วันที่ 12 ธันวาคม 2568 ช่วงเที่ยงวัน นายสมนึก ภาคจันทึก ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ 14 ได้รับแจ้งว่าพบชายต้องสงสัยอยู่บริเวณป่าอ้อยท้ายหมู่บ้าน มีพฤติกรรมคล้ายกำลังสอดแนมหรือหาพิกัดทหารไทยเพื่อส่งข้อมูลให้ฝ่ายกัมพูชา ท่ามกลางกระแสข่าวด้านความมั่นคงที่ตึงเครียดในพื้นที่ชายแดน
หลังรับแจ้ง ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ได้รีบรุดเข้าตรวจสอบทันที แต่เมื่อชายคนดังกล่าวเห็นเจ้าหน้าที่กลับตกใจและวิ่งหนีเข้าไปในไร่อ้อย จึงประสานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองจากกรมการปกครองพนมดงรักเข้าช่วยค้นหา และสามารถควบคุมตัวชายคนดังกล่าวได้ในป่าอ้อย โดยพบว่าเมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง เขาไม่มีพฤติกรรมหลบหนีแต่อย่างใด
จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า ชายคนนี้เป็นชาวบ้านหมู่ 4 ซึ่งอยู่ติดกับหมู่บ้านที่เกิดเหตุ และมีอาการคล้ายคนเมา เจ้าตัวยอมรับว่าเมื่อเห็นชุดชรบ.ถือปืนเข้ามาใกล้จึงเกิดความตกใจและเผลอวิ่งหนี เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองจึงนำตัวไปสอบสวนอย่างละเอียดร่วมกับฝ่ายความมั่นคง และจากการตรวจสอบไม่พบพฤติกรรมเข้าข่ายเป็นสายลับหรือส่งพิกัดให้ทหารกัมพูชา เป็นเพียงความเข้าใจผิดเท่านั้น ก่อนให้ผู้ที่รู้จักมายืนยันตัวตนและปล่อยกลับบ้าน
ด้านนายสมนึก ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ระบุว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสืบเนื่องจากพื้นที่อยู่ภายใต้ประกาศกฎอัยการศึก และมีข่าวลือว่ามีสายลับกัมพูชาลอบเข้ามาในพื้นที่ ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องเข้มงวดเป็นพิเศษ เมื่อชุดชรบ.เข้าตรวจสอบและชายคนดังกล่าววิ่งหนี จึงยิ่งทำให้เกิดความสงสัยจนต้องควบคุมตัวมาตรวจสอบเพื่อความปลอดภัยของชุมชน
เหตุการณ์นี้สะท้อนให้เห็นถึงการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดในพื้นที่ชายแดนสุรินทร์ เจ้าหน้าที่จำเป็นต้องตรวจสอบบุคคลต้องสงสัยทุกคน แม้จะเป็นชาวบ้านจากหมู่บ้านใกล้เคียงก็ตาม เพื่อป้องกันความเสี่ยงและรักษาความสงบเรียบร้อยในสถานการณ์ที่เปราะบางเช่นนี้







