของการเล่าเรื่อง (Storytelling) ผ่านหลักการเขียนบทละครโทรทัศน์โดยตรง เพื่อให้เยาวชนซึ่งปัจจุบันทำหน้าที่เป็น Content Creator, YouTuber, หรือ TikToker สามารถนำทักษะเชิงลึกเหล่านี้ไปต่อยอดสร้างสรรค์เรื่องราวของตนเองได้อย่างมีคุณภาพ ผลลัพธ์สุดท้ายคือการได้คอนเทนต์ดี ๆ สู่สังคมไทยอย่างยั่งยืน
สำหรับความแตกต่างของโครงการในปีนี้คือ การยกระดับจากปีที่ผ่านมาที่เน้นเพียงการสร้างและพัฒนาเรื่องราว โดยปีนี้ได้เพิ่มการนำมืออาชีพเข้ามาถ่ายทอดทักษะด้าน การสร้างเรื่องและการผลิตภาพ (การย่อยบทให้เป็นภาพหรือเป็นละคร) อย่างเข้มข้น มีการนำบริษัทสตูดิโอที่เป็นพันธมิตรของ TSA เข้ามาช่วยสอนเชิงปฏิบัติการจริง โดยจะจัดทีมงานประมาณ 10 คนประกบเยาวชน 8 กลุ่ม เพื่อให้คำแนะนำและช่วยผลักดันให้ผลงานออกมาเป็นคลิปที่มีคุณภาพตามที่ผู้สร้างสรรค์ต้องการเล่า ส่วนผลงานปลายน้ำที่ออกมาจากโครงการ ในปีนี้จะถูกกำหนดให้เป็นรูปแบบ ไมโครดราม่าแนวตั้ง (Vertical Format) ทั้งหมด โดยมีชิ้นงานความยาวประมาณ 5 ถึง 10 นาที เพื่อให้สอดคล้องกับแนวโน้มของตลาดปัจจุบันและสามารถเผยแพร่ลงในแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียชั้นนำ เช่น TikTok ได้ทันที
ในส่วนของวิสัยทัศน์ในอนาคตเพื่อมุ่งสู่ตลาดโลกนั้น ทาง TSA มีความเชื่อมั่นว่าคอนเทนต์ไทยมีศักยภาพที่จะแข่งขันกับคอนเทนต์ระดับโลกได้ แต่จำเป็นต้องอาศัยการผนึกกำลังร่วมกันระหว่างสมาคมฯ, ภาคเอกชน , และองค์กรภาครัฐ ในการสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง
นายคฑาหัสต์ ยังกล่าวถึงแผนงานระยะต่อไปว่า กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ และ TSA กำลังออกแบบโครงการสำคัญที่อาจจะรวมนักเขียนบทรุ่นต่าง ๆ เข้ามาพัฒนาเรื่องร่วมกัน ซึ่งจะได้รับการสนับสนุนจากประเทศเกาหลีผ่านการเป็นพันธมิตรระหว่างกองทุนฯ กับ KOCCA และความร่วมมือกับสตูดิโอเกาหลีที่เปิดในไทย โดยมีเป้าหมายปลายทางคือการผลิตซีรีส์หรือภาพยนตร์คุณภาพสูงเพื่อแข่งขันในตลาดโลก โครงการนี้จึงเป็นการพัฒนาแบบครบวงจรตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ ตั้งแต่การสร้างเรื่องไปจนถึงการผลิตชิ้นงาน โดยมุ่งเน้นการใช้ทรัพยากรบุคคลที่มีความสามารถสูงจากสมาคมฯ เพื่อจุดประกายให้กับเยาวชน ซึ่งเป็นการเตรียมความพร้อมเพื่อให้คอนเทนต์ไทยสามารถต่อสู้กับความหนาแน่นทั้งด้านเงินทุนและการสนับสนุนจากต่างประเทศได้ในระยะยาว
ขณะที่น้องอ๋อมแอ๋ม น.ส.สุชาวลี เขียวอัมพร อายุ 22 ปี ผู้พิการทางสายตาซึ่งเป็นหนึ่งใน 368 ผู้ที่ได้รับคัดเลือกเข้าร่วมโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการ "เล่น เล่า (สร้าง) เรื่อง" บอกว่า มีความรู้สึกตื่นเต้น และตื่นตระหนกอยู่บ้าง เนื่องจากไม่ค่อยได้พบปะผู้คนมาเป็นเวลานานหลังจากเรียนจบ และดีใจมากที่ได้รับการคัดเลือก แม้ว่าเรื่องที่ส่งเข้ามาคัดเลือกนั้นจะเป็นเรื่องที่ยาวมาก และต้องย่อให้เหลือเพียงหนึ่งหน้ากระดาษ ทำให้รู้สึกว่าถ่ายทอดเรื่องราวได้ไม่ค่อยดีนัก แต่เมื่อได้รับการคัดเลือก ก็ทำให้มีความมั่นใจในความสามารถของตนเองมากขึ้น และการเข้าร่วมโครงการนี้ เพราะต้องการได้รับแรงบันดาลใจ เพื่อนำไปต่อยอดในการเขียนงาน โดยแรงผลักดันสำคัญมีความฝัน ที่อยากให้ผลงานนิยายของตนเองได้รับการพัฒนาไปเป็นรูปแบบซีรีส์ เพื่อให้คุณยายสามารถเข้าถึงและรับชมได้ เนื่องจากยายมีปัญหาในการอ่านงานเขียน ซึ่งการได้มาเข้าร่วมอบรมและรับฟังประสบการณ์ (Inspiration) จากพี่ ๆ ที่เป็นนักเขียนบทมืออาชีพ ทำให้รู้สึกว่าคุ้มค่ามากแล้ว
น้องอ๋อมแอ๋ม ยังเล่าถึงความตั้งใจในอนาคตว่า หากเป็นไปได้ก็อยากทำอาชีพนักเขียนบทอย่างเต็มตัว แม้ว่าในช่วงที่เรียนอยู่จะขาดความมั่นใจในการเดินหน้าสู่สายอาชีพนี้อย่างเต็มที่ เนื่องจากไม่เห็นว่ามีคนพิการทางสรีระในที่ทำงาน ในสายงานนี้ ทั้งนี้ อยากฝากถึงเพื่อน ๆ ที่สนใจกิจกรรมนี้ อยากให้ลองสมัครเข้ามาก่อน เพราะได้มาพบเพื่อน ๆ และพี่ ๆ ผู้มีประสบการณ์ ก็เป็นประสบการณ์ที่ดีมาก ๆ และคุ้มค่าแล้ว







