เกิดเหตุชายเมาสุราปีนขึ้นท้ายรถกระบะของช่างรับเหมาสาวในเมืองจันทบุรี พยายามเปิดประตูรถแต่ไม่สำเร็จ ก่อนตำรวจเข้าระงับสถานการณ์และนำตัวสอบสวน เจ้าของรถเผยหวิดเกิดอันตราย โชคดีล็อกประตูทัน
วันที่ 10 ธ.ค.68 เวลาประมาณ 10.30 น. ศูนย์วิทยุ 191 ตำรวจภูธรจังหวัดจันทบุรี ได้รับแจ้งขอความช่วยเหลือจากประชาชน กรณีมีชายลักษณะคล้ายคนเมาสุรา บุกปีนขึ้นไปนั่งบนรถกระบะที่จอดอยู่ริมถนนข้างสวนสาธารณะ โครงการปฏิรูปที่ดิน ถนนทุ่งดอนแดง และ ถนนจันทคามวิถี ต.ตลาด อ.เมือง จ.จันทบุรี
ผู้แจ้งซึ่งเป็นหญิงสาวเจ้าของรถอยู่ในอาการตื่นตระหนก เล่าว่าพยายามตะโกนได้พยายามเจรจาเกลี้ยกล่อมให้ชายคนดังกล่าวลงจากรถแต่ไม่เป็นผล และยังกระโดดลงมากระชากเปิดประตูรถ โชคดีที่เธอได้ล็อกประตูไว้ก่อนแล้ว
หลังรับแจ้งได้ประสานตำรวจสายตรวจตู้ยามนาเชยที่อยู่ใกล้เคียง เดินทางเข้าระงับเหตุ ซึ่งจากกล้องหน้ารถของพลเมืองดีที่ผ่านมาพอดี ได้บันทึกภาพไว้ได้ ขณะที่ชายผู้กอ่เหตุอายุประมาณ 50 ปี รูปร่างผอมสูง สวมเสื้อโปโลและกางเกงขายาวสีน้ำเงิน ยืนอยู่ข้างรถกระบะอีซูซุสีบรอนซ์ พยายามฉุดดึงประตูหลายครั้ง แต่ไม่สามารถเปิดได้ จากนั้นได้พยายามล้วงเอากุญแจออกมาไขประตู แต่เมื่อเห็นพลเมืองดีเดินเข้าไปถ่ายภาพ ชายคนดังกล่าวจึงปีนกลับขึ้นไปนั่งที่ท้ายกระบะ
ช่วงเวลาเดียวกับที่ตำรวจสายตรวจเดินทางมาถึงและเข้าสอบถาม ชายคนดังกล่าวได้พูดจาวกวน อ้างว่าจะกลับบ้าน ส่วน น.ส.วิภาพร หรือเกล้า อายุ 29 ปี ช่างรับเหมาระบบไฟฟ้าและติดตั้งแอร์ เจ้าของรถ เมื่อเห็นตำรวจมาถึงรีบเปิดประตูออกมาด้วยอาการตื่นตกใจ
ขณะทางตำรวจได้พยายามเจรจาให้ชายคนดังกล่าวยอมลงจากรถ แต่ยังคงดื้อดึงพูดจาไม่รู้เรื่อง อ้างว่าตกงานอยากกลับบ้าน สุดท้ายตำรวจจึงต้องใช้ไม้แข็งส่งเสียงขู่ว่าจะจับกุม ทำให้ชายคนดังกล่าวยอมลงจากรถพร้อมกระเป๋าสัมภาระ ก่อนจะถูกคุมตัวไปสอบสวน
จากการสอบถาม น.ส.วิภาพร เจ้าของรถ เล่าเหตุการณ์ว่า ขณะเกิดเหตุได้ขับรถกระบะมาจอดริมสวนสาธารณะ และดับเครื่องเพื่อเขียนแบบงาน ระหว่างนั้นเหลือบไปเห็นชายคนดังกล่าว เดินสะพายกระเป๋าเป้ตรงเข้ามาที่ท้ายรถด้วยท่าทีมีพิรุธ จึงรีบปิดกระจกและล็อกประตู ซึ่งเป็นไปตามที่คาด ชายคนนี้ได้เดินขึ้นมานั่งที่ท้ายกระบะหน้าตาเฉย เธอพยายามแง้มกระจกพูดเกลี้ยกล่อมให้ลง แต่เขากลับลงมาพยายามดึงเปิดประตูรถ ทำให้เธอต้องรีบโทรแจ้งตำรวจทันที ยืนยันว่าไม่รู้จักกับชายคนดังกล่าวมาก่อน ส่วนสาเหตุที่ไม่กล้าขับรถหนี เพราะตกใจทำอะไรไม่ถูกและเกรงจะเกิดอันตรายกับทั้งสองฝ่าย
จากการสอบสวนเบื้องต้นของตำรวจสายตรวจ พบว่าชายคนดังกล่าวยังอยู่ในอาการมึนเมา พูดจาไม่รู้เรื่อง ทางตำรวจจึงได้นำตัวกลับไปที่ไซต์งานก่อสร้างที่ชายคนนี้อ้างว่าทำงานอยู่ เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อไป ด้านผู้เสียหายไม่ติดใจเอาความในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
#ภูมิภาค-24








