“สุชาติ” สั่ง ตรวจซ้ำค่าสารหนูในแม่น้ำโขง พร้อมประสานจังหวัดตรวจสัตว์น้ำ พืช ดิน เพื่อสร้างความมั่นใจให้ประชาชน
เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2568 นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า จากการติดตามการแก้ไขปัญหาการปนเปื้อนสารหนูในแม่น้ำโขง พบว่า ค่าสารหนูที่ตรวจพบเกินค่ามาตรฐานเกิดขึ้นในช่วงเดือนสิงหาคม 2568 ในพื้นที่จังหวัดเลย หนองคาย และบึงกาฬ โดยมีค่าอยู่ระหว่าง 0.013 – 0.019 มิลลิกรัมต่อลิตร ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนดไว้ไม่เกิน 0.01 มิลลิกรัมต่อลิตร เนื่องจากช่วงเวลาดังกล่าวมีพายุฝนตกหนัก น้ำไหลเชี่ยว ความแรงของน้ำอาจดันตะกอนสะสมท้องน้ำ ทำให้ผลตรวจมีค่าสูง เมื่อมีการตรวจซ้ำในวันที่ 8 – 10 กันยายน 2568 ซึ่งการไหลของน้ำกลับสู่ภาวะปกติ พบค่าสารหนูต่ำกว่าค่าเกณฑ์มาตรฐานทุกจุด ยกเว้นในพื้นที่จังหวัดหนองคาย ที่มีค่าเกินมาตรฐานอยู่ที่ 0.011 มิลลิกรัมต่อลิตร
นายสุชาติ กล่าวต่อว่า “จากการตรวจสอบข้อเท็จของผลการตรวจวัดที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมา จึงได้ให้ทางกรมควบคุมมลพิษวางแผนปูพรมลงตรวจค่าสารหนูในแม่น้ำโขงซ้ำอีกครั้งในสัปดาห์หน้า โดยเฉพาะในจุดสำคัญทั้งหมดเพื่อยืนยันผลการตรวจวัดอีกครั้ง พร้อมกันนี้ ยังได้ให้ประสานกับทาง MRC หรือ คณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง ในส่วนของ สปป.ลาว เพื่อขอเก็บตัวอย่างน้ำในประเทศลาว หรือขอให้ทาง สปป.ลาว ส่งตัวอย่างน้ำมาให้ทางเราตรวจสอบร่วมด้วยอีกทางหนึ่ง เนื่องจากทั้งฝั่งไทยและฝั่ง สปป.ลาว มีการทำการเกษตรและการทำเหมืองทองคำ จึงจำเป็นต้องตรวจสอบซ้ำเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงว่าค่าสารหนูที่เกินมาตรฐานนั้น มีสาเหตุมาจากกิจกรรมใดเป็นหลัก เพื่อวางแนวทางการแก้ไขหรือเฝ้าระวังที่ตรงจุดต่อไป โดยผลการตรวจวัดตามแผนที่วางไว้คาดว่าจะทราบผลภายใน 7 - 14 วันหลังจากนี้ เพราะมีตัวอย่างน้ำและดินจำนวนมากที่ต้องตรวจสอบ”
นายสุชาติ กล่าวเพิ่มเติมว่า “หลังจากนี้ ได้มอบหมายให้ทั้งกรมควบคุมมลพิษ และกรมทรัพยากรน้ำ ร่วมกันสังเกตข้อมูลลำน้ำอย่างใกล้ชิดทุกแหล่ง หากพบว่าลำน้ำไหนมีลักษณะทางกายภาพที่มีความขุ่นผิดปกติเหมือนแม่น้ำกกที่ผ่านมา หรือตรวจพบค่าสารหนูผิดปกติ ให้ดำเนินการวางแผนลงพื้นที่ตรวจซ้ำโดยละเอียดได้ทันที เพื่อไม่ให้เกิดการตีประเด็นที่สร้างความตื่นตระหนกให้สังคมอีก สำหรับในพื้นที่จังหวัดภาคอีสานที่มีการตรวจพบค่าสารหนูนั้น เพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องให้แก่ประชาชน ได้กำชับให้กรมควบคุมมลพิษประสานงานกับผู้ว่าราชการจังหวัด แจ้งการปฏิบัติตัวที่ถูกต้องไปยังประชาชนอย่างทั่วถึง โดยในช่วงที่รอผลการตรวจสอบอย่างเป็นทางการอีกครั้ง การใช้กิจกรรมทางน้ำสามารถใช้ได้ปกติ เพียงแต่ควรหลีกเลี่ยงการบริโภคน้ำจากแหล่งน้ำโดยตรงและควรมีการกรองน้ำให้ผ่านมาตรฐานเสียก่อน นอกจากนี้ ยังได้ขอให้จังหวัดพิจารณาประสานกับประมงจังหวัด และเกษตรจังหวัด ลงพื้นที่พูดคุยกับชาวบ้าน รวมถึงตรวจสัตว์น้ำ ตรวจพืช และตรวจสอบค่าดิน ตามที่ชาวบ้านกังวล โดยเฉพาะในพื้นที่ จ.หนองคาย เพื่อให้ได้ผลที่ชัดเจนมาวิเคราะห์หาสาเหตุร่วมกันอย่างถูกต้องตามหลักวิชาการต่อไปเพื่อคลายข้อกังวลให้กับประชาชน”








