ภูเขาไฟเฮย์ลี กุบบี ในเอธิโอเปียปะทุครั้งแรกในรอบหมื่นปี สะเทือนรอยแยกแอฟาร์ เถ้าถ่านพุ่งสูง 15 กม. ลอยข้ามทะเลแดงถึงตะวันออกกลาง
เมื่อวันที่ 28 พ.ย.68 ผู้ใช้ทวิตเตอร์ The Informant @theinformant_x ได้เผยแพร่ข้อมูลและรูปภาพ คลิปวิดีโอ ระบุว่า
เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2568 เกิดปรากฏการณ์ทางธรณีวิทยาสำคัญในประเทศเอธิโอเปีย หลังจาก ภูเขาไฟ “เฮย์ลี กุบบี” (Hayli Gubbi) ซึ่งสงบนิ่งมานานกว่า 10,000 ปี ได้เกิดการปะทุอย่างรุนแรงเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่มีการบันทึกไว้
การปะทุเริ่มขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 08.30 น. ตามเวลามาตรฐานสากล (UTC) โดยพ่นกลุ่มเถ้าถ่านและควันกำมะถันขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศสูงถึงประมาณ 15 กิโลเมตร หรือราว 50,000 ฟุต พร้อมการปล่อยก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ในปริมาณมาก
ภูเขาไฟเฮย์ลี กุบบี ตั้งอยู่ในพื้นที่ แอ่งดานาคิล (Danakil Depression) บนแนวรอยแยกแอฟาร์ (Afar Rift) ซึ่งเป็นหนึ่งในพื้นที่ร้อนระอุและโหดร้ายที่สุดของโลก อยู่ห่างจากภูเขาไฟเออร์ตาอาเล (Erta Ale) ที่ยังคงปะทุอยู่เป็นประจำ ไปทางตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ 15 กิโลเมตร
นักวิทยาศาสตร์ระบุว่า การตื่นตัวของภูเขาไฟลูกนี้ถือเป็นการปะทุครั้งแรกในยุคโฮโลซีน (Holocene) และไม่พบหลักฐานการปะทุใด ๆ ในช่วง 10,000 ปีที่ผ่านมา
ข้อมูลภาพถ่ายดาวเทียมจากบริษัท Planet Labs เผยให้เห็นเสาควันและเถ้าภูเขาไฟขนาดใหญ่ที่ลอยกระจายไปทางตะวันออกเหนือทะเลแดง ส่งผลกระทบต่อคุณภาพอากาศในบางพื้นที่ของ เยเมน โอมาน และอาจลอยไปไกลถึง อิหร่าน ปากีสถาน และอินเดีย
อย่างไรก็ตาม ศูนย์แจ้งเตือนเถ้าภูเขาไฟเมืองตูลูส (Toulouse Volcanic Ash Advisory Center - VAAC) รายงานล่าสุดเมื่อคืนวันที่ 23 พฤศจิกายนว่า ขณะนี้การปะทุได้ยุติลงแล้ว โดยเถ้าภูเขาไฟที่ตรวจพบลดระดับลงเหลือประมาณ 3,000 เมตร หรือ 10,000 ฟุต
เบื้องต้นยังไม่พบรายงานความเสียหายต่อชุมชนหรือผลกระทบต่อการบิน เนื่องจากพื้นที่ตั้งของภูเขาไฟอยู่ในเขตห่างไกล มีประชากรอาศัยอยู่น้อยมาก
นักวิทยาศาสตร์ยังคงติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมเตือนว่าแนวรอยแยกแอฟาร์เป็นหนึ่งในบริเวณที่เปลือกโลกกำลังแยกตัวออกจากกัน ระหว่างแผ่นเปลือกโลกแอฟริกา อาหรับ และโซมาเลีย ซึ่งอาจทำให้เกิดกิจกรรมทางภูเขาไฟและแผ่นดินไหวได้อีกในอนาคต








