วันที่ 6 ตุลาคม 2568 ที่ลานคนเมือง ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (เสาชิงช้า) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร รับหนังสือข้อเสนอเชิงนโยบาย 9 ข้อ จากผู้แทนขบวนคนจนเพื่อสิทธิที่ดินและที่อยู่อาศัย เนื่องในวันที่อยู่อาศัยโลก (World Habitat Day) พร้อมย้ำจุดยืนของ กทม. ที่จะแก้ปัญหาโดยยึดหลักการ "หาที่อยู่อาศัยทดแทนก่อนการโยกย้าย" และตั้งเป้าผลักดันให้ชุมชนที่ไม่ได้อยู่ในสถานะถูกกฎหมายได้เข้าสู่ระบบ "บ้านมั่นคง" เพื่อสร้างความมั่นคงในชีวิตให้กับประชาชนทุกคน
นายชัชชาติ กล่าวว่า องค์การสหประชาชาติได้กำหนดให้วันจันทร์แรกของเดือนตุลาคมของทุกปีเป็นวันที่อยู่อาศัยโลก ซึ่งเรื่องที่อยู่อาศัยถือเป็นปัจจัยพื้นฐานสำคัญที่สร้างความมั่นคงในชีวิต เมื่อประชาชนมีที่อยู่ที่มั่นคง ก็จะส่งผลให้มีอาชีพการงานที่ดีตามมา
“เรื่องที่อยู่อาศัย เรื่องสาธารณสุข เรื่องการศึกษา เป็น 3 เรื่องหลักที่ทางภาครัฐต้องช่วยสนับสนุน กทม. เองเราไม่ได้มีที่ดิน เราเป็นแค่คนดูแลที่ดินให้กับรัฐบาลในที่สาธารณะ ดังนั้นคงต้องหาทางออกร่วมกัน หลักการของ กทม. คือเราต้องพยายามหาที่อยู่อาศัยทดแทนก่อน อาจจะเป็นบ้านมั่นคง ก่อนที่เราจะขยับพี่น้องประชาชนไป ก็ขอให้ร่วมมือกัน สุดท้ายแล้ว เชื่อว่าแผ่นดินนี้มีที่ดินเพียงพอสำหรับทุกคน ต้องค่อยๆ คุยกัน แล้วก็หาทางออกร่วมกัน” นายชัชชาติ กล่าว
พร้อมกันนี้ นายชัชชาติได้รับทุกข้อเสนอจากภาคประชาชน โดยระบุว่าจะนำไปพิจารณาปรับปรุงให้ดีขึ้น และเชื่อว่าตลอด 3 ปีที่ผ่านมา ได้มีความคืบหน้าไปแล้วในหลายประเด็น และยังมีอีกหลายเรื่องที่ต้องร่วมมือกันดำเนินการต่อไป
สำหรับข้อเสนอเชิงนโยบาย 9 ข้อ จากขบวนคนจนเพื่อสิทธิที่ดินและที่อยู่อาศัย ประกอบด้วย
1.การเข้าถึงสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน: ขอให้มีมาตรการรองรับการจัดหาน้ำประปา ไฟฟ้า และการออกทะเบียนบ้านชั่วคราวแก่ชุมชนที่ยังไม่ได้รับสิทธิ
2.การชะลอการไล่รื้อและหาทางออกที่เป็นธรรม: เสนอให้ทบทวนหรือชะลอคำสั่งไล่รื้อ และกำหนดกระบวนการเจรจาหาทางเลือกร่วมกับชุมชน
3.โฉนดชุมชน: ผลักดันให้มีการจัดทำโฉนดชุมชนในพื้นที่ที่เหมาะสม เพื่อสร้างหลักประกันสิทธิในการอยู่อาศัย
4.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง: ทบทวนมาตรการจัดเก็บภาษีที่ดินฯ ที่ส่งผลกระทบต่อผู้มีรายได้น้อย
5.การปรับปรุงผังเมือง: เสนอให้ปรับปรุงผังเมืองรวมกรุงเทพมหานคร ให้สอดคล้องกับความต้องการที่อยู่อาศัยของประชาชน
6.ที่พักฉุกเฉินสำหรับคนไร้บ้าน: ขอให้ กทม. สนับสนุนและขยายโครงการ "บ้านอิ่มใจ" สำหรับคนไร้บ้านอย่างเพียงพอและทั่วถึง
7.การเปิดเผยข้อมูลที่ดินของ กทม.: ให้จัดทำฐานข้อมูลและเปิดเผยข้อมูลที่ดินภายใต้การดูแลของ กทม. เพื่อความโปร่งใสในการวางแผนแก้ไขปัญหา
8.พื้นที่คุ้มครองเศรษฐกิจของคนจน: กำหนดพื้นที่รองรับและคุ้มครองกิจกรรมทางเศรษฐกิจ เช่น หาบเร่ แผงลอย ตลาดชุมชน
9.การแต่งตั้งคณะกรรมการร่วม: ขอให้แต่งตั้งคณะกรรมการแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัย โดยมีผู้ว่าฯ กทม. เป็นประธาน และมีตัวแทนภาคประชาชนร่วมในสัดส่วนที่เหมาะสม
ภายหลังการรับหนังสือ นายชัชชาติ พร้อมด้วยนายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้ให้สัมภาษณ์ถึงเป้าหมายในการแก้ปัญหาที่อยู่อาศัยในเขตเมือง โดยระบุว่า ปัจจุบันมีชุมชนลักษณะนี้ในกรุงเทพฯ กว่า 2,000 แห่ง ซึ่งเป้าหมายหลักคือการพยายามทำให้ชุมชนเหล่านี้เข้าสู่ระบบที่ถูกต้องตามกฎหมาย เช่น ชุมชนที่รุกล้ำริมคลอง จะร่วมมือกับสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (พอช.) และกรมธนารักษ์ เพื่อพัฒนาให้เป็น "บ้านมั่นคง" โดยย้ายประชาชนออกจากพื้นที่สาธารณะไปสู่พื้นที่เช่าที่ถูกกฎหมาย เพื่อให้เกิดความมั่นคงและไม่ต้องกังวลเรื่องการถูกไล่รื้อ
"เป้าหมายคือ ทุกชุมชนที่อยู่อย่างไม่ถูกต้อง ต้องพยายามเข้าสู่ระบบบ้านมั่นคงให้ได้ ตอนนี้เรามีการโฟกัสในบางพื้นที่ เช่น แถวคลองเปรมประชากร ซึ่งเราทำไปได้ค่อนข้างเยอะ และต้องมีความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง หัวใจคือต้องค่อยเป็นค่อยไป ทุกคนมีชีวิต มีครอบครัวที่ต้องดูแล หากเราจะปรับ ก็ต้องมีที่ที่เขาเข้าไปได้ และค่อยๆ ทำอย่างเห็นอกเห็นใจทุกคน" นายชัชชาติ กล่าว
ด้านนายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าฯกทม. ได้กล่าวเสริมถึงความท้าทายว่า โครงการบ้านมั่นคงซึ่งเริ่มมาตั้งแต่ปี 2546 ในอดีตมีอัตราการกู้จาก พอช. ประมาณ 5,000-6,000 หลังคาเรือนต่อปี แต่ระยะหลังลดลงเหลือเพียง 100-200 หลังคาเรือนต่อปี สะท้อนให้เห็นว่าประชาชนเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้น้อยลง
"เราจึงตั้งสำนักงานใหม่ขึ้นมาชื่อ ‘สำนักงานพัฒนาที่อยู่อาศัย’ โดยไม่ต้องใช้งบประมาณของ กทม. แต่ทำหน้าที่เป็นตัวกลางประสานให้ชาวบ้านเข้าถึงกองทุนของ พอช. ได้ง่ายขึ้น ซึ่งตอนนี้เราพาชาวบ้านเข้าไปได้แล้วประมาณ 1,800 หลัง และกำลังอยู่ในขั้นตอนการกู้ยืม เป้าหมายต่อไปคือการทำให้บ้านที่ไม่มั่นคงทั้งหมด ซึ่งมีอยู่ 450 ชุมชน สามารถเข้าถึงที่ดินและกองทุนของ พอช. ได้ต่อไป" นายศานนท์ กล่าว








