เจ้าหน้าที่ตั้งด่านสกัดเข้ม สุดท้ายจับได้คาด่าน! กระบะอีซูซุขนแรงงานต่างด้าว 4 ราย อ้างไม่รู้ว่าไม่มีเอกสาร แต่แรงงานให้การชัด จ่ายหัวละสองหมื่นกว่าบาทลักลอบเข้าชายแดนสังขละบุรี ทำงานโม่ข้าวโพดให้เถ้าแก่
เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 15 พ.ย.68 ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.พศวีร์ เรืองภู่ ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี และ พ.ต.อ.สธนทัต ตั้งสิทธิ์เสรีวงศ์ รอง ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี มีคำสั่งเข้มตั้งด่านตรวจเพื่อกวดขันวินัยจราจร พร้อมสกัดกั้นการลักลอบขนยาเสพติด บุคคลต่างด้าว และอาวุธปืน โดยมี พ.ต.อ.สุรยุทธ เมฆมังกร ผกก.สภ.เมืองกาญจนบุรี สั่งการให้ พ.ต.ท.โชคชัย ไทยเจริญ รอง ผกก.จร.สภ.เมืองกาญจนบุรี และกำลังเจ้าหน้าที่จำนวนหลายราย ตั้งจุดตรวจที่ถนนสายกาญจนบุรี–ด่านมะขามเตี้ย บริเวณหน้าด่านตรวจแม่กลอง ม.2 ต.ปากแพรก อ.เมือง จ.กาญจนบุรี
ขณะปฏิบัติหน้าที่ เจ้าหน้าที่พบรถกระบะอีซูซุ สีบรอนซ์เงิน ทะเบียนนครปฐม ขับเข้าด่าน จึงเรียกตรวจ พบผู้ขับขี่คือ นายวีโรจน์ อายุ 32 ปี ชาว อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม และมีชาย 1 หญิง 3 นั่งอยู่ท้ายกระบะในสภาพมีพิรุธ
หลังตรวจสอบพบว่าเป็น แรงงานต่างด้าวชาวเมียนมา 4 ราย ไม่มีเอกสารแสดงตนใด ๆ เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวและนำรถเข้าตรวจอย่างละเอียด
การสอบสวนเบื้องต้น แรงงานทั้ง 4 รายให้การว่า ลักลอบเข้ามาจากชายแดน อ.สังขละบุรี เสียค่าใช้จ่าย คนละสองหมื่นกว่าบาท ให้ขบวนการนำพาเดินทางเข้ามาทำงานโม่ข้าวโพดให้เถ้าแก่ชื่อ “นายกอล์ฟ” อายุประมาณ 31 ปี อยู่บ้านวังศาลา ต.ทุ่งลูกนก อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม และทำงานรับซื้อข้าวโพดจากชาวไร่ในพื้นที่ ต.วังเย็น อ.เมืองกาญจนบุรี แรงงานยืนยันว่า นายวีโรจน์ คนขับรู้ดีว่าทั้ง 4 คนเป็นชาวพม่าและไม่มีเอกสาร เพราะพักอยู่และทำงานร่วมกัน ก่อนถูกจับขณะเดินทางผ่านด่าน
ตำรวจจึงแจ้งข้อหา นายวีโรจน์ (ผู้ต้องหาที่ 1) “นำพา ช่วยเหลือ หรือซ่อนเร้นบุคคลต่างด้าวเพื่อให้พ้นการจับกุม” มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 50,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ผู้ต้องหาที่ 2–5 เป็นบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง อยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต เจ้าหน้าที่คุมตัวทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองกาญจนบุรี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
#ภูมิภาค-16







