ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 22.00 น.ของวันที่ 17 พ.ย.68 ที่ผ่านมานายธิติ (สงวนนามสกุล) อายุ 62 ปี ชาวต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี หลังถูกคนร้ายไม่ทราบชื่อก่อเหตุวางเพลิงเผาลอบบ้านภายในซอยหมูยอนายเติม ถ.หมากแข้ง ทำให้เกิดไฟลุกไหม้ได้รับความเสียหาย ก่อนหลบหนีไป โชคดีที่ดับไว้ทัน โดยวงจรปิดจับภาพได้ชัดเจนขณะที่หนุ่มหลอนยาบุกเข้าไปชั้นสองของบ้านก่อนวางเพลิงแล้วขับรถจยย.หลบหนี
นายธิติ ให้การว่า ระหว่างอยู่ภายในบ้าน ได้สังเกตเห็นแสงไฟลุกไหม้บริเวณชั้นบนของบ้านอีกหลังซึ่งไม่มีใครอยู่ ซึ่งเป็นบ้านเก่าสองชั้น จึงรีบเข้าดับและมีชาวบ้านถ่ายคลิปเอาไว้ร้องตะโกนว่าไฟไหม้ ก่อนนำหลักฐานภาพถ่ายและคลิปจากกล้องวงจรปิดมามอบให้ตำรวจเพื่อดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุให้ถึงที่สุด หลังรับแจ้ง พ.ต.ท.จักรพงษ์ ต้องแต้ม สว.(สอบสวน) สภ.เมืองอุดรธานี รับเรื่องร้องทุกข์และประสานงานสืบสวนเร่งติดตามตัวผู้ก่อเหตุทันที
นายธิติ เปิดเผยเพิ่มเติมว่า ก่อนเกิดเหตุในช่วงบ่ายวานนี้ คนก่อเหตุเคยขี่รถจักรยานยนต์มาจอดหน้าร้านของตนและเข้ามาซื้อมีดปลายแหลม พร้อมพูดจาข่มขู่คล้ายคนคุ้มคลั่ง ตนก็ถามกลับไปใครทำอะไรมึง และเขาก็ออกไป ก่อนไปตะโกนมาว่าบักเติม “มึงต้องกราบตีนกู” ต่อมาช่วงค่ำก็กลับมาก่อเหตุวางเพลิงเผาบ้าน ซึ่งตนเคยเห็นชายรายนี้มาเช่าบ้านอยู่ในซอย แต่ไม่ได้รู้จักหรือมีปัญหากัน เชื่อว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอาจมาจากอาการหลอนเพราะเสพยาเสพติด พร้อมขอบคุณตำรวจที่สามารถติดตามตัวผู้ก่อเหตุได้อย่างรวดเร็ว
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนชุดพิรุณติดตามจับกุมผู้ต้องสงสัยได้คือนายอินทรา (สงวนนามสกุล) หรือ “โอ” อายุ 26 ปี จากการสอบปากคำเบื้องต้นพบว่านายโอมีอาการหงุดหงิด ไม่ให้ความร่วมมือ พร้อมตรวจพบสารเสพติดในร่างกาย ก็พบฉี่สีม่วง
นายโอ ให้การว่า สาเหตุที่ลงมือเพราะโกรธเกี่ยวกับเรื่องครอบครัวที่เกิดขึ้นนานมาแล้ว แต่ไม่สามารถเล่ารายละเอียดได้ ระบุเพียงว่า “นึกได้ก็ทำเลย ไม่ได้เตรียมการอะไร” ขอเก็บสาเหตุเผาบ้านไว้ในใจคนเดียว แต่ที่แน่ๆ คือแค้นเจ้าของบ้านและเห็นผีโผล่ในบ้านหลังนี้ ยอมรับว่าเสพยามาหลายเม็ด เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าอยากขอโทษเจ้าของบ้านหรือไม่ เจ้าตัวตอบสั้น ๆ ว่า “ไม่”
ทั้งนี้ตำรวจแจ้ง 2 ข้อหาหนุ่มหลอนยาคนนี้ในข้อหา “วางเพลิงเผาทรัพย์ผู้อื่น ตามประมวลกฎหมายอาญา และเสพยาเสพติดให้โทษ หลังตรวจพบสารเสพติดในร่างกาย โดยคดีนี้ตำรวจยังคงเร่งสอบสวนเพื่อหามูลเหตุจูงใจที่แท้จริง ก่อนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
#ภูมิภาค-66







