วันที่ 16 ธ.ค.68 หลังเสียงปะทะระหว่างไทยกับกัมพูชาเงียบลงในช่วงเวลา 12.00 น.ถึงเวลา 15.00 น.พบชาวบ้านและชุด ชรบ.ของหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ในตำบลแนงมุด อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งมีพื้นที่อยู่ระหว่างกลางพื้นที่ปราสาทคนาและปราสาทตาควาย ต้องเฝ้าระวังอย่างเข้มงวดและต้องอยู่ในหลุมหลบภัยตลอดเวลาช่วงการปะทะกันหนัก โดยใช้ท่อลอดน้ำของลำห้วยเป็นหลุมหลบภัยและเป็นที่อยู่อาศัย และค่อยเวลาช่วงที่เสียงปืนจากการปะทะกันเงียบลง จึงออกจากหลุมหลบภัยและช่วยกันทำกับข้าวเพื่อรับประทานกัน
โดยชาวบ้านในพื้นที่ตำบลแนงมุด อำเภอกาบเชิง กล่าวว่า เมื่อช่วงเช้ายิงกันหนักมากเพิ่งหยุดไปเมื่อสักพัก แต่เมื่อวานหนักกว่านี้ วันนี้ต้องดูช่วงบ่ายอีกที ซึ่งตรงนี้จะได้ยินเสียงปืนใหญ่ชัดเจน เนื่องจากอยู่ตรงกลางระหว่าง ปราสาทคนากับปราสาทตาควาย ส่วนการอยู่กินก็ช่วยเหลือตัวเอง มีหน่วยงานเข้ามาบริจาคสิ่งของให้บ้าง การหลับนอนก็อาศัยท่อลอดน้ำใต้ถนนเป็นที่หลับนอน ซึ่งชาวบ้านที่อยู่ที่นี่เป็นอาสาช่วยเหลือชุดชรบ. และคอยดูแลสัตว์เลี้ยงของตนเอง ส่วนการที่ไทยสามารถยึดประสาทตาควายกลับคืนมาได้ แล้วเหตุการณ์จะสงบลง คงเป็นไปไม่ได้เพราะเขมรคงไม่ยอม จะต้องโจมตีหวังเอาคืนให้ได้แน่นอน อยากให้ทหารไทยทำให้มันจบๆ คิดว่าสถานการณ์ชายแดนคงยังดำเนินอยู่แบบนี้ต่อไปอีก ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีชาวมีบ้านอพยพกลับเข้ามาในพื้นที่ มีเพียงผู้ที่เข้ามาให้อาหารสัตว์เลี้ยงและตรวจสอบบ้านเรือนของตนเอง เมื่อเสร็จแล้วก็จะกลับออกไปทันทีเท่านั้น ซึ่งสถานการณ์ตอนนี้ยังไม่น่าไว้วางใจ
โดยช่วงบ่ายเสียงปืนของทั้งสองฝ่ายเริ่มมีการยิงตอบโต้กันอีกครั้งในเวลา 15.00 น.โดยฝั่งกัมพูชายิงจรวด BM-21 เข้าใส่ฝั่งไทยบริเวณปราสาทตาควายและปราสาทคนาหลายชุด ขณะที่ไทยก็ยิงโต้กลับด้วยเช่นกัน ขณะที่ผู้สื่อข่าวที่เข้ามาติดตามทำข่าวสถานการณ์ชายแดน ต้องคอยข้างๆหลุมหลบภัยเพื่อความปลอดภัย จนเวลานี้เสียงปืนยังคงดัง มีการยิงตอบโต้กันเป็นช่วงๆประปราย ไม่หนักเหมือนช่วงเช้าที่ผ่านมา และยังไม่พบรายงานความสูญเสีย ซึ่งต้องรอการตรวจสอบอีกครั้ง
ทั้งนี้ทางการได้ขอความร่วมประชาชน งดใช้ถนนเส้นทางสาย 224 อ.พนมดงรัก-อ.กาบเชิง หากไม่มีความจำเป็นเร่งด่วนให้หลีกเลี่ยงไปใช้เส้นทางอื่นแทน ถือว่าเป็นเส้นทางเขตพื้นที่อันตราย
#ภูมิภาค-63








