ที่อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี ยายของพลทหารเอสโซ่สะอื้นร่ำไห้ทำใจยังไม่ได้ ทั้งเสียใจและภูมิใจในตัวหลานชาย เลี้ยงมาตั้งแต่เด็กพ่อแม่แยกทางกัน เผยสมัครเป็นทหารอยากรับใช้ชาติอยากได้เงินเดือนมาจุนเจือครอบครัวและสร้างบ้าน ต่อเติมบ้านทีละเล็กทีละน้อย เผยชีวิตครอบครัวยากจน บ้านมีแต่โครงสร้างสร้างยังไม่เสร็จ
วันที่ 18 ธ.ค.68 จากสถานการณ์ความไม่สงบตามแนวชายแดนในพื้นที่รับผิดชอบของกองทัพภาคที่ 2 และกองทัพภาคที่ 1 ซึ่งยังคงมีการปะทะอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดมีรายงานการสูญเสียกำลังพลเพิ่มขึ้น โดยมียอดทหารพลีชีพแล้วรวม 21 นาย สำหรับทหารที่เสียชีวิตรายล่าสุด คือ พลทหารวสันต์ ขานหัวโทน อายุ 22 ปี ชื่อเล่นเอสโซ่ สังกัดค่ายเจ้าพระยาสุรวงศ์วัฒนศักดิ์ (ร.13 พัน 3) ลูกหลานชาวอุดรธานี ภูมิลำเนาอยู่ที่บ้านเทื่อม ต.เขือน้ำ อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี โดยพลทหารวสันต์ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากสะเก็ดระเบิดและกระสุนเข้าบริเวณด้านหลัง ขณะปฏิบัติหน้าที่อยู่ กองร้อย.ร.132 ฐานปฏิบัติการ ซำแต ตำแหน่งปกติ ผู้ช่วยช่างอิเล็กทรอนิกส์ ตำแหน่งในสนาม พลสูทกรรมในพื้นที่ อ. กันทรลักษ์ จ. ศรีสะเกษ ก่อนจะเสียชีวิตวันที่ 17 ธันวาคม 2568 ที่ผ่านมา
ขณะเดียวกัน เพื่อนทหารและพี่น้องร่วมรบ ชื่อบัญชี Supakorn Thaopha ได้โพสต์ข้อความไว้อาลัยผ่านสื่อสังคมออนไลน์ แสดงความอาลัยและความผูกพันที่มีต่อกัน โดยระบุข้อความสะเทือนใจว่า ใสมึงว่าสิกลับไปปลดพร้อมกัน มึงคือว่าร้อยเฮาต้องกลับบ้านทุกคน ใสว่าจบแล้วเฮาสิพากันไปเที่ยว มึงคือถิ่มกูไปเร็วเเท้ มึงคือบ่ถ่ากลับพร้อมกัน เป็นหยังต้องเป็นมึง มึงจะเป็นฮีโร่ในใจกูเสมอเด้อเพื่อน R.I.P สดุดีทหารกล้า พลทหาร วสันต์ ขานหัวโทน
นอกจากนี้ ยังมีการเผยแพร่คลิปวิดีโอช่วงหนึ่งของพลทหารวสันต์ ขณะไปเก็บเห็ด ซึ่งถือเป็นภาพและข้อความสุดท้ายที่ถูกโพสต์ไว้ โดยมีแคปชั่นอำลา ระบุถึงความผูกพันของพี่น้องทหารที่เคยร่วมเป็นร่วมตาย กินอยู่และรบเคียงบ่าเคียงไหล่กัน พร้อมยกย่องว่าเขาคือ “วีรบุรุษ” ที่เสียสละชีวิตเพื่อหน้าที่และประเทศชาติ การสูญเสียในครั้งนี้สร้างความเศร้าสลดให้กับครอบครัว เพื่อนทหาร และประชาชนชาวจ.อุดรธานีอย่างยิ่ง ท่ามกลางเสียงสดุดีถึงความกล้าหาญและการเสียสละของทหารกล้าผู้จากไป
ล่าสุดวันนี้ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านเลขที่ 131 หมู่ 13 บ้านเทื่อม ต.บ้านเทื่อม ซึ่งเป็นบ้านของพลทหารเอสโซ่มีทหารจากร.13 พัน 3 เดินทางมาเตรียมรับศพทหารกล้า และมีชาวบ้านเดินทางมาให้กำลังใจและช่วยเตรียมงาน บรรยากาศเป็นไปอย่างโศกเศร้า
นางบุญปัน วิชัยวงศ์ อายุ 64 ปี ยายของพลทหารเอสโซ่ เผยว่า รู้ข่าวเมื่อวานนี้ ลูกสาวโทรมาบอกว่า เอสโซ่ไปแล้วนะให้ทำใจ ยายได้ยินข่าวแบบนั้นช็อคมาก ร้องไห้จนเป็นลม เสียใจที่หลานชายต้องมาเสียชีวิตก่อนวัยอันควร แต่ก็ภูมิใจที่หลานชายทำหน้าที่ปกป้องอธิปไตยของประเทศเรา เอสโซ่เป็นหลานชายสมัครไปเป็นทหารจะครบ 2 ปีแล้วในเดือนเม.ย.69 อีก 5 เดือนก็จะปลดประจำการ ส่วนสาเหตุที่หลานชายสมัครไปเป็นทหารก็เพราะบ้านฐานะยากจน พ่อแม่ของน้องแยกทางตั้งแต่คลอดออกมา มียายเลี้ยงมาตั้งแต่ 8-9 เดือน ก็เลี้ยงมาตลอด หลังจากหลานชายไปเป็นทหารก็ได้เงินเดือนมาก็ส่งมาซื้อยายเหล็กซื้ออิฐทีละเล็กละน้อยเพื่อมาสร้างบ้าน อย่างบ้านที่เห็นแต่โครงเป็นบ้านของหลานชายที่สร้างไม่เสร็จ
ก็อยากบอกหลานชายว่าขอให้ไปภพภูมิที่ดีไม่ต้องเป็นห่วงยายหรอก ส่วนนิสัยส่วนตัวเขาเป็นเด็กกตัญญูทำงานได้เงินก็ส่งมาให้ยาย เขาอยากมีบ้าน ก็ส่งมาทีละเล็กละน้อยแต่ตอนนี้ยังสร้างบ้านไม่เสร็จ ยายของน้องเอสโซ่พูดไปก็ร่ำไห้แทบใจจะขาด
คุณครูสงัด ยังศรีนาค อายุ 64 ปี ครูเกษียณจากศูนย์พัฒนาเด็กเล็กวัดทุ่งสว่างบ้านเทื่อม เปิดใจทั้งน้ำตาในฐานะ “ครูคนแรก” ของเอสโซ่ เด็กชายที่เธอฟูมฟักดูแลมาตั้งแต่วัยอนุบาล ก่อนจะเติบโตเป็นทหารผู้เสียสละ
คุณครูสงัด เล่าย้อนถึงภาพจำของลูกศิษย์ด้วยแววตาเปี่ยมความเอ็นดูว่า เอสโซ่เป็นเด็กที่ร่าเริง แจ่มใส มีสัมมาคารวะ และอัธยาศัยดี เป็นที่รักของเพื่อน ๆ และครูทุกคน “แกเป็นเด็กสดใส ใครอยู่ใกล้ก็สบายใจ” คุณครูกล่าว พร้อมเผยว่าหลังเอสโซ่ย้ายไปเรียนต่อในโรงเรียนที่ใหญ่ขึ้น ความผูกพันระหว่างครูกับศิษย์ยังไม่เคยเลือนหาย
สิ่งที่ทำให้คุณครูจดจำเอสโซ่ไม่รู้ลืม คือหัวใจแห่งความกตัญญู แม้จะเติบโตมาในครอบครัวที่มีฐานะยากลำบาก “ครอบครัวเขาอัตคัดมาก พ่อแม่ต้องรับจ้างก่อสร้าง ทำงานทั่วไป เอสโซ่อยู่กับคุณยายเป็นหลัก แต่เขาไม่เคยบ่น เป็นเด็กสู้ชีวิต คอยช่วยเหลืองานบ้าน ไม่ปล่อยให้พ่อแม่ต้องลำบากอยู่ฝ่ายเดียว” คุณครูกล่าว
เมื่อทราบข่าวการจากไปของลูกศิษย์รัก คุณครูสงัดยอมรับว่าทำใจไม่ได้ ร้องไห้เสียใจตลอดทั้งคืน ก่อนตัดสินใจเดินทางมายังบ้านของเอสโซ่ เพื่อช่วยทำความสะอาดและจัดเตรียมสถานที่ ราวกับเป็นการทำหน้าที่ “ครู” ให้ลูกศิษย์เป็นครั้งสุดท้าย
ท้ายที่สุด คุณครูฝากข้อความถึงดวงวิญญาณของเอสโซ่ว่า ขอให้หมดห่วงคนข้างหลัง “ไม่ต้องเป็นห่วงพ่อแม่ ครูเชื่อว่าทุกคนจะช่วยกันดูแล” พร้อมแสดงความเชื่อมั่นต่อการทำหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ทหารในการทวงคืนความยุติธรรม และส่งกำลังใจถึงทหารทุกนายที่ยังคงปฏิบัติหน้าที่อยู่แนวหน้าในขณะนี้
สำหรับกำหนดการเคลื่อนศพของพลทหารวสันต์ ขานหัวโทน จะมีขึ้นในวันศุกร์ที่ 19 ธ.ค.68 นี้ เบื้องต้นขบวนมาจากทาง จ.ขอนแก่น ใช้ ถ.มิตรภาพ ถึงแยกบ้านจั่น ใช้ทางตรง เข้า มทบ.24 และเคลื่อนศพไปยังบ้านเกิดที่บ้านเทื่อม อ.บ้านผือ จ.อุดรธานีต่อไป
#ภูมิภาค-66







