ตำรวจขอนแก่นบุกจับเครือข่ายบัญชีม้าเชื่อมโยงแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ยึดสมุดบัญชี 82 เล่ม บัตรเอทีเอ็ม 60 ใบ เงินสดกว่า 9 หมื่นบาท พร้อมจับผู้ต้องหา 4 ราย พบยาเสพติดในที่เกิดเหตุ ดำเนินคดีตามกฎหมายเข้มงวด
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 25 พ.ย.68 พ.ต.อ.วงศกร วันชัย รักษาการ ผกก.สส.ภ.จว.ขอนแก่นนำกำลังตำรวจสืบสวน กก.สส.ภ.จว.ขอนแก่น และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดวิเคราะห์อาชญากรรมทางเทคโนโลยี กก.สส.ภ.จว.ขอนแก่น รวมถึงชุดวิเคราะห์ ศปอส.ภ.จว.ขอนแก่น ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหาในคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เปิดปฎิบัติการปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายพร้อมกันทั้งจังหวัดโดยสามารถจับกุม นายสุรพงษ์ หรือตาต้า อายุ 37 ปี อยู่ ม.3 ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น ในข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภท 1 หรือเมทแอมเฟตามีน ไว้ในความครอบครองโดยผิดกฎหมาย และเสพยาเสพติดประเภทเดียวกัน
นอกจากนี้ ยังถูกแจ้งข้อหาร่วมกันมีไว้และใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบ ในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน พร้อมของกลาง ยาบ้า 41 เม็ด, สมุดบัญชีเงินฝาก 82 เล่ม, บัตรกดเงินสดหรือบัตรเอทีเอ็ม 60 ใบ, เงินสด 93,200 บาท, โทรศัพท์มือถือ 9 เครื่อง รถจักรยานยนต์ 2 คัน รถยนต์ 1 คัน และวัตถุคล้ายทองอีก 2 เส้น ,น.ส.ณัฐวรรณ หรือทราย อายุ 32 ปี แฟนสาวของนายตาต้า ถูกแจ้งข้อหา ร่วมกันมีไว้และใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบ ในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน,น.ส.สาวิตรี หรือบิว อายุ 27 ปี อยู่ ม.6 ต.หนองใหญ่ อ.หนองกุงศรี จ.กาฬสินธุ์ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดปทุมธานี ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน รวมถึงเป็นผู้เปิดหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ของตน โดยมิได้มีเจตนาใช้เพื่อตนเอง หรือกิจการที่ตนเกี่ยวข้อง ทั้งที่รู้หรือควรรู้ว่าอาจนำไปใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือความผิดอื่นใด นอกจากนี้ยังถูกแจ้งข้อหาเสพยาเสพติดประเภท 1 โดยฝ่าฝืนกฎหมาย โดยถูกจับได้ขณะกำลังเสพยาไอซ์ภายในโรงแรมแห่งหนึ่งกลางเมืองขอนแก่น และนายสุริยา หรือบอล อายุ 32 ปี อยู่ ม.6 ต.ศรีสว่าง อ.โพนทราย จ.ร้อยเอ็ด ถูกจับในข้อหาเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 โดยฝ่าฝืนกฎหมาย
พ.ต.อ.วงศกร กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่สั่งการให้เร่งปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี โดยเฉพาะการกระทำความผิดเกี่ยวกับบัญชีม้า ซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญในการหลอกลวงออนไลน์และส่งผลกระทบต่อประชาชนเป็นวงกว้าง ชุดสืบสวนและชุดวิเคราะห์ได้ดำเนินการสืบสวนติดตามผู้ต้องหาตามหมายจับ น.ส.สาวิตรี จนพบตัวขณะอยู่ในโรงแรมแห่งหนึ่ง โดยเมื่อสอบสวนขยายผล เจ้าตัวให้การว่า รู้จักหญิงชื่อ “ปราง” ผ่านทางโซเชียล ซึ่งเป็นผู้ว่าจ้างให้หาคนทำหน้าที่กดเงินจากตู้เอทีเอ็ม และเปิดบัญชีม้า โดยจะให้รายได้ร้อยละ 1 ต่อรายการ
"จึงไปชักชวนเพื่อนชื่อนายตาต้า ให้เป็นผู้กดเงินจากตู้เอทีเอ็มหลายแห่งในเขตตัวเมืองขอนแก่น และมีนางสาวทราย แฟนสาวของนายตาต้า ทำหน้าที่ดูบัญชีและหาคนมาทำบัญชีม้าให้ โดยแบ่งรายได้ร้อยละ 1 เช่นกันหลังได้ข้อมูล เจ้าหน้าที่จึงติดตามไปยังบ้านพักของนายตาต้าและ น.ส.ทราย พบตัวพร้อมของกลางจำนวนมาก และตรวจสารเสพติดจากปัสสาวะพบว่าทั้งคู่เสพยาเสพติด จึงแจ้งข้อกล่าวหาตามพฤติการณ์ทั้งหมด ก่อนควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 4 ราย ส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองขอนแก่น เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป"
#ภูมิภาค-48