การเมืองทั่วไป

“แก้วสรร”แพร่บทความหนุนไทยใช้ MOU 43 ปักปันเขตแดนกับกัมพูชา-ลดปัญหาชายแดน

แชร์ข่าว

“แก้วสรร”แพร่บทความหนุนไทยใช้ MOU 43 ปักปันเขตแดนกับกัมพูชา-ลดปัญหาชายแดน

 

เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2568  นายแก้วสรร อติโพธิ นักวิชาการอิสระ ได้เผยแพร่บทความเรื่อง "งานปักปันเขตแดน..เพื่อแก้ปัญหาความมั่นคงชายแดน ไทย-กัมพูชา" มีเนื้อหาดังนี้

 

ถาม อาจารย์เปลี่ยนใจมาสนับสนุนให้รัฐไทย รักษา MOU 43 ไว้ต่อไปใช่ไหมครับ

 

ตอบ ครับ พอได้ฟังเขาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันโดยละเอียดแล้ว ผมพบว่าเราต้อง

แยก เรื่องกลไกจัดการปัญหาความมั่นคงชายแดน กับปัญหาเขตแดนไม่ชัดเจนออกจากกันครับ

 

เรื่องเขมรรุกล้ำ ไทยประท้วงเป็น ๖๐๐ ครั้ง ก็ทำอะไรไม่ได้นั้น ไม่เกี่ยวกับการมีอยู่ของ MOU43 เลย แต่เป็นความขี้โกงของเขมรที่เราจัดการไม่ได้ ซึ่งเรื่องนี้มีข้อตกลงจัดตั้งคณะกรรมการดูแลชายแดนร่วมกันอยู่แล้วแต่ไม่มีผล พึ่งมีปีนี้ที่เราเริ่มเสียงแข็ง ยื่นคำขาดบ้าง เช่นเรื่องรุกล้ำบ้านหนองจานเป็นต้น

 

ถาม แล้วอะไรคือปัญหาที่ต้องมี MOU 43 ครับ

 

ตอบ มันเป็นปัญหาเรื่องการปักปันเขตแดนร่วมกันว่า ตามสนธิสัญญา ไทย-ฝรั่งเศส นั้น เมื่อสอบทานจากหลักฐานทั้งปวง ทั้งหลักเขต เอกสาร และสภาพภูมิศาสตร์จริงแล้ว จะรังวัดออกมาให้แน่ชัดได้อย่างไร ในพรมแดนกว่า ๘๐๐ กิโลเมตรนี้

 

ถาม ชัดเจนขนาดไหนครับ ชนิดยืนอยู่แถวทุ่งนาตาพระยา แล้วเปิด จีพีเอส บอกได้เลยว่า ณ เวลานั้น เรายืนอยู่ในเขตประเทศใด เอาชัดอย่างนั้นเลยใช่มั้ยครับ

 

ตอบ ครับ..ถ้าจบงาน มีแผนที่ใหม่ที่ละเอียด เห็นเป็นเส้นรุ้ง เส้นแวง กดจีพีเอส ได้เมื่อใด นั่นคือผลสำเร็จของงาน ที่เหลือก็เป็นเรื่องการเมืองแต่ละประเทศว่า เอากลับไปให้สภารับรองแล้ว จะจบเรื่องไหม

 

กลไกร่วมกัน ทั้งคณะทำงานและกรอบเกณฑ์อย่างนี้นี่เอง ที่ได้ถูกจัดตั้งไว้ใน MOU 43 ตอนไทยปักปันกับมาเลย์ กับลาว เราก็มี MOU อย่างนี้เหมือนกัน มาเลย์นั้นเสร็จไปแล้ว ลาวเกือบเสร็จแล้ว มีเขมรเท่านั้นที่คืบหน้าช้ามาก แต่ถ้าร่วมมือทำงานกันจริงๆ แล้วเอาเทคโนโลยีใหม่มาช่วย ไม่ช้านานก็จะลุล่วงไปได้ แล้วปัญหาความมั่นคงชายแดนจะลดลงไปเอง

 

ถาม เขตแดนที่ออกมาจากกลไกนี้ จะตรงกับแผนที่ ๑:๕๐,๐๐๐ ของไทย หรือ แผนที่ ๑:๒๐๐,๐๐๐ ของเขมรหรือไม่

 

ตอบ การปักปันจริง จากการทำงานร่วมกัน บนหลักฐานข้อมูลและเทคโนโลยีเดียวกันนี้ เมื่อแปลงเป็นแผนที่แล้ว ทั้งไทยและเขมรอาจพบว่า มีตำแหน่งที่ฝ่ายตนไปตั้งรกรากอยู่นอกเขตของตน นอกแผนที่ของตนก็ได้

 

ปัญหาแดนใหม่ทำลายแดนเก่าแบบนี้ ตอนปักปันเขต ไทย - มาเลย์ เราก็เจอมาแล้ว แต่ก็ตกลงกันได้ในที่สุดว่าไม่ต้องรื้อถอน ให้ใช้วิธี เอาพื้นที่ ที่ต่างก็เหลื่อมล้ำกันมาแลกกันไปเลย เรื่องก็จบลงได้

 

งานนี้ต้องเข้าใจว่ามันไม่ใช่เรื่องใครรุกล้ำใคร แต่มันเป็นเรื่องปักปันใหม่ขีดเส้นใหม่ จากเอกสาร หลักฐาน สภาพภูมิศาสตร์ที่มีอยู่แล้ว จนอาจทำให้การตั้งรกรากแต่เดิม เกิดล้ำแดนกันได้เป็นธรรมดา

 

ถาม ที่ นายกฯอนุทิน บอกว่า “ที่ไทยเรารุกล้ำเขมรก็มี ” นั้น ท่านก็หมายถึง กรณีปักปันใหม่แล้ว ก็อาจเกิดภาพเหลือมล้ำ ตั้งรกรากล้ำแดนกันก็ได้ อย่างนี้ใช่ไหมครับ

 

ตอบ ครับ...ผมฟังที่ท่านขอโทษและชี้แจงแล้ว ก็หมายถึงอย่างนั้น น่าเห็นใจท่านเหมือนกัน ที่ถูกมันต้องให้นักแผนที่มาชี้แจงให้เข้าใจง่ายๆก่อน แล้วถึงค่อยชี้ปัญหาใหม่ให้เห็นอีกทีว่า อาจต้องย้ายรกราก หรือ แลกพื้นที่กันบ้างก็ได้

 

ถาม อาจารย์เชื่อจริงๆหรือว่า ฮุนเซ็นมันจะยอมร่วมมือในงานปักปันเขตแดนกับเรา

 

ตอบ ไม่เชื่อครับ แต่ผมเชื่อว่ามันอยู่ได้อีกไม่นาน ตอนนี้รัฐบาลน่าจะให้กรมสนธิสัญญา สำรวจหาบริษัทหรือองค์กรผู้เชี่ยวชาญระดับโลก มาเจรจาเตรียมเข้าเป็นคู่สัญญาช่วยใช้เทคโนโลยีสำรวจทางภูมิศาสตร์ รังวัดพื้นที่ตลอดชายแดนไว้เลย อาจให้ลงมือระยะที่ ๑ จนพอเห็นเนื้องานและแนวเขตเบื้องต้นก่อนก็ได้ เมื่อเขมรมีรัฐบาลใหม่แล้ว ก็ค่อยเจรจาเดินหน้าลุยกันอีกที โดยให้บริษัทผู้ชำนาญช่วยรับเหมาทำงาน ใต้กำกับของคณะทำงานร่วมไปเลย

 

ถึงเวลานั้นหมดฮุนเซ็นไปแล้วเราก็น่าจะพูดกันได้ง่ายกว่านี้ สันติภาพจริงก็จะถือกำเนิดได้ จนเปิดด่านกันได้ในที่สุด

 

ถาม หมายความว่า เราต้องยืนหยัดไม่เปิดด่านใช่ไหมครับ

 

ตอบ ยืนให้หนักแน่นที่สุด ปัญหาสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา วันนี้ อยู่ที่ระบอบฮุนเซ็นเท่านั้นโดดเดี่ยวและทรมานมันให้ร่วงลงมาให้ได้

วันนี้ฮุนเซ็นมีสภาพเหมือน เหี้ยที่ตกอยู่ในกรงขังทางการทูตอาเซียน จะเล่นบทเป็นเหยื่อถูกรังแก สำออยโลก ก็ไม่ถนัดแล้ว เพราะมีมลทินสแกมเมอร์ค้ามนุษย์ติดกลางหน้าผาก นานาชาติก็งดลงทุน ไทยก็ปิดด่านจนท่องเที่ยวฟุบพืชผลเน่าเสียไปทั่ว ประชาชนอดหยากตกงาน สภาพอย่างนี้รอแต่การลุกฮือโค่นล้มทรราชย์เท่านั้นครับ

 

ถาม ฟังดูเหมือนอาจารย์เห็นด้วยกับข้อตกลงที่นายกฯไปทำที่ซัมมิทอาเซียนนะครับ

 

ตอบ มันมีสองเรื่องที่ต้องแยกคิด เรื่องเขมรนั้นทรัมป์จะมาลงนามด้วยหรือไม่ ยังไงๆไทยเราก็ต้องไปตกลงในอาเซียนอยู่แล้ว อีกเรื่องคือการค้ากับสหรัฐ ที่เอาภาษีขาเข้าเป็นอาวุธบีบคั้นเขาไปทั่วโลก ซึ่งเราก็ต้องหาทางเจรจากับเขาให้ได้อยู่แล้ว ถือโอกาสคุยแล้ววางกรอบตกลงกันได้อย่างนี้ก็ดีเหมือนกัน

 

เมื่อแถมเรื่องแร่หายากที่ทรัมป์กำลังขึ้นอกขึ้นใจเข้าไปด้วย ก็ช่วยให้เรามีไพ่ในมือคุยกันได้ดีขึ้น ตัวข้อตกลงเรื่องแร่นี้ อันที่จริงก็ยังเป็นแค่ความร่วมมือในเรื่องนี้เท่านั้นว่าจะมีในห่วงโซ่ใด มีแล้วใครจะได้ จะเสียในเรื่องนี้ ก็ต้องคุยกันต่อทั้งสิ้น วันนี้ผมจึงไม่เห็นอะไรน่าติดใจ

 

ถาม ทำไม นายกฯรัฐบาล ๔ เดือนนี้ ถึงทำอะไรก็ดูจะผิดไปหมดครับ

 

ตอบ วันนี้ในทางการเมืองก็ถือว่าเข้าโซนเลือกตั้งแล้วนะครับ ขนาดปัญหาสแกมเมอร์ ฟอกเงิน ก็กลายเป็นสโลแกนพรรคประชาชนว่า “เลือก ส้ม ดีกว่า เทา” ไปโน่นแล้ว ขณะเดียวกัน เรื่องกิจการต่างประเทศนี่ นายกฯก็พูดไม่ได้หรอกครับว่า ไทยหมายมั่นจะเอาฮุนเซ็นร่วงลงจากอำนาจให้ได้ พอพูดไม่ได้ก็โดนรุมตีไปว่า ขายชาติบ้าง ขี้ขลาดบ้าง โง่บ้าง

 

ถาม แล้วเรื่องทุนเทา ไทยเทา นั่นล่ะครับ

 

ตอบ ในทางกฎหมาย มันต้องมีสนธิสัญญาร่วมมือทางข้อมูลทางกฎหมายระหว่างประเทศขึ้นมา เพื่อร่วมมือเอาเรื่องกับองค์การอาชญากรรมข้ามชาติพวกนี้ให้ได้อย่างจริงจัง สร้างการรับรองข้ามชาติข้ามระบบกฎหมายขึ้นมาเป็นตัวตน ถึงขนาดเอาสำนวนสอบสวนตำรวจเกาหลี มาเข้าคดีในศาลไทยได้เลย จากนั้นแต่ละประเทศก็ออกกฎหมายนำมาตรฐานนี้ไปใช้ในระบบกฎหมายของตน จนเกิดเป็นความร่วมมือข้ามชาติสู้รบกับความผิดข้ามชาติพวกนี้ขึ้นมาได้ในที่สุด ความริเริ่มอย่างนี้ รัฐบาล ๔ เดือน ก็ทำได้เช่นกันครับ ไปชวนจีนเป็นหัวหอกก็ได้

 

ถาม แล้วเรื่องรัฐมนตรีสีเทาเข้ม หรือ สส.สีเทา นั่นล่ะครับ ปรับออกเลยไม่ได้หรือ

 

ตอบ เข้าใจว่า กลางธันวาคมหน้า พอแน่ชัดว่าจะมีการยื่นญัตติไม่ไว้วางใจในเรื่องนี้ ก็น่าจะมียุบสภาก่อนครับ แล้วประเทศก็จะก้าวเข้าสู่การเลือกตั้งแบบสงครามสีต่างๆต่อไป ส่วนเรื่องประชามติต่างๆนั้น ผมว่าเค้าคงไม่มีให้เมื่อยแน่นอน

ข่าวแนะนำ

แชร์ข่าว