โรคปากและเท้าเปื่อยระบาดหนักชายแดนไทย–กัมพูชา วัวควายล้มตายหมู่บ้านเดียวกว่า 40 ตัว ทั้งจังหวัดตายแล้วกว่า 300 ตัว ชาวบ้านวอนหน่วยงานรัฐเร่งช่วยเหลือ ขณะที่จังหวัดปรุชมเข้ม เตรียมประกาศเป็นพื้นที่เฝ้าระวังโรคระบาดสัตว์ทั้งจังหวัด
วันที่ 25 พ.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเกิดการระบาดของ โรคปากและเท้าเปื่อย (FMD) อย่างรุนแรงในวัวควาย พื้นที่ บ้านธรรมราช หมู่ 2 ตำบลสะกาด อำเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งเป็นเขตชายแดนไทย–กัมพูชา ทำให้วัวควายในพื้นที่ล้มตายจำนวนมาก สร้างความเดือดร้อนให้เกษตรกรอย่างหนัก มีวัวควายตายแล้วกว่า 40 ตัว ไม่รวมพื้นที่ อื่นๆในหลายอำเภอของ จ.สุรินทร์ ที่มีติดเชื้อและล้มตายจำนวนกว่า 300 ตัวแล้ว
นางพร สง่างาม อายุ 47 ปี ชาวบ้านธรรมราช ตำบลสะกาด อำเภอสังขะ เปิดเผยทั้งน้ำตาว่า วัวของตน ตายไปแล้ว 2 ตัว และในหมู่บ้านตายรวมกว่า 40 ตัว โดยยังมีวัวอีกจำนวนมากที่รอการรักษาและมีอาการน่าเป็นห่วง
นางพรเล่าว่า ผู้เลี้ยงสัตว์หลายราย ไม่มีเงินจ้างคนหรือรถแบ็กโฮในการขุดหลุมฝังซากวัว ทำให้เดือดร้อนอย่างหนัก อีกทั้งในบ้านมีเพียงผู้หญิง ส่วนผู้ชายก็ป่วย ไม่สามารถช่วยเหลือได้ จึงอยากวิงวอนให้หน่วยงานรัฐลงพื้นที่ด่วน ทั้งการนำยารักษา การฉีดวัคซีน รวมถึงการช่วยขุดหลุมฝังซากวัวเพื่อป้องกันการแพร่เชื้อเพิ่มเติม
ด้านนายแสงทอง สินชัย อายุ 57 ปี ชาวบ้านธรรมราช ระบุว่า ขณะนี้พื้นที่ถูกประกาศให้เป็น เขตสีแดง เพราะโรคระบาดรุนแรง แม้ชาวบ้านจะพยายามดูแลสัตว์เลี้ยงอย่างเต็มที่แล้ว แต่ก็ “เอาไม่อยู่” หลายตัวอาการหนักจนต้อง ใช้รอกช่วยยกตัววัวขึ้นทุกวัน
นอกจากชาวบ้านแล้ว พระครูประพัฒน์อาภาธร เจ้าอาวาสวัดบ้านสนศรัทธาราม หมู่ 8 ตำบลสะกาด ยังเล่าว่า “เจ้าเพชร” ควายเพศผู้ อายุ 21 ปี ซึ่งอยู่คู่กับหลวงพ่อมากว่า 20 ปี ขณะนี้มีอาการทรุดหนักเช่นกัน ทำให้รู้สึกห่วงใยและสงสารเป็นอย่างมาก
สำหรับจำนวนสัตว์ที่ตายจากโรคปากและเท้าเปื่อยในพื้นที่บ้านธรรมราช หมู่ 2 ช่วงเดือนที่ผ่านมา มีดังนี้ กันยายน 2568 จำนวน 11 ตัว ตุลาคม 2568 จำนวน 17 ตัว และเดือน พฤศจิกายน 2568 จำนวน 15 ตัว รวมทั้งหมดกว่า 40 ตัว
แม้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะลงพื้นที่พ่นยาฆ่าเชื้อตามคอกต่างๆแล้ว และชาวบ้านได้หายาฆ่าเชื้อมาฉีดและยาสีม่วง มาทาที่ปากและเท้าของวัวแล้ว ก็ยังคงมีการระบาดอยู่ และต้องรอดูอาการของสัตว์เลี้ยงอย่างใกล้ชิด บางตัวมีน้ำลายยืด กินหญ้าไม่ได้ ชาวบ้านต่างเรียกร้องให้ หน่วยงานปศุสัตว์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ช่วยเหลือโดยด่วน ก่อนที่โรคจะลุกลามสร้างความเสียหายเพิ่มขึ้น
ขณะที่ช่วงบ่ายของวานนี้ (24 พ.ย.68) ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดสุรินทร์ นายประภาส ศรีจันทร์เวียง รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เป็นประธานการประชุม พร้อมด้วยนายปกรณ์ มุ่งเจริญพร ส.ส.สุรินทร์ พรรคภูมิใจไทยในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการป้องกันและบรรเทาผลกระทบจากภัยธรรมชาติและสาธารณะภัย สภาผู้แทนราษฎร และป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.สุรินทร์ พร้อมส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เรื่องการป้องกัน เฝ้าระวัง และควบคุมโรคในสัตว์โค-กระบือที่เป็นโรคปากและเท้าเปื่อยและล้มตายไปแล้วกว่า 300 ตัวในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ โดยนายสัตวแพทย์อภิชัย นาคีสังข์ ปศุสัตว์จังหวัดสุรินทร์ รายงานแจ้งในที่ประชุมว่าการระบาดของโรคปากและเท้าเปื่อยในสัตว์มีโค-กระบือ ในหลายพื้นที่ ทั้งในพื้นที่อำเภอเมืองสุรินทร์ อำเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์ แล้วลามไปอีกหลายพื้นที่ 5 อำเภอจังหวัดสุรินทร์ จาก 17 อำเภอ โดยการเกิดโรคมีสาเหตุจากหลายปัจจัย ซึ่งทางการได้แจ้งให้หน่วยงานในแต่ละพื้นที่ได้มีการเฝ้าระวังและเข้าไปฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อเพื่อป้องกันการระบาดของโรคในสัตว์อย่างเร่งด่วนแล้วในขณะนี้ แต่ยังไม่สามารถควบคุมการระบาดได้ในขณะนี้
โดยขณะนี้ทางปศุสัตว์จังหวัดได้มีการประกาศให้อำเภอสังขะ ซึ่งพบการระบาดหนักสุดเป็นพื้นที่ควบคุมโรคระบาดสัตว์ชั่วคราวไปแล้วและอำเภอที่มีการติดเชื้อในบางตำบล และจากการประชุมติดตามสถานการณ์ในครั้งนี้ พบว่าการระบาดยังคงไม่สามารถควบคุมได้ และได้ข้อสรุป โดยจังหวัดสุรินทร์จะได้นำเสนอกับทางนายจำเริญ แหวนเพรช รองผู้ว่าราชการจังหวัด รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ลงนามในวันนี้ 25 พฤศจิกายน 2568 เพื่อประกาศเป็นพื้นที่เฝ้าระวังโรคระบาดสัตว์ทั้งจังหวัด ซึ่งจะมีการเข้าควบคุมตรวจสอบอย่างเข้มข้นสูงสุดต่อไป รวมไปถึงการเยียวยากับเกษตรที่ได้รับผลกระทบด้วย
#ภูมิภาค-62







