วันนี้ (10 ต.ค. 68) ที่อาคารอนาคตใหม่ นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ถึงมุมมองของคณะกรรมาธิการความมั่นคงฯเห็นด้วยกับแนวทางกองทัพหรือไม่ที่จะปิดด่านจนกว่ากัมพูชาจะไม่เป็นภัยคุกคาม ว่า ในเรื่องของด่านชายแดนที่ปัจจุบันยังมีการปิดอยู่ ซึ่งการปิดด่านเป็นหนึ่งในมาตรการที่เกิดขึ้นหลังจากที่มีความขัดแย้ง ซึ่งฝ่ายไทยพยายามใช้มาตรการทางเศรษฐกิจบีบกัมพูชาเพื่อให้การเจรจาการพูดคุยสามารถเดินต่อไปได้ แต่ที่ผ่านมาแม้จะปิดด่านมาเป็นเวลานานการเจรจาพูดคุยกันด้วยดีเกิดขึ้น เพราะรายได้ส่วนใหญ่ของกัมพูชาไม่ได้ได้มาจากการค้า แต่ได้มาจากสแกมเมอร์
ดังนั้นถ้าอยากแก้ปัญหาเหล่านี้จำเป็นจะต้องชูหลักการ 3 ข้อ ตามที่ไทย GBC ได้มีการเน้นย้ำ ไม่ว่าจะเป็นการกวาดทุ่นระเบิดร่วมกันการถอนอาวุธหนักการปราบปรามแก๊งสแกมเมอร์ทุกรูปแบบ ถ้ามีข้อตกลงที่ชัดเจน และมีรูปธรรม และแสดงให้เห็นถึงความจริงใจการที่จะพูดคุยเพื่อผ่อนคลายมาตรการต่าง ๆ อาจจะเกิดขึ้นได้ แต่จะต้องนำไปสู่การสร้างความสัมพันธ์ที่ดีผ่าน 3 ข้อ ขั้นต้นก่อน
นายรังสิมันต์ กล่าวอีกว่า วันนี้เรื่องชายแดนทุกอย่างยากไปหมดเพราะเราไม่ได้มีความสัมพันธ์ที่ดี ด่านชายแดนเป็นสัญลักษณ์ของความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างประเทศ แต่เมื่อเกิดเหตุแบบนี้ก็ต้องปิดด่านก็จะเกิดผลกระทบกับประชาชนที่ได้ประโยชน์จากการเปิดด่าน ดังนั้นจึงไม่สามารถมองการแก้ปัญหาไปเพียงแค่การเปิดหรือปิดด่าน แต่ต้องเอาปัญหาทุกอย่างที่ทำให้ความสำคัญของทั้งสองประเทศแย่มารวมกันแล้วเคลียร์ให้จบ
เมื่อถามว่าการปิดด่านเราได้หรือเสียมากกว่ากันนั้น นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ถ้าพูดถึงแค่ตัวเลขเศรษฐกิจ การค้า ที่ผ่านมาประเทศไทยเกินดุลแต่ถ้ามองปัญหาความมั่นคงไม่สามารถมองแค่จุดใดจุดหนึ่งได้ต้องมองทั้งหมด ตั้งแต่การเจรจาพูดคุย การที่จะนำไปสู่การแก้ปัญหาความสัมพันธ์ รวมถึงวิธีการเจรจา ดังนั้นขออย่าประเมินเป็นตัวเลขต้องมองภาพรวมว่าเป้าหมายของเราวันนี้คืออะไร ต้องเอาเป้าหมายเป็นตัวตั้ง ถ้าเราสามารถบรรลุเป้าหมายได้เรายังคุ้ม แต่ถ้าเราบรรลุเป้าหมายไม่ได้เราอาจจะต้องทบทวนในเรื่องของวิธีการ ซึ่งหลังจากที่ทบทวนวิธีการแล้ว
นายรังสิมันต์ กล่าวต่อว่า ตนเองจึงเสนอว่าการปราบปรามแก๊งสแกมเมอร์เป็นคีย์สำคัญในการคลี่คลายเรื่องนี้ จนเกิดการตั้งคำถามว่าไปทุบหม้อข้าวเขาแล้วจะมีความสัมพันธ์ที่ดีอย่างไร ตนเองก็ตั้งคำถามกลับไปว่า ตราบใดที่เขามีหม้อข้าวอันนั้นแล้ว ทำลายความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ คนไทยจำนวนมากถูกหลอกเส้นเงินไหลไปที่กัมพูชาเราจะรู้สึกดีกับเขาได้อย่างไรเช่นเดียวกันถ้าเงินตรงนี้ยังมีอยู่ ความสัมพันธ์การค้าขายระหว่างประเทศก็ไม่เกิดขึ้นได้โดยง่ายการเจรจารูปแบบต่าง ๆ จะเกิดขึ้นแบบปกติได้อย่างไร ดังนั้นจึงเสนอว่าทั้งหมดต้องแก้ไขไปพร้อม ๆ กันไม่สามารถแยกออกจากกันได้







