เมื่อวันที่ 6 ธ.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงนี้เกษตรกรชาวนาในหลายพื้นที่ของ จ.บุรีรัมย์ ได้ทำการเก็บเกี่ยวผลผลิตข้าวนาปีเสร็จสิ้นแล้ว ที่ส่วนใหญ่เจ้าของนาได้ว่าจ้างรถเกี่ยวข้าว แล้วมีเมล็ดข้าวร่วงหล่น หรือรวงข้าวที่ล้มราบกับพื้น เนื่องจากในช่วงการเก็บเกี่ยวได้มีพายุฝนตกลงมา จึงทำให้ต้นข้าวหลายที่ล้มรสบลงกับท้องนา ทำให้รถเกี่ยวไม่สามารถเกี่ยวขึ้นมาได้
จึงกลายเป็นโอกาสทองของชาวบ้านในพื้นที่ ต.สวายจีก อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ที่ว่างเว้นจากจากการทำนา และที่ไม่มีนาทำเป็นของตนเอง ได้พากันออกเดินตามท้องทุ่งนาของเพื่อนบ้าน เพื่อหาเก็บเศษรวงข้าวที่ร่วงหล่นตามท้องทุ่งนา มาสะสมไว้แล้วเอามาขยี้ให้เมล็ดข้าวเปลือกร่วงออกมา ได้เฉลี่ยรวมกันต่อครั้งไม่น้อยกว่า 2-3 กระสอบปุ๋ย หรือประมาณไม่ต่ำกว่า 100 กิโลกรัม ก่อนที่จะนำไปสีไว้บริโภคในครัวเรือน และนำไปขายยยังโรงสีหรือลานรับซื้อข้าวเปลือก เนื่องจากราคารับซื้อข้าวเปลือกในขณะนี้อยู่ที่กิโลกรัมละ 15-16 บาท เพื่อนำเงินมาเป็นค่าใช้จ่ายภายในครอบครัว
นางละออง ชวนประโคน อายุ 70 ปี ชาวบ้าน ต.สวายจีก อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ที่เดินทางมาพร้อมกับเพื่อนบ้าน 3-4 คน มาเก็บรวงข้าวและเมล็ดข้าวเปลือก บอกว่า ได้ชักชวนกันมาหาเก็บรวงข้าว ที่รถเกี่ยวข้าวเกี่ยวแล้วเหลือตกค้างอยู่ในนา เนื่องจากในช่วงเก็บเกี่ยวได้มีฝนตกลงมา ทำให้น้ำท่วมขังในนา และต้นข้าวล้มราบกับพื้น จึงทำให้รถไม่สามารถเกี่ยวข้าวที่ล้มกับพื้นดินขึ้นมาได้ ก็พบว่ามีเป็นจำนวนมาก ซึ่งพวกตนได้มาเก็บรวงข้าวที่หล่นตามทุ่งนาได้ 3 วันแล้ว นำไปสะสมรวมกันตอนนี้ได้อยู่ประมาณ 2 กระสอบถุงปุ๋ย ก็ตั้งใจว่าจะนำไปเก็บไว้บริโภค และบางส่วนนำไปขายเนื่องจากราคารับซื้อข้าวเปลือกปีนี้ให้ราคาดี โดยมีราคารับซื้ออยู่ที่ 15-16 บาทต่อกิโลกรัม เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในครอบครัว
ด้านนางเจียม เกิดบุตร อายุ 62 ปี ชาวบ้าน ต.สวายจีก อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ชาวบ้านอีกรายที่มาหาเก็บรวงข้าวที่ร่วงหล่นตามทุ่งนา บอกว่า ตนเองก็มีนาทำอยู่แต่ไม่เยอะ ส่วนวันนี้ก็มาหาเก็บข้าวในนาเพื่อนบ้าน ที่ใช้รถเกี่ยวแล้วข้าวมันยังมีหลงเหลือ และเจ้าของเขาปล่อยทิ้งด้วย รู้สึกเสียดายจึงมาหาเก็บข้าว ซึ่งแต่ละวันสามารถเก็บรวงข้าวและเมล็ดข้าวเปลือกที่ร่วงหล่นตามท้องนานำไปรวมกันตอนนี้ได้ไม่ต่ำกว่า 2-3 ถุงปุ๋ยแล้ว หรือต่อวันประมาณ 1-2 ครุถัง ก็จะนำไปเก็บไว้กินส่วนที่เหลือก็จะนำไปเก็บไว้ขาย เพราะตอนนี้โรงสีรับข้าวเปลือกให้ราคาดีอยู่ที่ประมาณ 15-16 บาทต่อกิโลกรัม
นางพุด กริดรัมย์ อายุ 64 ปี ชาวบ้าน ต.สวายจีก อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ชาวบ้านอีกรายที่มาหาเก็บรวงข้าวที่ร่วงหล่นตามทุ่งนา บอกว่ามาหาเก็บรวงข้าวที่หล่นตามทุ่งนากับเพื่อนๆ ได้หลายวันแล้วได้ 2-3 กระสอบปุ๋ย ก็จะนำไปไว้กินถ้าเหลือเยอะ ก็จะนำไปขายเอาเงิน ไว้ให้หลานไปโรงเรียน เพราะตนต้องเลี้ยงหลาน 3 คน ซึ่งข้าวเปลือกตอนนี้กำลังราคาดี.
ภูมิภาค-54