วันที่ 15 ธ.ค.68 ร.ต.อ.ณัฐ ปิ่นกระจัน รอง สารวัตรป้องกันสถานีตำรวจทางหลวง 6 กองกำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจทางกลวง หัวหน้าหน่วยบริการประชาชนตำรวจทางหลวงด่านช้าง พร้อม ด.ต.ชัยมงคล คล้ายทอง ด.ต.ธงชัย ศรีเรือนงาม ออกตรวจพื้นที่เพื่อกวดขับจับกุมผู้กระทำผิดกฎหมาย ป้องกันปัญหาอาชญากรรม ยาเสพติด อาวุธปืน ในเขตพื้นที่รับผิดชอบไปตามถนนสาย 3086 ถึงบริเวณถนนทางเข้าหมู่บ้าน หมู่ 2 ตำบลด่านช้าง อำเภอด่านช้าง จังหวัดสุพรรณบุรี
พบชายขับขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ HONDA รุ่น WAVE สีน้ำเงิน ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน คนขับไม่สวมหมวกนิรภัย และผู้ขับขี่มีลักษณะท่าทางมีพิรุธต้องสงสัยท่าทางมีพิรุธ เนื่องจากคนขับซึ่งเป็นชายเปิดไฟส่องกบที่ติดอยู่หน้าผากแต่ไม่ยอมเปิดไฟรถจักรยานยนต์ ลักษณะผิดสังเกตุเจ้าหน้าที่จึงส่งสัญญาณให้ชายคนดังกล่าวจอดรถเพื่อขอตรวจค้นแต่ชายคนดังกล่าวทำท่าชลอ พอเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินเข้าไปใกล้ชายคนดังกล่าวกลับเร่งเครื่องหนีไปอย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่จึงรีบขับรถไล่ตามพร้อมเปิดสัญญาณไฟและสั่งให้หยุดแต่ชายคนดังกล่าวไม่ยอมหยุด พยายามขับรถหนีเข้าไปตามเส้นทางในหมู่บ้านซึ่งเป็นทางคดเคี้ยวสุดท้ายรถจักรยานยนต์ของชายต้องสงสัยเลียหลักล้มแต่ชายต้องสังสัยไม่ยอมหยุดอาศัยความมืดวิ่งหนีไปซ่อนตัวอยู่ไปหลบซ่อนตัวริมกำแพงในไร่มัน ของชาวบ้านแต่ไม่รอดเจ้าหน้าที่ติดตามค้นหาจนเจอ
จากนั้นได้ตรวจค้นในตัวไม่พบสิ่งของผิดกฏหมายสอบถามชายต้องสงสัยทราบชื่อต่อมาว่าชื่อนายคมสันต์ (สงวนนามสกุล) อายุ 37 ปี ภูมิลำเนาอยู่ที่ หมู่ที่ 2 ตำบลด่านช้าง อำเภอด่านช้าง สอบถามนายคมสันต์ ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกให้จอดทำไมไม่จอด นายคมสันต์อ้างว่าตนไม่รู้ว่าเป็นตำรวจ กลัวได้รับอันตรายจึงเร่งเครื่องหนี ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้พยายามเค้นสอบ สุดท้ายนายคมสันต์ ก็ยอมรับสารภาพว่าที่ตนหนีแบบไม่คิดชีวิตเพราะมียาบ้าอยู่กับตัวตนกลัวจะมีความผิดและกลัวถูกจับจึงต้องหนี โดยยาบ้าจำนวนดังกล่าวตนซื้อมาจากนายปื้ด ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง อยู่บ้านหนองห้าง ตำบลหนองขาม อำเภอหนองหญ้าไซ จังหวัดสุพรรณบุรี ครั้งละ 1 ถุงมาในราคา 1,700 บาทเอามาไว้เสพ แต่เจ้าหน้าที่ไม่เชื่อ เพราะยาบ้าที่ตรวจพบมีจำนวนมากผิดปกติและมีการแบ่งยาบ้าใส่ถุงพลาสติกใสเอาไว้ลักษณะเหมือนเตรียมส่งลูกค้าแต่มาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับเสียก่อน
จากการตรวจสอบประวัติพบว่านายคมสันต์ มีประวัติเคยถูกจับคดี อาวุธปืน และคดียาเสพติด มาแล้วหลายครั้ง หลังพ้นโทษมาได้ไม่นานก็หวนกลับมาขายยาบ้าอีก เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหาจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) โดยมีไว้เพื่อจำหน่าย เป็นผู้ขับขี่เสพยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย
#ภูมิภาค-43








