ครัวบุญญามณี ดำเนินภารกิจช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยรวม 14 วัน สะท้อนการอยู่เคียงข้างทุกช่วงเวลา เสนอเร่งฟื้นฟูเมืองหาดใหญ่และปริมณฑลอย่างเร่งด่วน
วันที่ 8 ธ.ค.68 นายนิพนธ์ บุญญามณี อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และอดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา เปิดเผยถึงการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในจังหวัดสงขลา ซึ่งเป็นเหตุการณ์รุนแรงที่สุดครั้งหนึ่ง ที่พื้นที่ต้องเผชิญ โดยตลอดระยะเวลา 14 วันที่ผ่านมา ครัวบุญญามณีได้ช่วยประชาชนทันทีตั้งแต่เริ่มเกิดเหตุ เพื่อประคับประคองชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องที่ได้รับผลกระทบอย่างหนัก
นายนิพนธ์กล่าวว่า นับตั้งแต่น้ำเข้าท่วมพื้นที่ ชาวบ้านจำนวนมากไม่สามารถออกนอกบ้านประกอบอาชีพ หรือแม้แต่ต้องอพยพออกจากบ้าน ทำให้ไม่สามารถทำครัวได้เหมือนปกติ การจัดตั้งครัวบุญญามณีจึงไม่ใช่เพียงการผลิตอาหาร แต่เป็นการทำให้ประชาชนรู้ว่า “ในทุกความยากลำบาก จะยังมีคนหนึ่งกลุ่มหนึ่งยืนอยู่ข้างเสมอ
นายนิพนธ์ พร้อมด้วยนายสรรเพชญ บุญญามณี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดสงขลา รวมถึงทีมงานและเครือข่ายโรงครัวพันธมิตร ได้ลงพื้นที่ทุกวัน ทั้งนำอาหารไปถึงชุมชน พูดคุย รับฟังปัญหา ขับเคลื่อนการประสานหน่วยงานต่าง ๆ และติดตามความต้องการเร่งด่วนของแต่ละพื้นที่ เพื่อให้ความช่วยเหลือเป็นไปอย่างตรงจุดและทันสถานการณ์ที่สุด
ตลอด 14 วันของภารกิจ ตั้งแต่วันที่ 24 พฤศจิกายน – 7 ธันวาคม 2568 ครัวบุญญามณีและพันธมิตรได้มอบสิ่งของแล้วรวมกว่า 392,100 ชุด ซึ่งไม่ใช่เพียงตัวเลขปริมาณ แต่เป็นความห่วงใยที่ส่งมอบให้ประชาชนสามารถดำรงชีวิตต่อได้ในวันที่ยากที่สุดของปี ทั้งอาหารปรุงสุก อาหารกึ่งสำเร็จรูป ไข่ไก่ น้ำดื่ม และถุงยังชีพ โดยความช่วยเหลือประกอบด้วย
- อาหารกล่องปรุงสุก (ครัวบุญญามณี) 29,400 กล่อง
- ข้าวเหนียวไก่ทอด โดยบริษัทอาคเนย์คอนกรีต 16,050 กล่อง
- แซนวิชทูน่า โดยบริษัทสยามอินเตอร์เนชั่นแนลฟู้ด 45,100 กล่อง
- ขนมปังฟาร์มเฮ้าส์ 9,000 ชิ้น
- น้ำดื่มโดยบริษัทสมิหลาปลาป่น 25,000 ขวด และลอดช่อง 250 ถ้วย
- น้ำดื่มโดยบริษัทสมิหลา โคลด์ สโตเรจ จำนวน 50,000 ขวด
- อาหารปรุงสุกจากโรงครัวพันธมิตร โดยมูลนิธิเนชั่น จำนวน 28,000 กล่อง
- ถุงยังชีพ 3,500 ชุด
- มาม่า 74,500 ซอง
- ไข่ไก่สด 75,000 ฟอง
- มูลนิธิสิ่งแวดล้อมเพื่อชีวิต ร่วมสนับสนุน ข้าวสาร จำนวน 300 กระสอบปลากระป๋อง จำนวน 30,000 กระป๋อง และน้ำดื่มขนาด 1.5 ลิตร 500 โหล
แม้วันนี้จะเป็นวันสุดท้ายของภารกิจจัดทำอาหารปรุงสุก เนื่องจากหลายพื้นที่สามารถกลับมาประกอบอาหารได้แล้วตามปกติ แต่นายนิพนธ์ย้ำว่า การอยู่เคียงข้างประชาชนยังดำเนินต่อไป “การทำครัวอาจสิ้นสุดลงตามสถานการณ์ แต่ภารกิจของเรายังไม่จบ หลังจากนี้ ครัวบุญญามณีจะยังคงจัดเตรียมถุงยังชีพและสิ่งจำเป็นอื่น ๆ เพื่อช่วยเหลือครัวเรือนที่ยังได้รับผลกระทบ พร้อมเดินหน้าสำรวจปัญหาและฟื้นฟูคุณภาพชีวิตของประชาชนในระยะต่อไป” นายนิพนธ์กล่าว
การทำงานครั้งนี้ยังเชื่อมโยงกับข้อเสนอของนายสรรเพชญ ที่ได้ผลักดันแนวคิด “ฟื้นคน ฟื้นเมือง ฟื้นเศรษฐกิจสงขลา” เพื่อให้รัฐบาลเร่งดำเนินมาตรการบูรณาการฟื้นฟูโครงสร้างสังคมในจังหวัดสงขลาและฟื้นฟูเมืองหาดใหญ่อย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะการลงทุน Megaproject ในพื้นที่จังหวัดสงขลาที่รัฐบาลจะต้องกล้าทุ่มงบประมาณมาฟื้นฟูเมืองหาดใหญ่ ในการสร้างงาน รายได้ และความเข้มแข็งให้กับประชาชนในระยะยาว
นายนิพนธ์กล่าวทิ้งท้ายว่า “วิกฤตครั้งนี้ทำให้เห็นอย่างชัดเจนว่า เมื่อประชาชนลำบาก เราต้องอยู่ตรงนั้น ไม่ใช่แค่ไปมอบสิ่งของ แต่ต้องไปยืนเคียงข้าง รับฟัง และช่วยเขาให้กลับมายืนได้ด้วยตัวเองอีกครั้ง”







