วันที่ 20 พ.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านอำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ที่มีความตึงเครียดอยู่ตลอดเวลายากที่คาดเดาได้ ขณะที่จุดรับซื้อข้าวสมพรพืชผล บ้านตาเมียง ต.ตาเมียง อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ พบว่าชาวบ้านในพื้นที่อำเภอพนมดงรักและชาวบ้านตำบลสายตะกู อำเภอบ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ที่อยู่ติดเขตรอยต่ออำเภอพนมดงรัก ต่างเร่งขนข้าวมารอคิวขายที่จุดรับซื้อ ซึ่งเป็นข้าวเปลือกสดที่เกี่ยวจากนาแล้วนำมาขายทันที โดยไม่ต้องตาก เนื่องจากวิตกกังวลในสถานการณ์ที่ไม่แน่นอนและอาจเกิดเหตุความรุนแรงได้ทุกเมื่อ โดยข้าวเปลือกสดรับซื้อในราคา 13.30 บาท ไม่หักความชื้นแต่สิ่งปลอมปนต้องไม่เกิน 3 เปอร์เซ็นต์ ส่วนถ้าเป็นข้าวตากแห้งแล้วรับซื้ออยู่ที่ 15-16 บาท ซึ่งเป็นราคาที่สูงกว่าทุกปีที่ผ่านมา
จากการสอบถามชาวนาชาวอำเภอพนมดงรัก ที่นำข้าวมาขายต่างบอกเป็นเสียงเดียวกัน ว่า ที่ต้องขายเป็นข้าวเปลือกสด เพราะไม่มั่นใจในสถานการณ์ชายแดนในพื้นที่ ซึ่งมีความตึงเครียดอยู่ในขณะนี้ที่อาจเกิดเหตุการณ์ความรุนแรงได้ทุกเวลา ถึงแม้ข้าวตากแห้งจะมีราคาสูงกว่าข้าวสดก็ตาม จำต้องยอมขายเป็นข้าวสดไปก่อนเพื่อเก็บเงินไว้ใช้จ่ายหนี้สินและตอนที่ต้องได้มีการอพยพ หากมีการปะทะกันเกิดขึ้น ซึ่งข้าวในพื้นที่ยังเหลืออีกเยอะที่ยังไม่ได้เกี่ยวเพราะรถเกี่ยวข้าวมีน้อยเกี่ยวไม่ทัน ขณะที่ราคาข้าวปีนี้ถือสูงกว่าทุกปีที่ผ่านมา
ขณะที่นายณรงค์ จันทร์ประโคน ชาวบ้านตำบลสายตะกู อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นพื้นที่เขตรอยต่อติดกับอำเภอพนมดงรัก ก็ได้บรรทุกข้าวเปลือกสดมาขายด้วยเช่นกัน บอกว่า เอามาประมาณตันกว่าเป็นข้าวเปลือกสดทั้งหมด ต้องเร่งเกี่ยวแล้วนำมาขายเพราะว่าสถานการณ์ชายแดนไม่แน่นอนตึงเครียดขึ้นทุกวัน ตากไว้เฉพาะที่ไว้กินเท่านั้น
ด้านผู้รับซื้อ บอกว่า ช่วงนี้ชาวบ้านนำข้าวมาขายกันเยอะส่วนมากจะเป็นขายข้าวสด รับซื้ออยู่ที่ราคา 13.30 บาท ไม่หักความชื้นแต่สิ่งปลอมปนต้องไม่เกิน 3 เปอร์เซ็นต์ ถ้าเกินจะไม่รับเลย และจากการสอบถามชาวบ้านที่นำข้าวมาขาย บอกว่ามาจากสถานการณ์ชายแดนที่ตึงเครียดอยู่ขณะนี้
#ภูมิภาค-63







