วันที่ 17 ธันวาคม 2568 สำนักงานศุลกากรภาคที่ 4 รายงานผลการปฏิบัติงานด้านการสืบสวนและปราบปรามการลักลอบนำเข้าสินค้าผิดกฎหมาย ตามนโยบายรัฐบาลในการป้องกันและปราบปรามการลักลอบนำของผิดกฎหมายเข้ามาในราชอาณาจักร ตามนโยบายของ ดร.เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ที่มอบหมายให้กรมศุลกากรเข้มงวดในการป้องกันและปราบปรามสินค้าผิดกฎหมาย เพื่อให้เป็นไปตามนโยบาย Quick Big Win ของรัฐบาล ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจควบคู่กับการปกป้องสังคมและการจัดเก็บรายได้อย่างเป็นธรรม โดย นายพันธ์ทอง ลอยกุลนันท์ อธิบดีกรมศุลกากร ได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานในสังกัดปฏิบัติการอย่างเคร่งครัด
ทั้งนี้ นายยุทธนา พูลพิพัฒน์ รองอธิบดีกรมศุลกากร และ นายพิชยา เจริญสันต์ ผู้อำนวยการสำนักงานศุลกากรภาคที่ 4 ได้สั่งการให้ส่วนควบคุมทางศุลกากร สำนักงานศุลกากรภาคที่ 4 โดยฝ่ายสืบสวนและปราบปราม ร่วมกับด่านศุลกากรท่าอากาศยานหาดใหญ่ ด่านศุลกากรสงขลา และหน่วยสืบสวนปราบปรามศุลกากรสงขลา เข้าตรวจค้นพัสดุภัณฑ์ของบริษัทขนส่งเอกชนในพื้นที่รับผิดชอบ ระหว่างวันที่ 1–15 ธันวาคม 2568 ผลการตรวจค้นพบ บุหรี่ต่างประเทศ จำนวน 20,000 คอตตอน (400,000 มวน) มูลค่าประมาณ 2 ล้านบาท และ บุหรี่ไฟฟ้าพร้อมอุปกรณ์ประกอบ จำนวน 8,450 ชิ้น มูลค่าประมาณ 3,731,500 บาท รวมมูลค่าของกลางทั้งสิ้นกว่า 5.7 ล้านบาท
จากการตรวจสอบพบว่า บุหรี่ต่างประเทศดังกล่าว มิได้ปิดอากรแสตมป์และไม่ปรากฏหลักฐานการนำเข้าอย่างถูกต้องตามพิธีการศุลกากร ส่วนบุหรี่ไฟฟ้าเป็น ของต้องห้ามนำเข้ามาในราชอาณาจักร ตามประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง กำหนดให้บารากู่ บารากู่ไฟฟ้า หรือบุหรี่ไฟฟ้า เป็นสินค้าต้องห้ามนำเข้า พ.ศ. 2557 ซึ่งเป็นอันตรายต่อสุขภาพอนามัย ทั้งนี้ของกลางดังกล่าวเป็นของอันพึงต้องริบตาม มาตรา 166 แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2560 และผู้เกี่ยวข้องมีความผิดตาม มาตรา 242, 245, 246 ประกอบมาตรา 252 แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าว โดยเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการอายัดของกลางไว้ตาม มาตรา 167 เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
#ภูมิภาค-81