ชรบ.อำเภอชายแดน จ.บุรีรัมย์ ออกเดินตรวจตราตามบ้านเรือนป้องกันผู้อพยพกลับเข้าพื้นที่เสี่ยง ทั้งย้ำให้ผู้ที่อาสาเฝ้าบ้าน สัตว์เลี้ยง เข้าหลุมหลบภัยเพื่อความปลอดภัย หลังยังมีการยิงปะทะต่อเนื่อง ล่าสุดมีกระสุนปืนใหญ่ตกในพื้นที่รวม 33 ลูก ทั้งพบโดรนปริศนาบินว่อนเหนือท้องฟ้าหลายลำ
วันที่ 17 ธ.ค.2568 ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน หรือ ชรบ. อำเภอบ้านกรวด จังหวัดบุรีรัมย์ ได้เดินตรวจตราตามบ้านเรือนประชาชนในพื้นที่รับผิดชอบ เพื่อป้องกันไม่ให้ชาวบ้านในพื้นที่เสี่ยงภัย ที่อพยพไปอยู่ตามศูนย์พักพิงหรือบ้านญาติ แอบกลับเข้าพื้นที่ก่อนจะมีประกาศจากทางอำเภอหรือจังหวัด พร้อมทั้งเน้นย้ำให้ผู้ที่อาสาเฝ้าบ้าน และสัตว์เลี้ยง อย่าอยู่ห่างหลุมหลบภัยหากได้ยินเสียงปืนใหญ่ต้องรีบหลบเข้าบังเกอร์ทันที เนื่องจากยังมีการยิงปะทะต่อเนื่อง
ทั้งนี้ จากข้อมูลรายงาน พบว่าตั้งแต่เริ่มมีการปะทะกันจนถึงขณะนี้ มีกระสุนปืนใหญ่ตกในพื้นที่ชุมชน และพื้นที่การเกษตร ในเขตอำเภอบ้านกรวดแล้ว จำนวน 33 ลูก บางลูกยังไม่ทำงาน ถือว่ามีความเสี่ยงอันตราย อีกทั้งช่วงกลางคืนยังพบโดรนปริศนาบินว่อนเหนือท้องฟ้าเกือบทุกคืนๆ ละกว่า 10 ลำ จึงยังไม่อนุญาตให้ประชาชนกลับเข้าพื้นที่
นายประสิทธิ์ นรสิงห์ ผู้ใหญ่บ้านแนวชายแดนแห่งหนึ่ง บอกว่า มีการจัดกำลัง ชรบ.ออกลาดตระเวนดูแลความเรียบร้อยตามบ้านเรือน และทรัพย์สินของประชาชนทั้งกลางวันกลางคืน ก็มีลูกบ้านโทรมาสอบถามว่าสามารถกลับบ้านได้หรือยัง ตนก็บอกไปว่าถ้าแค่แวะมาดูหรือเอาสิ่งของไม่นานได้แต่ก็รีบออกจากพื้นที่ เพราะยังไม่มีประกาศจากทางอำเภอหรือจังหวัด เพราะยังเป็นพื้นที่เสี่ยงอันตราย และยังพบโดรนบินเหนือท้องฟ้าหลายลำด้วย
ด้านนายอุทัย พะธะนะ ชรบ.หมู่บ้านแห่งหนึ่ง บอกว่า ช่วงนี้ยังมีโดรนบินเหนือท้องฟ้าในพื้นที่หลายลำ ก็ได้แจ้งให้ทางอำเภอรับทราบ และประสานให้ชาวบ้านที่อาสาเฝ้าบ้านปิดไฟ และหลบเข้าบังเกอร์ เพื่อไม่ให้ตกเป็นเป้าหมายการโจมตีของกัมพูชา เพราะฝั่งกัมพูชามีการใช้โดรนพลีชีพ และโดรนติดอาวุธ ช่วงกลางคืนก็เห็นโดรนบินมาจากฝั่งกัมพูชาหลายลำ ก็เข้าใจความรู้สึกชาวบ้านหลายวันแล้วก็อยากจะกลับบ้าน แต่เพื่อความปลอดภัยก็ขอให้รอประกาศจากทางภาครัฐก่อน
นายวสันต์ ขันติ อายุ 65 ปี บอกว่า ภรรยาและคนในครอบครัวที่เป็นผู้หญิงได้อพยพไปอยู่ศูนย์พักพิงแล้ว ส่วนตนเองอาสาเฝ้าบ้านเพราะมีสัตว์เลี้ยงที่ต้องดูแล แต่การอยู่ในหมู่บ้านก็ต้องระมัดระวัง หากได้ยินเสียงปืนใหญ่ก็ต้องรีบเข้าบังเกอร์ กลางคืนก็จะไม่เปิดไฟเพราะกลัวตกเป็นเป้า เนื่องจากกัมพูชามีโดรนพลีชีพ ก็ยอมรับว่ากลัวแต่มีหลุมหลบภัยก็อุ่นใจส่วนใหญ่ก็จะอยู่ในบังเกอร์ ก็อยากให้สถานการณ์สู้รบจบโดยเร็ว เพราะชาวบ้านต้องใช้ชีวิตด้วยความลำบาก ซ้ำขาดรายได้เพราะไม่สามารถไปทำมาหากินได้ อย่างตนเองก็ไม่ได้กรีดยางสัปดาห์กว่ารายได้หายไปเป็นหมื่น แต่ภาระหนี้สินยังมีเหมือนเดิม
#ภูมิภาค-54








