ผอ.กลุ่มวิทยาศาสตร์เพื่อการอนุรักษ์ สำนักพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ กรมศิลปากร เผยสำรวจเบื้องต้นพบว่าพระมหาพิชัยราชรถ มีความเสียหายไม่มากประมาณ 50% ส่วนเวชยันตราชรถ ชำรุดค่อนข้างมาก กระจกหลุดและหมองคล้ำ ส่วนทองหลุดลอกไปจำนวนมาก คาดว่าตั้งแต่สัปดาห์หน้าเป็นต้นไป จะมีการระดมอัตรากำลังของเจ้าหน้าที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สำนักช่างสิบหมู่ รวมถึงกำลังเจ้าหน้าที่ทหารกรมสรรพาวุธทหารบก และกรมอู่ทหารเรือ ที่จะเข้ามาติดตั้งนั่งร้านให้เจ้าหน้าที่ทำการสำรวจความเสียหายขององค์ราชรถ ราชยาน
เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2568 ที่โรงราชรถ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร น.ส.โสภิต ปัญญาขัน นักวิทยาศาสตร์ชำนาญการพิเศษ ผู้อำนวยการกลุ่มวิทยาศาสตร์เพื่อการอนุรักษ์ สำนักพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ กรมศิลปากร กล่าวว่า หลังจากที่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงประกอบพิธีบวงสรวง เพื่อบูรณปฏิสังขรณ์ราชรถ พระยานมาศ และเครื่องประกอบในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนคร เมื่อวันที่ 6 พ.ย.68 แล้วนั้น กรมศิลปากรและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ประสานการทำงานกันเป็นรายสัปดาห์ ล่าสุดวันนี้ (12 พ.ย.) เจ้าหน้าที่กลุ่มวิทยาศาสตร์เพื่อการอนุรักษ์ สำนักพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ กรมศิลปากร ได้เข้ามาสำรวจความเสียหายเบื้องต้นของพระมหาพิชัยราชรถ เวชยันตราชรถ และราชรถน้อย 3 องค์ เกรินบันไดนาค 2 เกริน พระยานมาศสามลำคาน 2 องค์ พระที่นั่งราเชนทรยาน และพระวอสีวิกากาญจน์ ขณะที่กรมสรรพาวุธทหารบก ได้เข้ามาสำรวจระบบกลไก ล้อ เพลา การเคลื่อนที่ ของราชรถ เพื่อเตรียมการวางแผนการดำเนินการด้านต่างๆ และการชักลาก ให้มีความมั่นคงแข็งแรง
ผอ.กลุ่มวิทยาศาสตร์เพื่อการอนุรักษ์ กล่าวอีกว่า ขณะนี้ได้มีการเคลื่อนย้ายโบราณวัตถุบางส่วนไปเก็บรักษายังคลังพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ อำเภอคลองหลวง จ.ปทุมธานี เพื่อจัดเตรียมพื้นที่รองรับการทำงานของเจ้าหน้าที่ที่เข้ามาทำงานภายในโรงราชรถ ที่คาดว่าจะเข้าตั้งแต่สัปดาห์หน้าเป็นต้นไป โดยจะมีการระดมอัตรากำลังของเจ้าหน้าที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ที่มากกว่า 30 คน สำนักช่างสิบหมู่กว่า 100 คน รวมถึงกำลังเจ้าหน้าที่ทหารกรมสรรพาวุธทหารบก และกรมอู่ทหารเรือที่จะเข้ามาติดตั้งนั่งร้านให้เจ้าหน้าที่ทำการสำรวจความเสียหายขององค์ราชรถ ราชยาน ทั้งนี้จากการสำรวจด้วยสายตาเบื้องต้น พบว่าพระมหาพิชัยราชรถ มีความเสียหายไม่มากประมาณ 50% เนื่องจากได้มีการบูรณะใหญ่ไปเมื่อครั้งงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพในหลวงรัชกาลที่ 9 พบกระจกเสื่อมสภาพบางส่วน ทองหลุดลอก กระจก และโลหะหมองคล้ำ และต้องเปลี่ยนผ้าม่านที่ฉีกขาด ส่วนเวชยันตราชรถ ชำรุดค่อนข้างมากมีกระจกหลุดและหมองคล้ำ ส่วนทองหลุดลอกไปจำนวนมาก ส่วนบริเวณอื่นมีการชำรุดในลักษณะที่คล้ายกับพระมหาพิชัยราชรถ รวมถึงพู่ และฉัตรหมองคล้ำ สำหรับพระยานมาศ และราชรถน้อย ยังมีสภาพที่ดี ส่วนใหญ่จะพบความเสียหายที่กระจัง และกระจกหม่น
“ทั้งนี้ เมื่อกรมอู่ทหารเรือเข้ามาติดตั้งนั่งร้านแล้วเสร็จเจ้าหน้าที่จะขึ้นไปสำรวจ โดยใช้เครื่องมือวิทยาศาสตร์เอ็กซเรย์ความเสียหาย โดยรวมขององค์ราชรถ ราชยาน จากนั้นจะเข้าสู่ขั้นตอนการเตรียมการวางแผนการบูรณะ โดยกระบวนการจะไม่เปลี่ยนไปมากจากเดิม ตามหลักการจะต้องทำให้ไม่ให้ถลอก และเสียหายไปจากเดิม ใช้แปรงปัดฝุ่น ส่วนประกอบที่หมองจะเช็ดด้วยน้ำยา ที่ได้ทดสอบแล้วว่าเหมาะสมกับการอนุรักษ์ ขณะที่การปิดทอง จะระมัดระวังมากที่สุด ต้องทำการทดสอบ น้ำยา และแรงกดทุกครั้ง เพื่อไม่ทำให้ทองหลุด เพราะใช้ทองคำเปลวแท้ ดังนั้นทางทีมอนุรักษ์จะต้องไม่ไปเพิ่มงานให้สำนักช่างสิบหมู่ ในการดำเนินการปิดทองประดับกระจก รวมถึงเข้ามาดูแลงานศิลปกรรม หาก ส่วนใดที่มีความเสียหายมากก็จะจัดสร้างขึ้นมาทดแทน รวมถึงจัดทำผ้าม่านใหม่ สร้างฉัตรภู่งอน เพื่อให้สมพระเกียรติสูงสุด” ผอ.กลุ่มวิทยาศาสตร์เพื่อการอนุรักษ์ กล่าว







