วันที่ 19 พ.ย. 68 นายอนันต์ นาคนิยม ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ นำคณะแพทย์ พยาบาล และอาสาสมัครจาก หน่วยแพทย์พระราชทานเคลื่อนที่ พอ.สว. (แพทย์อาสาสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี) จังหวัดชัยภูมิ ลงพื้นที่ปฏิบัติงานให้บริการประชาชน ณ สนามโรงเรียนเนรมิตศึกษา หมู่ที่ 2 ตำบลโอโล อำเภอภูเขียว ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการแสดงความจงรักภักดี และถวายเป็นพระราชกุศลแด่ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ภายหลังการสวรรคตเมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2568
กิจกรรมในวันนี้เริ่มต้นด้วย พิธีกล่าวถวายความอาลัยและยืนสงบนิ่ง 93 วินาที เบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง โดยมีคณะเหล่ากาชาดจังหวัดและหน่วยงานต่าง ๆ เข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง แพทย์เคลื่อนที่ พอ.สว. มุ่งมั่นทำตามพระราชปณิธาน "สมเด็จย่า" จังหวัดชัยภูมิได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ ให้เป็นจังหวัดแพทย์อาสา ลำดับที่ 46 ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2520 และได้มีการปฏิบัติงานต่อเนื่อง โดยมี สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ทรงเป็นประธานกิตติมศักดิ์ มูลนิธิแพทย์อาสาฯ
ในวันนี้ หน่วยแพทย์ พยาบาล ได้ออกให้บริการตรวจรักษาแก่ประชาชนผู้เจ็บป่วย โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ครอบคลุมทั้งการตรวจโรคทั่วไป การแพทย์ทางเลือก และทันตกรรมทางช่องปาก โดยเน้นการส่งต่อผู้ป่วยที่จำเป็นต้องรับการรักษาเฉพาะทางไปยังโรงพยาบาลในจังหวัดหรือต่างจังหวัดอย่างเร่งด่วน เพื่อให้สอดคล้องกับพระราชปณิธานของ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี (สมเด็จย่า) ที่ทรงห่วงใยสุขภาพของประชาชนในพื้นที่ห่างไกล
ชาวบ้าน ต.โอโล แห่รับบริการแน่น! พบป่วยระบบทางเดินหายใจและโรคเรื้อรังสูง
การออกหน่วยแพทย์ในครั้งนี้ ได้บูรณาการร่วมกับ โครงการจังหวัดเคลื่อนที่ ซึ่งมีหน่วยงานภาครัฐและเอกชนระดับจังหวัดมาร่วมให้บริการ ให้ความรู้ และแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนอื่น ๆ เพื่อให้ประชาชนใน ต.โอโล และพื้นที่ใกล้เคียง อำเภอภูเขียว ซึ่งส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม (ทำนา, ทำสวน) ได้เข้าถึงบริการของรัฐอย่างครบวงจร และลดภาระค่าใช้จ่ายในการเดินทาง
จากการตรวจรักษา พบว่าประชาชนส่วนใหญ่มีอาการเจ็บป่วยด้วย โรคระบบทางเดินหายใจ รวมถึง โรคเรื้อรัง ที่พบได้บ่อยในผู้สูงอายุ เช่น เบาหวานและความดันโลหิตสูง ซึ่งแพทย์ได้ให้คำแนะนำและมีการส่งต่อผู้ป่วยบางรายให้ได้รับการรักษาต่อเนื่องที่โรงพยาบาลประจำอำเภอภูเขียว และโรงพยาบาลประจำจังหวัดชัยภูมิ เพื่อให้มั่นใจว่าประชาชนจะได้รับการดูแลสุขภาพอย่างดีที่สุด
#ภูมิภาค-49








