ข่าวภูมิภาค

เร่งอพยพผู้ป่วยติดเตียงหนีเสียงปืนใหญ่ไม่หยุด ชาวบ้านบุรีรัมย์วอนรัฐ “จบให้เด็ดขาด”

แชร์ข่าว

สถานการณ์ชายแดนบุรีรัมย์ตึงเครียดต่อเนื่อง เจ้าหน้าที่เร่งลำเลียงเด็ก ผู้สูงอายุ และผู้ป่วยติดเตียงออกจากพื้นที่เสี่ยง ขณะชาวบ้านเรียกร้องรัฐจัดการให้จบ ไม่อยากเผชิญวิกฤตรอบ 3

วันที่ 8 ธ.ค.68 อำเภอบ้านกรวด จังหวัดบุรีรัมย์ ร่วมกับสาธารณสุขอำเภอ   เทศบาล อบต.ภาคเอกชน  ได้ระดมเจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงาน รวมทั้งหน่วยกู้ชีพ  กู้ภัย อาสาสมัครรักษาดินแดน และชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ยังคงเร่งช่วยกันลำเลียงเด็ก คนชรา ผู้พิการ ผู้ป่วยติดเตียงที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา  ที่ยังคงตกค้างออกจากพื้นที่เสี่ยงภัย   ไปรักษาต่อยัง รพ.ที่ปลอดภัย  และศูนย์พักพิงที่ห่างไกลจากรัศมีการสู้รบ เนื่องจากขณะนี้ยังมีเสียงปืนใหญ่จากการยิงปะทะดังต่อเนื่อง  แม้จะยังไม่มีรายงานบ้านเรือนเสียหาย หรือมีผู้บาดเจ็บ แต่สถานการณ์ไม่น่าไว้วางใจ  อำเภอจึงประกาศให้ประชาชนอพยพออกจากพื้นที่เสี่ยงภัยแบบ 100 เปอร์เซ็นต์   ซึ่งขณะนี้ก็มีการอพยพออกจากพื้นที่แล้วกว่า 90 เปอร์เซ็นต์  ที่เหลือจะเป็นเพียงผู้นำชุมชน  ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน  และ อส.ที่คอยดูแลทรัพย์สิน บ้านเรือน และสัตว์เลี้ยงของประชาชนตามแผนพิทักษ์พื้นที่ส่วนหลัง  

อย่างไรก็ตาม ประชาชนแนวชายแดนต่างเรียกร้องให้รัฐบาล และทหาร  ดำเนินการอย่างเด็ดขาดอย่าให้เกิดการสู้รบอีกเป็นรอบที่สามเลย เพราะประชาชนแนวชายแดนเดือดร้อนมาก  นอกจากจะต้องทิ้งบ้าน  สัตว์เลี้ยงไปอยู่ศูนย์พักพิงแล้ว  ก็ต้องขาดรายได้อีก  คนชายแดนลำบากมาก 

ขณะที่นายเอกวัฒน์ พวงประโคน นายอำเภอบ้านกรวด ก็ได้มาคอยดูแลสั่งการที่ศูนย์ปฏิบัติการพิทักษ์พื้นที่ส่วนหลังอำเภอบ้านกรวด รวมถึงมาให้กำลังใจคนชรา ผู้ป่วยติดเตียงที่ถูกลำเลียงมาจากหมู่บ้าน เพื่อรอการส่งต่อไปยัง รพ. และศูนย์พักพิง โดยอำเภอบ้านกรวดมีทั้งหมด 9 ตำบล 118 หมู่บ้าน ประชากร 76,000 คน แต่อาศัยอยู่ในพื้นที่จริง 40,000 คน อพยพแล้วกว่า 29,000 คน 

นางสวย สังเวียนดี ชาวบ้านตำบลโนนเจริญ  อ.บ้านกรวด บอกว่า วันนี้ได้ยินเสียงปืนใหญ่จากการยิงปะทะดังตั้งแต่เช้า และแรงสั่นสะเทือนจากการยิงปะทะก็ทำให้กระจกบ้านร้าว จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่ให้ไปช่วยเหลือเคลื่อนย้ายพี่สาวเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย  ออกจากบ้านและส่งต่อไปยัง รพ.ที่ปลอดภัย ส่วนตัวมองว่าหากรบแล้วก็อยากรัฐบาลเด็ดขาด และจัดการให้จบเร็วๆ  อย่าปล่อยให้ปัญหายื้อเยื้อไปจนถึงรุ่นลูกหลานอีก   

ด้านนายประชา เขียวอุสา ชาวบ้านอำเภอบ้านกรวด บอกว่า ภรรยาป่วยเป็นเส้นเลือดในสมองตีบไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ นอนติดเตียงมานานกว่า 5 ปีแล้ว  สู้รบครั้งก่อนไม่ได้อพยพออกจากพื้นที่เพราะสงสารภรรยา แต่ครั้งนี้ผู้นำแจ้งว่าให้อพยพเพื่อความปลอดภัย เพราะคิดว่าน่าจะรุนแรงกว่าครั้งก่อน จึงตัดสินใจประสานเจ้าหน้าที่ให้มาช่วยลำเลียงภรรยาที่ป่วยติดเตียงไปยังที่ปลอดภัย ก็อยากฝากรัฐบาลและทหารแนวหน้า   จัดการเขมรให้เด็ดขาดและจบโดยเร็ว   อย่าให้เกิดการสู้รบเป็นรอบที่สามอีก  เพราะการอพยพแต่ละครั้งลำบากมาก  โดยเฉพาะคนที่มีญาติป่วยติดเตียง เพราะการอพยพแต่ละครั้งก็ต้องมีค่าใช้จ่าย   ซ้ำยังขาดไม่ได้อีก

#ภูมิภาค-54