"จันทบุรี" เตรียมพร้อมสูงสุด 8 หลุมหลบภัย ต.เทพนิมิต ปรับปรุงพร้อมรับมือ หากสถานการณ์ปะทะในตราดขยายวง ด้านรองผู้ว่าฯ มอบถุงพระราชทาน บรรเทาทุกข์ ผู้อพยพความไม่สงบชายแดน
วันที่ 14 ธ.ค.68 แม้ว่าสถานการณ์ความตึงเครียดตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาจะพุ่งสูงและมีการประกาศเคอร์ฟิวใน 5 อำเภอของจังหวัดตราด หลังเหตุปะทะและยิง M79 ใส่ฐานทัพเรือ แต่ล่าสุด ณ วันที่ 14 ธ.ค. 68 ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี ยืนยันว่า สถานการณ์ชายแดนด้านจันทบุรี ยังคงปกติ ไม่มีการเคลื่อนไหวผิดปกติของทหารกัมพูชา
อย่างไรก็ตาม จังหวัดจันทบุรีได้ยกระดับมาตรการ เฝ้าระวังอย่างไม่ประมาท โดยเฉพาะในพื้นที่อำเภอที่ติดแนวชายแดนอย่าง ต.เทพนิมิต อ.โป่งน้ำร้อน ซึ่งเป็นพื้นที่ติดกับจังหวัดพระตะบอง ประเทศกัมพูชา ได้มีการดำเนินการเตรียมความพร้อมสูงสุด ได้ดำเนินการ อพยพกลุ่มเปราะบาง เช่น ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียง และเด็กเล็ก ที่อาศัยอยู่ตามแนวชายแดนไปยังศูนย์พักพิงชั่วคราวแล้ว
สำหรับประชาชนทั่วไป ยังไม่มีคำสั่งอพยพทั้งหมด แต่มีการแจ้งเตือนให้เตรียมพร้อมสูงสุด โดยให้ เตรียมกระเป๋ายังชีพฉุกเฉิน เติมน้ำมันรถ และเตรียมพร้อมอพยพตามสัญญาณ และคำสั่งจากเจ้าหน้าที่ทหาร/ฝ่ายปกครองเท่านั้น
ขณะที่ นายเล็ก งามละมัย สารวัตรกำนัน ตำบลเทพนิมิต บอกว่า ความพร้อมหลุมหลบภัย ที่ทางองค์การบริหารส่วนตำบลเทพนิมิต ได้ทำการ สำรวจและปรับปรุงหลุมหลบภัย 8 จุด ที่สร้างไว้ตั้งแต่ปี 2530 ทั้งหมดมีสภาพพร้อมใช้งานและได้รับการปรับปรุงแล้ว โดยหลุมหลบภัยแต่ละแห่งสามารถรองรับประชาชนได้ประมาณ 60-80 คน โดยมีการยืนยันว่ามีความพร้อมและแข็งแรง ตามมาตรฐานเพื่อรองรับในกรณีที่เกิดวิกฤต
นอกจากนี้ อำเภอโป่งน้ำร้อน ได้มีการสั่งการให้ผู้นำชุมชน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) จัดทำบังเกอร์ และ ฝึกซ้อมแผนเผชิญเหตุอย่างเป็นระบบ เพื่อให้สามารถอพยพประชาชนได้ทันท่วงทีภายใน 24 ชั่วโมงหากสถานการณ์ฉุกเฉิน
วันเดียวกัน นางคณิตา ราษฎร์นุ้ย รองผู้ว่าราชการจันทบุรี ลงพื้นที่มอบ ถุงพระราชทานแก่กลุ่มผู้อพยพที่พักอาศัยอยู่ภายใน ศูนย์พักพิงชั่วคราว อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี เพื่อเป็นการให้ความช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น และเป็นขวัญกำลังใจสำคัญ แก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบ ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา
จากนั้น ได้เดินทางต่อไปยัง ศูนย์พักพิงชั่วคราว ในพื้นที่ อ.สอยดาว เพื่อติดตามการบริหารจัดการและเยี่ยมเยียนประชาชน จากการตรวจสอบพบว่ายังมีประชาชนบางส่วน เดินทางไปมาระหว่างที่พักอาศัยเดิมและศูนย์พักพิง โดยรองผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี ได้เน้นย้ำและขอความร่วมมือให้ประชาชน ในพื้นที่เสี่ยง ให้ปฏิบัติตามคำแนะนำและประกาศของทางราชการอย่างเคร่งครัด
โดยขอให้พักอาศัยอยู่ภายในศูนย์พักพิงเป็นหลักในระยะนี้ เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินจนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ
#ภูมิภาค-17








