เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานจากที่ว่าการอำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ว่า สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตภาครัฐ (สำนักงาน ป.ป.ท.) เปิดเผยความคืบหน้าการตรวจสอบกรณีหน่วยปฏิบัติการร่วมสืบสวนพฤติการณ์เจ้าหน้าที่ของรัฐและกลุ่มนายหน้า ที่มีลักษณะเกี่ยวข้องกับการนำแรงงานต่างด้าวและบุคคลที่ไม่มีสถานะทางทะเบียนเข้ามาจัดทำเอกสารประจำตัวโดยมิชอบ ซึ่งมีการดำเนินการต่อเนื่องมานานกว่า 4 เดือน
กระทั่งเมื่อวันพุธที่ 17 ธันวาคม 2568 เวลา 09.00 น. เจ้าพนักงานจากหลายหน่วยงานด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ ได้สนธิกำลังเข้าตรวจสอบการจัดทำเอกสารประจำตัวบุคคลที่ไม่มีสถานะทางทะเบียนและไม่มีสัญชาติไทยในพื้นที่อำเภอวังน้อย โดยประกอบด้วย ชุดปฏิบัติการเฉพาะกิจสำนักการสอบสวนและนิติการ กรมการปกครอง, สำนักงาน ป.ป.ท., สำนักงาน ป.ป.ช. และส่วนป้องกันและปราบปรามการทุจริตเกี่ยวกับงานทะเบียนและบัตรประจำตัวประชาชน สำนักบริหารการทะเบียน
จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า มีกลุ่มนายหน้าดำเนินการนำพาบุคคลที่ไม่มีสถานะทางทะเบียนซึ่งเป็นแรงงานต่างด้าวจากพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี เข้ามายังพื้นที่อำเภอวังน้อย โดยใช้วิธีการแจ้งย้ายชื่อเข้าไปอยู่ในบ้านที่มีทะเบียนบ้านถูกต้อง แต่บางแห่งไม่มีสภาพบ้านจริง หรือไม่สามารถอยู่อาศัยได้จริง พร้อมทั้งมีการใช้หนังสือมอบอำนาจของเจ้าบ้าน ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าเป็นเอกสารจริงหรือเป็นเอกสารที่ถูกจัดทำขึ้นโดยมิชอบ
ในบางกรณี กลุ่มนายหน้ามีการให้ค่าตอบแทนแก่เจ้าบ้านที่ยินยอมให้มีการแจ้งย้ายชื่อบุคคลที่ไม่มีสถานะทางทะเบียนเข้าไปในทะเบียนบ้าน รายละประมาณ 3,000–5,000 บาท โดยเฉลี่ยแต่ละหลังมีการแจ้งย้ายชื่อเข้าบ้านละประมาณ 20–50 คน
ภายหลังการแจ้งย้ายชื่อเข้ามาในพื้นที่แล้ว เจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวข้อง ซึ่งประกอบด้วยปลัดอำเภอจำนวน 4 ราย และเจ้าหน้าที่อีก 4 ราย ได้ดำเนินการจัดทำเอกสารแสดงตนเป็นบัตรประจำตัวบุคคลที่ไม่มีสถานะทางทะเบียนให้แก่บุคคลดังกล่าว ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าการดำเนินการดังกล่าวเป็นไปตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องหรือไม่
ผลการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า มีบุคคลที่ไม่มีสถานะทางทะเบียนได้รับการจัดทำเอกสารทางทะเบียนในลักษณะดังกล่าวแล้วมากกว่า 500 ราย โดยจากพยานหลักฐานที่รวบรวมได้ พบพฤติการณ์ที่เข้าข่ายเกี่ยวข้องกับการเรียกรับเงินค่าดำเนินการรายละประมาณ 35,000 บาท
ทั้งนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ตรวจยึดพยานหลักฐานสำคัญ อาทิ เอกสารทางทะเบียน หลักฐานการติดต่อสื่อสารระหว่างเจ้าหน้าที่ของรัฐกับกลุ่มนายหน้า รวมถึงการลงพื้นที่ตรวจสอบสภาพบ้านที่ใช้เป็นจุดแจ้งย้ายทะเบียน เพื่อนำเสนอให้ คณะกรรมการ ป.ป.ท. พิจารณาดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายกับเจ้าหน้าที่และบุคคลที่มีพยานหลักฐานเชื่อมโยง พร้อมขยายผลไปยังผู้ที่เกี่ยวข้องทุกรายทุกกระทงความผิดต่อไป








