เจ้าหน้าที่โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาทับเสลา เร่งสร้างความเข้าใจต่อสาธารณชน ยืนยันแม้น้ำเต็มอ่างที่ 160 ล้าน ลบ.ม. แต่ยังสามารถรองรับน้ำเพิ่มได้อีก 11 ล้าน ลบ.ม. ชี้สาเหตุที่ต้องชะลอการระบายน้ำเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรยามแล้ง และป้องกันไม่ให้ซ้ำเติมชุมชนที่ประสบภัยน้ำป่า วอนประชาชนติดตามข่าวสารจากทางราชการเท่านั้น หลังพบคุณตาวัย 79 ปี หวั่นประวัติศาสตร์ซ้ำรอยเขื่อนแตก
วันที่ 14 พฤศจิกายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำที่อ่างเก็บน้ำทับเสลา ต.ระบำ อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี หลังปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้นจนเต็มความจุ ส่งผลให้ประชาชนบางส่วนเกิดความวิตกกังวล โดยเฉพาะ นายฉบับ อายุ 79 ปี ชาวบ้านเพชรเจริญ ซึ่งได้แสดงความหวั่นใจที่น้ำในอ่างฯ ขึ้นถึงระดับ 160 ล้านลูกบาศก์เมตร โดยระบุถึงความกังวลว่า เจ้าหน้าที่อาจจะฝืนกักเก็บน้ำไว้จนเกิดเหตุการณ์ "สันเขื่อนแตก" เช่นที่เคยเกิดขึ้นเมื่อหลายสิบปีก่อน ซึ่งเคยส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต จึงเรียกร้องให้หน่วยงานค่อย ๆ ระบายน้ำออกจากอ่างเก็บน้ำตามธรรมชาติ
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่สอบถามข้อเท็จจริงจาก นายนนทนันท์ ทองคำ หัวหน้าฝ่ายส่งน้ำและบำรุงรักษาที่ 1 โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาทับเสลา ซึ่งได้เปิดเผยว่า ขณะนี้สถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำถือว่า เต็มอ่าง 100% อยู่ที่ระดับ 160 ล้านลูกบาศก์เมตรจริง แต่ยืนยันว่า อ่างเก็บน้ำยังสามารถกักเก็บน้ำเพิ่มได้อีก 11 ล้านลูกบาศก์เมตร รวมความจุสูงสุดที่ 171 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้นำกระสอบทรายมากั้นบริเวณสันเขื่อนเพื่อเป็นมาตรการเฝ้าระวังและดูระดับน้ำอย่างใกล้ชิดแล้ว
นายนนทนันท์ ชี้แจงถึงนโยบายการบริหารจัดการน้ำว่า เจ้าหน้าที่ต้องชะลอการระบายน้ำออกจากอ่างฯ ไว้ก่อน โดยมีเหตุผลสำคัญสองประการ คือ 1.เพื่อกักเก็บน้ำไว้เป็นหลักประกันสำหรับช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรในพื้นที่ในช่วงฤดูแล้งที่จะมาถึง และ 2.เพื่อป้องกันไม่ให้การปล่อยน้ำออกจากอ่างฯ ในปริมาณมากและรวดเร็ว ไปซ้ำเติมสถานการณ์น้ำท่วมในชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำป่าไหลหลากก่อนหน้านี้
ทั้งนี้ นายนนทนันท์ได้เน้นย้ำและฝากเตือนไปยังประชาชนในพื้นที่ ขออย่าได้ตื่นตระหนกกับข่าวลือ และขอให้ประชาชนรับข้อมูลข่าวสารสถานการณ์น้ำที่ถูกต้องและเป็นปัจจุบันจากหน่วยงานราชการโดยตรงเท่านั้น ซึ่งเจ้าหน้าที่จะรายงานสถานการณ์ให้ทราบก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์สำคัญใด ๆ ขึ้นอย่างแน่นอน
#ภูมิภาค-14








