วันนี้ (8 ธ.ค. 68) เวลา 09.00 น. ณ ห้องกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ปฏิบัติราชการแทนผู้บัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ เป็นประธานการประชุมกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ (บกปภ.ช.) ติดตามความคืบหน้าการให้ความช่วยเหลือเยียวยา ผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดสงขลา โดยมีนายธีรพัฒน์ คัชมาตย์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นางสาวชัชดาพร บุญพีระณัช นายสหรัฐ วงศ์สกุลวิวัฒน์ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมประชุม พร้อมทั้งผู้แทนจากหน่วยงานการสนับสนุนการปฏิบัติงานในภาวะฉุกเฉิน (สปฉ.) ทั้ง 18 ส่วนงาน ร่วมประชุมผ่านระบบสื่ออิเล็กทรอนิกส์
นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า จากการติดตามความคืบหน้าการให้ความช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดสงขลา ในการประชุมกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา มีหลายภารกิจที่มีความคืบหน้าอย่างชัดเจน
และในบางภารกิจต้องปรับแผนดำเนินงาน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการฟื้นฟูให้แล้วเสร็จ ตามเป้าหมาย “7 วัน กลับบ้าน 14 วัน เมืองสะอาด” โดยเฉพาะด้านการฟื้นฟู ซึ่งปัจจุบันมีทรัพยากรและกำลังในพื้นที่ทั้งสิ้น 3,177 คน เครื่องมือเครื่องจักร 483 รายการ เป้าหมายเขตเทศบาลนครหาดใหญ่ ระยะทาง 394.3 กิโลเมตร ปัจจุบันมีผลการดำเนินงาน ขนขยะนนำทิ้ง 48,893 ตัน ทำความสะอาดถนน ระยะทาง 195.96 กิโลเมตร คิดเป็น 49.7% จึงได้มีการวางแผนเติมเครื่องจักรกล เครื่องมืออุปกรณ์ และกำลังพล เข้าไปสนับสนุนในโซนพื้นที่ที่ต้องเร่งดำเนินการ โดยประสานความร่วมมือกับหน่วยงานที่มีเครื่องจักรกลในพื้นที่ และเครื่องจักรจากองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลาสนับสนุน
“จากการปรับแผนการทำงานของกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ เพื่อให้การทำงานฟื้นฟูหาดใหญ่เป็นไปตามเป้าหมาย เราได้เพิ่มจำนวนเครื่องจักร อาทิ รถบรรทุกเทท้าย รถบรรทุกน้ำเอนกประสงค์สำหรับฉีดทำความสะอาด กำลังคน และเพิ่มระยะเวลาในการทำงาน ซึ่งจะทำให้ในช่วง 2 – 3 วันนี้ ปริมาณขยะที่บริเวณสะพานดำจะมีปริมาณเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า จึงได้วางแผนการขนถ่ายขยะจากบริเวณสะพานดำ ไปยัง ต.เกาะแต้ว อ.เมืองสงขลา โดยเพิ่มจำนวนเที่ยวของการขนถ่าย เพื่อไม่ให้มีขยะตกค้างในพื้นที่ รวมถึงให้กระทรวงสาธารณสุขดูแลเรื่องระบบสุขาภิบาล ป้องกันสุขอนามัยของประชาชนและเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานบริเวณพื้นที่ดังกล่าว” นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ กล่าว
นอกจากนี้ ได้เน้นย้ำการปฏิบัติตามข้อสั่งการของรัฐบาล นอกเหนือจากเครื่องจักรกลแล้ว ต้องระดมอุปกรณ์ทำความสะอาดขนาดเล็กไปทำความสะอาดในซอยย่อยต่าง ๆ ให้เพียงพอ ส่วนเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานอย่างต่อเนื่องอาจเกิดการเหนื่อยล้า ขอให้หน่วยงานด้านสาธารณสุขดูแลสุขภาพของกำลังพลทุกหน่วย รวมถึงดูแลสุขอนามัยประชาชนให้ครอบคลุมพื้นที่ ทั้งการแจกจ่ายยาป้องกันโรคฉี่หนู หน้ากากอนามัย ชุดยาช่วยเหลือเบื้องต้น และยารักษาน้ำกัดเท่า โดยกระจายไปตามหน่วยบริการสาธารณสุขในพื้นที่ให้พี่น้องประชาชน รวมถึงการเฝ้าระวังน้ำดื่มน้ำใช้ บำบัดน้ำเสีย การทำความสะอาดและดูสุขอนามัยในตลาด ที่ต้องดูแลอย่างทั่วถึง
ด้านนายธีรพัฒน์ คัชมาตย์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กล่าวว่า กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ในฐานะฝ่ายเลขานุการกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ ได้ติดตามสถานการณ์การช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้ โดยเฉพาะจังหวัดสงขลาอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันมีการช่วย ด้านการดำรงชีพโดยแจกถุงยังชีพแก่ผู้ประสบภัย จำนวน 557,955 ชุด ข้าวกล่อง 2,118,300 ชุด น้ำดื่ม 1,728,650 ชุด โรงครัวสนาม 10 ชุด ระบบไฟฟ้า มีการจ่ายไฟครอบคลุมทุกพื้นที่ เว้นแต่บางพื้นที่ที่ประชาชนยังไม่สามารถเข้าอยู่อาศัยได้ ทางการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจึงไม่สามารถเข้าสำรวจอุปกรณ์ได้ แต่ได้ติดป้ายแจ้งเจ้าของบ้านให้ทราบเพื่อติดต่อการไฟฟ้าเพื่อเข้าทำการแก้ไขซ่อมแซม ส่วนระบบการขนย้ายรถ ทางสถานีตำรวจภูธรหาดใหญ่ สามารถคลี่คลายได้เกือบปกติ แต่เนื่องจากชาวบ้านเดินทางเข้ามาจับจ่ายใช้สอย ซื้อของเพื่อฟื้นฟูบ้านพักอาศัย บริเวณตลาดหอนาฬิกาและตลาดกิมหยง ทำให้มีการสัญจรติดขัด และล้ำผิวจราจร ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้อำนวยความสะดวกดูแล เพื่อให้ทีมปฏิบัติฟื้นฟูสามารถปฏิบัติทำความสะอาดผิวจราจรและพื้นที่โดยรอบได้อย่างสะดวก” นายธีรพัฒน์ อธิบดี ปภ. กล่าว
ทั้งนี้ กองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ (บกปภ.ช.) จะติดตามความคืบหน้าการให้ความช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดสงขลา ในภาพรวมทุกมิติ เพื่อให้ปฏิบัติการคืนพื้นที่และความสุขกลับสู่ชาวหาดใหญ่เป็นไปตามเป้าหมายที่รัฐบาลกำหนด//////








