หนุ่มไทย 28 ปี หนีรอดจากขบวนการสแกมเมอร์ปอยเปตเขมร หลังถูกนกต่อคนไทยแก๊งค์สแกมเมอร์ หลอกเปิดบัญชีม้า ก่อนลอยแพ อดข้าวถึง 7 วัน ต้องต้มน้ำขุ่นกิน ก่อนตัดสินใจทำงานเว๊ปพนัน อดๆอยากๆอีก 3 เดือน ไม่ได้เงิน มีแม่คอยแสกนค่าอาหารให้ ก่อนตัดสินใจหนีออกทางด่านช่องจอมในสภาพผอมโซ พบมีคดีบัญชีม้าติดตัวอีก 19 คดี ด้าน สว.สุรินทร์ คณะกรรมาธิการการกฎหมายและการยุคิธรรม วุฒิสภา รุดลงพื้นที่รับฟังปัญหา ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือ ในฐานะเหยื่อ ผู้ถูกกระทำ
วันที่ 24 พ.ย.68 เวลา 11.00 น.นายรุจิภาส มีกุศล สมาชิกวุฒิสภา จ.สุรินทร์ โฆษกคณะกรรมาธิการการกฎหมายและการยุติธรรม วุฒิสภา พร้อมด้วยนายลาภิศ นามไพร ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ คณะกรรมาธิการการกฎหมายและการยุติธรรม วุฒิสภา ,นางวิภาวี นามเดช เลขาธิการกรรมาธิการการกฎหมายและยุติธรรม ประจำตัว สว.รุจิภาส มีกุศล และนายนพรัตน์ กิ่งแก้ว ผู้ช่วยดำเนินงานสมาชิกวุฒิสภา สว.รุจิภาส มีกุศล ได้เดินทางไปยังบ้านของนาย ธนวัฒน์ (สงวนนามสกุล) อายุ 28 ปี หนุ่มที่ถูกแก๊งค์สแกมเมอร์คนไทย หลอกให้เปิดบัญชีม้า ก่อนนำไปขายที่ปอยเปต ประเทศกัมพูชา พร้อมลอยแพให้หากินเอง ต้องดื่มน้ำประปาประทังชีวิต และถูกหลอกให้ทำงานเวปพนัน ไม่ได้เงิน ก่อนตัดสินใจหนีเอาตัวรอดออกมาทางชุมชนโอรเสม็ด อ.สำโรง จ.อุดรมีชัย และปีนข้ามรั้วบริเวณจุดผ่านแดนถาวรช่องจอม ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ กลับมาให้ทหารไทยช่วยเหลือไว้ได้อย่างปลอดภัย แม้ร่างกายจะผอมโซจากการที่อดข้าวมาหลายวัน นอกจากนี้ ยังต้องถูกดำเนินคดีเกี่ยวกับบัญชีม้า ถึง 19 คดี ครอบครัววอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือ
นายธนวัฒน์ กล่าวว่า กล่าวว่า เดิมตนรู้จักครอบครัวคนไทย ไม่ทราบว่าเป็นชาวจังหวัดอะไร ผู้ชายชื่อนายชลาทิพย์ (ไม่ทราบนามสกุล) อายุประมาณ 30 กว่าปี แฟนสาวชื่อน.ส.อรวรรณ และพ่อเขาชื่อนายประเสริฐ (ไม่ทราบนามสกุล) ซึ่งรู้จักกันที่ชายแดนช่องจอม ต.ด่าน อ.กาบเชิงฯ จากนั้น เมื่อเดือน เม.ย.68 ที่ผ่านมา ตนไม่มีงานทำ จึงปรึกษา นายชลาทิพย์ และถูกแนะนำให้ไปหางานแถวอรัญญประเทศ จ.สระแก้ว ทำงานเป็นพนักงานโลชิ๊พ ที่บ่อนกาสิโน ฝั่งปอยเปต กัมพูชา ใกล้กับหน้าด่านอรัญญประเทศ ได้วันละ 300 บาท ก่อนจะบอกให้ตนไปเปิดบัญชีบริษัท ตนก็ไม่รู้คืออะไร แต่จะให้ค่าจ้างเป็นเดือน เดือนละหมื่นบาทต่อบัญชี เขาจึงพาตนไปเปิดบัญชีนิติบุคคลที่ จ.ร้อยเอ็ด จำนวน 4 ธนาคาร เป็นบัญชีนิติบุคคล ที่ต้องใช้คนเปิดร่วม 2 คน รวมทั้งอีเมล และเบอร์โทรต่างๆ ตนก็ไม่รู้ว่าเขาให้ใครเปิดร่วมและใช้หมายเลขและอีเมลใคร เขาทำเองทั้งหมด มีธนาคารกรุงไทย ไทยพาณิชย์ กสิกรไทยและทหารไทย ตนคิดว่าจะได้เงินเดือน 9 พันและค่าบัญชีอีกหนึ่งหมื่น ตนก็ยังไม่รู้ว่าเขาหลอกไปเปิดบัญชีม้าให้เขา เขาออกอุบายว่าต้องเปิดบัญชีให้บริษัทที่ทำงานถึงจะได้เงินเดือน ซึ่งแรกๆเมื่อเดือนเมษา ก็ได้เงินบัญชีละหมื่น ทำงานไม่นานตนก็กลับบ้าน จากนั้นเกิดสงครามและอพยพไปพร้อมกับครอบครัว และหลังจากจบสงคราม ตนก็ไม่มีเงิน อยากไปทำงานที่กรุงเทพฯขอยืมเงินค่ารถใครก็ไม่มี จึงโทรกลับไปหานายหน้าคนไทยคนเดิม หลังจากตนรู้แล้วว่าถูกหลอกให้เปิดบัญชีม้า จึงขอบัญชีคืน เขาก็บอกว่า จะให้เงิน หกหมื่นบาท และเอาบัญชีให้คืนและจะปิดให้ พอตนไปถึงเขาก็ไม่ให้ แต่พาตนไปทิ้งไว้ที่ปอยเปต และไม่ติดต่อมาอีกเลย พร้อมจ่ายค่าข้ามไปฝั่งเขมรอีก 1 หมื่นให้ด้วย แต่เขาเห็นหน้าเราก่อนว่าไปอยู่กับเขาจริง เขาจะมีข้าวให้กิน ให้เงินวันละพัน พอไปอยู่เงินก็ไม่ได้ข้าวกิน น้ำก็ไม่มีให้กิน เงินก็ไม่มี ถูกปล่อยทิ้งไว้ในบ้านชาวเขมรก่อน ตนจึงเอาน้ำประปาขุ่นๆไปต้มดื่มแทน เวลาหิวข้าวมากไม่รู้จะทำยังไง ก็โทรให้แม่ที่อยู่ที่บ้านสแกนเงินจ่ายให้ เขาจะมีคิวอาร์โค๊ตให้ เคยอดข้าว 7 วัน เดินก็ไม่มีแรง พอตนอยู่ได้ห้าหกวัน เจ้าของบ้านชาวเขมรก็บอกให้ตนไปหางานทำ ตนจึงเดินหาตามกาสิโนไปเรื่อยๆตนก็ถามว่ามีงานอะไรให้ทำไหม คนที่บ่อนกาสิโนที่นั่นก็บอกว่า มีคอลเซ็นเตอร์ มีเว็ปพนัน มีหลายแบบแล้วแต่เราจะเลือกทำ ตนไม่มีเงินไม่มีที่ไป เพื่อหาเงินกินข้าว จึงเลือกเวปพนันดีกว่า ไม่ต้องไปหลอกใครด้วย แค่คอยตอบแชท และมีเงินโอนเข้าหรือไม่ ตนยังไม่ได้ถูกทำร้าย แต่ยังไม่ให้เงินใช้ เขาบอกว่าทำงานประมาณ 3 เดือนจะได้เงินแสนกว่าบาท ถ้าทำยอดได้มาก พอทำยอดไม่ได้ก็ไม่ให้ ได้แต่ร้องไห้โทรมาบอกแม่ เป็นอาคารห้องแถวที่สร้างใหม่ อยู่รวมกัน 5 คน ล้อมรอบด้วยกำแพง มีลวดหนามด้านบน มีทหารเฝ้าทางเข้า 6-7 คน เวลาอยากกินข้าวก็ต้องโทรบอกแม่ให้แสกนให้ แม่ก็ไม่มีเงิน นอกจากนี้ก็มีคนไทยอีกหลายคน ไม่รู้อยู่ห้องไหนจุดไหนบ้าง มีคนไทยคนหนึ่งมาขออยู่กับตน บอกว่าถ้าได้เงินก็จะออกไป แต่เขมรมาเห็น น่าจะตามหาคนไทยคนนี้ ถูกเขมรเตะอัดผนังปูน ซ้อมหนัก บอกว่าโกงค่าบัญชีเขาอะไรสักอย่าง ตอนนี้ไม่รู้ว่าเป็นยังไง ตนก็ไม่รู้จะช่วยยังไง คนไทยก็โดนหลอกไปเหมือนกัน พอไม่มีเงิน ก็ต้องเดินหางานทำ และจำเป็นต้องทำ ก็มีคนถามว่าถ้ามีบัญชีมาขายก็จะให้เงิน หลังจากตนได้งานเขาก็สอนงานให้ ให้มาอยู่ที่สำนักงาน ที่มีกำแพงล้อมรอบ มีลวดหนามด้านบน ข้าวน้ำก็ไม่มีให้กิน เงินก็ไม่มี พอครบ 7 วันก็ปล่อยให้ออกไปเล่นได้ ตนเคยเดินหาทางกลับเข้ามาในประเทศไทยบริเวณชายแดนปอยเปตแต่ก็ไม่มีช่องทางให้หนีข้ามกลับได้เลย อยู่แบบอดๆอยากๆตั้งแต่เดือนสิงหาคม จนมาถึง ต้นเดือน พ.ย.ประมาณ 3 เดือนตนไม่รู้จะทำยังไง จึงวางแผนและตัดสินใจ ขอให้แม่ช่วยโอนเงินให้ 3 พันบาท ตนจะเดินไปหาทหารเอง จากนั้นตนไปขอกดเงินตามร้านโทรศัพท์ ว่ากดร้านไหนได้บ้าง ก็ไม่มีที่กดเงิน ตนจึงกลับมาเก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋าไว้ เพราะเป็นวันหยุดตนพอดี พอยามไม่ได้สังเกต ตนจึงหยิบกระเป๋าออกมานั่งรถตุ๊กๆมาหน้าด่าน ที่ร้านจำนำโทรศัพท์ เลยให้แม่โอนเงินเข้าร้านนั้นพอดี เขมรก็ด่าผมว่าโอนเงินมาแบบนี้ไม่ได้ ถ้าแบบนี้จะไม่ให้เงิน ตนจึงยกมือไหว้ขอร้องให้ช่วยตนหน่อย เขาจึงหักค่ากดค่าบริการไป 850 บาท ตนเหลือเงิน 2,150 บาท ได้เงินจ่ายค่ารถตุ๊กๆที่นั่งมา จากนั้นตนเดินหารถตู้ที่มาฝั่งชายแดนโอรเสม็ด-ช่องจอม ตนจึงเหมามา 600 บาท และต้องนั่งสองต่อจ่ายอีก 200 บาท ก่อนจะมาถึงที่โอรเสม็ด พอถึงโอรเสม็ด ตนก็ขึ้นไปกินน้ำที่โรงแรมรอยัล ก่อนที่คนเขมรจะบอกว่า พี่ไม้ต้องกลัว พี่เดินไปหาทหารไทย เขาก็จะช่วยเราเอง ซึ่งตนเคยรู้จักกันมาก่อน พอถึงบริเวณรั้วด่านชายแดนช่องจอม ตนก็กระโดดข้าม และเดินไปจนพบทหารไทย เวลาประมาณ 6 โมงเย็น ของวันที่ 6 พ.ย.ที่ผ่านมา ก่อนจะเล่าเรื่องราวต่างให้ฟัง ทหารก็ถามที่มาที่ไป ทำไมถึงรอดมาได้
ด้านแม่ของนายธนวัฒน์ กล่าวว่า อยากฝากถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้มาช่วยลูกชาย เราก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรต่อ กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมา เราคือถูกกระทำและโดนหลอกมา และจะต้องมาถูกดำเนินคดีเกี่ยวกับบัญชีม้าอีก 19 คดี สงสารลูกชายมาก ที่ผ่านมาพยายามติดต่อลูกชายและดีใจที่เขากลับมาถึงไทยได้ อยากให้เจ้าหน้าที่ช่วยแนะนำว่าจะต้องทำอย่างไรต่อ ไม่รู้เรื่องกฎหมายอะไร ตำรวจบอกว่าลุกชายมี 19 คดี แต่ไม่รู้ว่ามีที่ไหนบ้าง จังหวัดอะไรบ้าง ขอความเห็นใจผู้ที่เสียหาย อย่าแจ้งความเลย เราเป็นผู้ถูกกระทำเหมือนกัน
#ภูมิภาค-62







